Joker กับก้าวครั้งยิ่งใหญ่ คว้ารางวัลสูงสุดของเทศกาลหนังเวนิส 2019
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตัวละครจาก “ดีซีคอมิกส์” อย่างโจ๊กเกอร์ ในหนังเดี่ยว Joker จะสามารถคว้ารางวัลสูงสุดในเทศกาลหนังเวนิสปี 2019 อย่างรางวัล “ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” มาครองเป็นที่เรียบร้อย
เทศกาล Venice Film Festival ครั้งที่ 76
เทศกาล Venice Film Festival ครั้งที่ 76 หรือเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ซึ่งจัดขึ้นบนเกาะลิโด เมืองเวนิส ในประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 7 กันยายน 2019 ตลอดระยะเวลา 11 วัน ซึ่งจะมีหนังจากหลากหลายประเทศเข้าฉายหมุนเวียนกัน
ความโดดเด่นของเทศกาลนี้ อย่างที่คอหนังสายคุณภาพทราบกันดี ก็คือเป็นเทศกาลที่หนังคาดหวังที่จะเข้าชิงรางวัลออสการ์มาเปิดตัวในเทศกาลนี้ ดังนั้นหนังเรื่องไหนก็ตามที่ชนะรางวัลสิงโตทองคำ (Golden Lion) จะมีบทบาทอย่างมากในเวทีรางวัลออสการ์ในปีถัดไป ซึ่งกลายเป็นว่าปีนี้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดอย่าง Joker ได้คว้ารางวัลสูงสุดไปครอบครอง
การเปิดตัวของหนัง Joker เทศกาลเวนิสครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการเปิดตัววายร้ายครั้งสำคัญจาก “ดีซี คอมิกส์” โดยหลังจากที่หนังฉายรอบปฐมทัศน์จบลง หนังสามารถกวาดเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างยาวนานถึง 8 นาทีด้วยกัน โดยผลงานหนังเรื่องนี้ กำกับโดย ทอดด์ ฟิลลิปส์ ผู้กำกับภาพยนตร์ในสายตลกโปกฮา ป่นห่ามสัปดน ซึ่งเคยมีผลงานหนังวัยรุ่นอาทิ Road Trip และ Old School หนังตลกคู่หู Starsky & Hutch รวมไปถึงไตรภาคผองเพื่อนคนเมาค้างอย่าง The Hangover
สิ่งที่น่าจดจำอย่างมากสำหรับ Joker คือหนังเรื่องนี้ถือเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากคอมิกส์เรื่องแรกที่สามารถคว้ารางวัลสูงสุดจากเทศกาลเวนิสมาครอบครอง ซึ่งหลังจากประกาศผลรางวัลตัวผู้กำกับ ทอดด์ ฟิลลิปส์ และ วาคีน ฟีนิกซ์ นักแสดงนำผู้รับบทโจ๊กเกอร์ ได้เดินทางมารับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ด้วยตัวเอง ขณะขึ้นรับรางวัลผู้กำกับ ทอดด์ ฟิลลิปส์ ก็ได้กล่าวขอบคุณทางสตูดิโอส์ว่า “ขอบคุณ Warner Bros. และ DC สำหรับการก้าวออกมาจากโซนปลอดภัยของพวกเขา และยอมเสี่ยงไปกับผมและหนังเรื่องนี้อย่างกล้าหาญ” นอกจากนี้ ฟิลลิปส์ ยังขอบคุณ วาคีน ฟีนิกซ์ ที่เชื่อมั่นในตัวเขาด้วย “หนังเรื่องนี้คงเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจาก วาคีน ฟีนิกซ์ วาคีน เขาเป็นคนที่บ้าระห่ำสุด ๆ หลักแหลมสุด ๆ แล้วก็เป็นชายผู้กล้าหาญที่เปิดใจสุด ๆ เลยด้วย ขอบคุณมากที่เชื่อมั่นในตัวผมด้วยพรสวรรค์อันบ้าคลั่งของคุณ”
หนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในจักรวาล DCEU
แฟนคลับจากค่ายดีซี อย่าจำสับสนนะ เพราะหนัง Joker เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในจักรวาลดีซี อย่างเช่น Batman v Superman: Dawn of Justice, Justice League หรือกระทั่ง Suicide Squad ก็ตาม เพียงแค่ว่าหนังเรื่องนี้จะเน้นถ่ายทอดปมในชีวิตของตัวละครอย่างโจ๊กเกอร์ในฐานะผู้ชายธรรมดาที่ต้องเกิดมาเพื่อเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งวันหนึ่งก็เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตครั้งใหญ่ที่ทำให้โลกใบนี้ต้องจดจำเขาในชื่อ “โจ๊กเกอร์”
ความพิเศษของ “โจ๊กเกอร์” ในหนังเรื่งนี้ไม่ได้อ้างอิงจากเวอร์ชั่นคอมิกส์ แต่เป็นการถ่ายทอด กลั่นกรองมาจากตัวผู้กำกับทอดด์ ฟิลลิปส์ และมือเขียนบท สก็อตต์ ซิลเวอร์ซึ่งจะทำให้ผู้ชมได้เห็นแง่มุมใหม่ๆของตัวละครตัวนี้
นอกจากตัวเรื่องราวที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่บรรดาผู้ชมต่างกล่าวชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันก็คือการรับบทนำของวาคีน ฟีนิกซ์ ในบทของโจ๊กเกอร์ ซึ่งตัวบทภาพยนตร์เองได้ทำการเจาะลึกตัวละครในแบบหนัง Character Study และวาคีนก็แสดงความเจ็บปวดรวดร้าว น่าสมเพชเวทนาของตัวละครนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนสื่อฯ นอกคาดการณ์เลยด้วยซ้ำว่า วาคีนนี่แหละคือตัวเต็งในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปีหน้าอย่างแน่นอน
หนังน่าสนใจเรื่องอื่นๆในเทศกาล
นอกจาก Joker แล้ว หนังที่น่าสนใจในเทศกาล Venice Film Festival ครั้งที่ 76 (ที่มีโปรแกรมเตรียมเข้าฉายในบ้านเรา) ก็คือหนังดราม่า ไซไฟอย่าง Ad Astra ผลงนการกำกับของ เจมส์ เกรย์ ว่าด้วยเรื่องราวของนักบินอวกาศ รอย แม็คไบรด์ (แบรด พิตต์) ต้องรับหน้าที่ทำภารกิจสำคัญที่สุดในชีวิต นั่นก็คือการเดินทางข้ามระบบสุริยจักรวาล เพื่อตามหาพ่อ (ทอมมี่ ลี โจนส์) ผู้เป็นที่รักที่หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งสาเหตุนั้นอาจข้องเกี่ยวกับปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ และเป็นความลับที่คุกคามการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษยชาติบนโลกของเรา โดยสไตล์ของหนังเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นความโฉ่งฉ่างโครมครามลุ้นระทึก แต่จะเน้นบรรยากาศการเดินเรื่องอันเนิบช้า ศึกษาสภาวะจิตใจตัวละครในการรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ และแน่นอนว่า การแสดงของแบรด พิตต์เองก็ได้รับคำชื่นชมเช่นเดียวกัน (กำหนดเข้าฉายในไทย 19 กันยายน 2019)
และหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ผู้ชมชาวไทยจะได้ชมกันทางสตรีมมิ่ง Netflix ก็คือหนังดราม่าเข้มข้นอย่าง Marriage Story ผลงานการกำกับของ โนอาห์ บอมบาค และนำแสดงโดยสองดารานำอย่าง อดัม ไดรเวอร์ และ สการ์เล็ตต์ โจฮันส์สัน ว่าด้วยเรื่องราวการหย่าร้างของสองสามี ภรรยาที่ชีวิตครอบครัวเดินไปสู่ความแตกหักอันเกินเยียวยา แต่ด้วยวิธีการนำเสนอในแบบหนังตลก ซิทคอม ที่มาพร้อมอารมณ์ขัน ตลกร้ายแต่น่าเศร้าและชวนถอนหายใจ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชมและนักวิจารณ์จากเทศกาลต่างก็ชื่นชมว่า สองดารานำนั้น รับบทกันได้อย่างเข้าถึงบทบาทจนน่าจะได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตามสถาบันต่างๆในช่วงต้นปีหน้าอย่างแน่นอน (กำหนดฉายทางสตรีมมิ่งวันที่ 6 ธันวาคม 2019)