Abominable ภารกิจพาเยติเพื่อนรักกลับหิมาลัย
แอนิเมชั่นเรื่องใหม่แกะกล่องจากค่ายดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชั่น และเพิร์ล สตูดิโอ บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ไกลกว่า2,000 ไมล์ จากท้องถนนของประเทศจีน สู่ดินแดนแห่งหิมะอันสวยงามตระการตาของเทือกเขาหิมาลัย
ตัวละครเอกเป็นผู้หญิงเรื่องแรกของดรีมเวิร์กส์
เมื่อวัยรุ่นสาว นามว่า ยี (โคลอี้ เบนเน็ต) เผชิญหน้ากับเยติน้อย บนดาดฟ้าตึกอพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่ ยีกับเพื่อนๆ อันได้แก่ จิน (เทนซิ่ง นอร์เกย์ เทรนเนอร์) และเผิง ญาติของเขา (อัลเบิร์ต ไช่) ตั้งชื่อเยติตัวนั้นว่า “เอเวอเรสต์” หลังจากนั้น ทั้งหมดได้ร่วมเดินทางอันยิ่งใหญ่เพื่อพาสิ่งมีชีวิตวิเศษตัวนี้กลับคืนสู่ครอบครัวของเขาที่อยู่ ณ จุดสูงที่สุดของโลกนั่นคือเทือกเขาเอเวอร์เรส
หลังจากกล่าวลาแม่ของ ยี(มิเชลล์ หว่อง) และคุณย่า ไน่ไน่ (ไช่ฉิน) สามเพื่อนซี้ต้องพยายามเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของเบอร์นิช (เอ๊ดดี้ อิซซาร์ด) มหาเศรษฐีนายทุนที่ต้องการจับตัวเยติ ที่คล้ายกับเยติที่เขาเคยเจอเมื่อสมัยเป็นเด็ก และดร.ซาร่า (ซาร่าห์ พอลสัน) นักสัตววิทยาที่พยายามจะจับเยติด้วยมือที่แสนละโมบของเธอ ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยให้ เอเวอเรสต์ (ให้เสียงโดย โจเซฟ อิซโซ) ได้กลับถึงบ้าน และได้กลับไปอยู่กับครอบครัวของเขาอีกครั้ง
การเดินทางครั้งนี้ ในมุมกลับกันเอเวอเรสต์จะช่วย ยี, จิน และเผิง ในการปลดล็อคความกล้าหาญที่พวกเขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในตัว เมื่อพวกเขาต้องการจะส่งสิ่งมีชีวิตปริศนาตนนี้กลับไปยังบ้านของเขา เอเวอเรสต์ก็จะช่วยให้ทั้งสามค้นพบความสามารถในตัวเองเช่นเดียวกัน
จากความสัมพันธ์จากสัตว์เลี้ยงสู่เรื่องราวมหากาพย์
จิลล์ คัลตัน มือเขียนบทและผู้กำกับของ Abominable สั่งสมประสบการณ์ด้านแอนิเมชั่นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ สำเร็จการศึกษาจาก Cal Arts เธอได้ทำงานเป็นแอนิเมเตอร์และศิลปินวาดสตอรี่บอร์ดที่พิกซาร์ ซึ่งเธอได้ร่วมทำงานกับภาพยนตร์เรื่อง Toy Story, Toy Story 2และA Bug’s Life ก่อนจะไปช่วยเขียนเรื่องให้กับMonster’s, Inc. เธอยังได้ใช้เวลานานหลายปีทำงานอยู่ที่โซนี่ แอนิเมชั่น ซึ่งเธอได้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องแรกของที่นั่น ได้แก่เรื่อง Open Season คัลตันได้พบกับดรีมเวิร์กส์อยู่นานหลายปีเพื่อพูดคุยถึงหลายโปรเจ็กต์ด้วยกัน แต่ก็จนเธอเสร็จภารกิจจากการฉาย How to Train Your Dragon
โอเรียนทัล ดรีมเวิร์กส์ บริษัทที่ต่อมากลายมาเป็น เพิร์ล สตูดิโอ และดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชั่น ได้เสนอไอเดีย “ภาพยนตร์เกี่ยวกับเยติ” ให้กับคัลตัน เธอรับเมล็ดพันธุ์ของไอเดียนี้กลับไปที่บ้านในเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในป่าของมารินเคาน์ตี้ ในนอร์เธิร์น แคลิฟอร์เนีย ที่นั่น คัลตันที่อยู่ท่ามกลางป่าไม้แดงขนาดใหญ่ เริ่มต้นจินตนาการถึงเรื่องราวเอพิคของเด็กสาวคนหนึ่งที่พบตัวเองอยู่บนทางแยกที่จินตนาการไม่ถึง
จากแรงบันดาลใจของจิลล์ คัลตัน ซึ่งเธอเองได้เลี้ยงสุนัขน้ำหนักกว่า 90 ปอนด์มาตลอดชีวิต ไม่จะเป็นหมาบลัดฮาวน์ที่ทั้งซน ไม่มีระเบียบ น้ำลายยืดตลอดเวลา เธอได้มองตัวเองและจินตนาการว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหมาของเธอตัวใหญ่ขึ้นและกลายเป็นเยติ ดังนั้นเยติในหนังเรื่อง Abominable จึงเป็นภาพจินตนาการที่เธอใส่ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองพ่วงเข้าไปด้วย
ในช่วงเวลาที่เธอยังเด็ก เธอจดจำได้ว่าเพื่อนบ้านมีสุนัขพันธุ์เกรทเดนตัวใหญ่น้ำหนักกว่า 200 ปอนด์ วันหนึ่งมันได้วิ่งไล่เธอ จิลล์พยายามวิ่งกระโดดลงจากบันไดเพื่อหนีมัน แต่กลายเป็นว่าเธอหกล้มและเจ้าหมายักษ์ได้กดเธอเอาไว้กับพื้นและหายใจใส่หน้าเธอ จ้องมองเธอ ความรู้สึกในช่วงเวลาดังกล่าว เธอทั้งกลัวและทึ่งไปพร้อมๆกัน จากเหตุผลเหล่านี้ทำให้เธอเลือกหยิบมาบอกเล่าในหนัง
พาคนดูไปสำรวจความรักและการสูญเสีย
บทภาพยนตร์เรื่อง Abominable ต้องการจะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวในธีมของความรักและความสูญเสีย ในแบบที่เรียบง่าย เข้าใจได้ทุกเพศ ทุกวัย เรื่องราวในหนังเรื่องต้นขึ้น เมื่อพ่อของยีตายไป และเอเวอเรสต์ก็หลงทาง ต้องพลัดพรากจากครอบครัวของเขา และไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้ ในชีวิตของเธอเอง ความทรงจำที่สาหัสที่สุดมาพร้อมความทรงจำที่เจ็บปวดที่สุด เธอรู้ดีว่าสำหรับคนดู เพื่อจะสร้างความผูกพันกับยีเธอต้องพูดถึงความเจ็บปวดแบบนั้น ไม่ใช่ถอยห่างจากมัน
ขณะที่เธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ คัลตันได้ถักทอเรื่องราวของเด็กวัย 16 ปีที่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งต้องเสียพ่อของเธอไป และเริ่มรู้สึกเหมือนไม่เข้าใจกับแม่และย่า ผู้พยายามจะทำให้ ยีเปิดใจ และกลับมาผูกพันกับครอบครัวอีกครั้ง คัลตันต้องการให้ ยีเป็นตัวของตัวเองและคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง เป็นทอมบอยผู้ไม่พร้อมที่จะเผยความเจ็บปวดที่แท้จริงออกมา
ยีมาเจอเอเวอเรสต์บนดาดฟ้าตึกในช่วงวิกฤตของชีวิตพอดี เมื่อเธอเริ่มเห็นว่าเธอต้องหันไปสร้างความผูกพันและเข้าใจกับคนอื่นๆ อีกครั้ง เพราะเอเวอเรสต์ต้องห่างจากบ้านของเขาในหิมาลัย และต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ยีเรียนรู้ที่จะเปิดใจและตัดสินใจที่จะพาเขากลับไปยังที่ที่เขาจากมา ภารกิจในครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการเติมเต็มอารมณ์ของตัวละครเอง ซึ่งคนดูจะได้ทำความเข้าใจตัวละครยี ไปพร้อมๆกับการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนั่นเอง