15 เหตุผลสุดประหลาดที่ยืนยันว่า "โจ๊กเกอร์" คือวายร้ายอันดับ 1 ตลอดกาลจากโลกคอมิกส์
ถ้าเอ่ยถึงเหล่าซูเปอร์ฮีโร ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงอาจจะต่างกัน บางคนอาจจะนึกถึง Superman บางคนก็ชอบ Spider-Man และ Batman ซูเปอร์ฮีโรที่เป็นเพียงคนธรรมดาก็อาจจะเป็นหนึ่งในดวงใจหลาย ๆ คน แต่กลับกันถ้าถามว่าแล้ว “วายร้าย” ตัวไหนล่ะ ที่เราจะนึกถึงเป็นรายแรก แน่นอนว่าชื่อที่หลายคนนึกถึงก็จะเป็น “Joker” คู่ปรับอันดับ 1 ตลอดกาลของ Batman และเป็นวายร้ายที่เรารู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันมาอย่างยาวนาน
ด้วยความร้ายกาจและเอกลักษณ์อันโดดเด่นทำให้ Joker ได้ปรากฏตัวบนจอภาพยนตร์มาหลายครั้งแล้ว มีนักแสดงระดับแถวหน้ามาหลายคนเวียนกันมาสวมบทบาทเป็น Joker และในวันนี้ก็นับว่าเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่วายร้ายลือนามรายนี้ ก็ได้ฤกษ์มีหนังเป็นของตัวเอง และในรอบนี้หนังจะเล่าความเป็นมาของ โจ๊กเกอร์ ล้วน ๆ ไม่ใช่ในฐานะวายร้ายของ Batman อีกแล้ว เพื่อต้อนรับหนัง Joker ที่กำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงความยอดเยี่ยมทั้งตัวหนังและการแสดงอันน่าทึ่งของวาคีน ฟินิกซ์ ผู้เขียนจึงขอหยิบเรื่องราวน่ารู้อันสุดประหลาดเกี่ยวกับตัว Joker มาเล่าสู่กันฟัง ว่าทำไมวงการถึงยอมรับเขาในฐานะวายร้ายอันดับ 1 ตลอดกาล
1.โจ๊กเกอร์ ในหนังสือการ์ตูนเกือบตายไปตั้งแต่ 80 ปีที่แล้ว
ย้อนไปถึงปี 1940 นู่น เมื่อตอนที่หนังสือการ์ตูน Batman เล่มแรกออกจำหน่าย โจ๊กเกอร์ ก็ปรากฏตัวในเล่มแรกนั้นเลย แล้วในตอนจบของเล่มแรกนั้น โจ๊กเกอร์ ก็ถูกแบตแมนสังหารไปแล้วด้วย แม้แต่ตัวการ์ตูนก็ยังโชค เมื่อบรรณาธิการมาเห็นจุดจบของ โจ๊กเกอร์ ก็รู้สึกเสียดาย ด้วยเล็งเห็นว่า คาแรกเตอร์อันโดดเด่นของวายร้ายตัวนี้น่าจะสานต่อไปแล้วได้รับความนิยม เลยสั่งให้คนเขียนสานต่อเรื่องราวอีกหน่อยให้โจ๊กเกอร์ฟื้นกลับ
2.โจ๊กเกอร์รู้ว่าบรู๊ซ เวย์น คือแบตแมน แต่เค้าก็ไม่สนใจ
ในหนังสือการ์ตูนหรือในหนังก็ไม่ได้มีการเอ่ยถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่มีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่สนับสนุนว่าแท้จริงแล้วโจ๊กเกอร์น่ะรู้มาตลอดว่าตัวจริงของ “แบตแมน” ก็คือ “บรู๊ซ เวย์น” อย่างเช่นโจ๊กเกอร์มักจะมุ่งเป้าทำร้ายคนที่ใกล้ชิดบรู๊ซ เวย์น แม้กระทั่ง พ่อบ้านอัลเฟรด ก็ยังเคยโดนโจ๊กเกอร์ตัดมือขาดไปข้างหนึ่ง มุมมองของโจ๊กเกอร์ เขาไม่ได้มองว่า แบตแมน คือร่างซูเปอร์ฮีโรของบรู๊ซ เวย์น แต่โจ๊กเกอร์มองว่า บรู๊ซ เวย์น คือหน้ากากปิดบังตัวตนจริงของแบตแมนต่างหาก
3.มีสมุนคู่กายชื่อ “แก็กกี้”
ในหนังสือการ์ตูน Batman#186 เป็นเล่มที่ แก็กส์เวิร์ธ เอ. แก็กส์เวอร์ธี ชื่อเล่นว่า “แก็กกี้” สมุนคู่กายของโจ๊กเกอร์ ได้ปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก ก่อนหน้าที่ แก็กกี้จะมาเป็นคนสนิทของโจ๊กเกอร์ เขาเป็นตัวตลกในคณะละครสัตว์ ด้วยเหตุที่เป็นชายร่างแคระ ก็เลยได้โชว์ประจำเป็นตัวตลกเดินไต่ลวด แต่แล้วคนดูก็เริ่มเบื่อการแสดงของแก็กกี้ บวกกับความเบื่อหน่ายของแก็กกี้เอง เลยผันตัวมาเป็นวายร้ายข้างกายโจ๊กเกอร์ แก็กกี้รับหน้าที่สมุนคนสนิทของโจ๊กเกอร์มาอย่างยาวนาน จนกระทั่ง “ฮาร์เลย์ ควินน์” มารับช่วงต่อในภายหลัง
4.มาร์ก แฮมิลล์ รับหน้าที่พากย์เสียง Joker มายาวนานกว่า 20 ปี
มาร์ก แฮมิลล์ นักแสดงชายที่คอหนังฮอลลีวู้ดรู้จักกันดีในบทบาท ลุค สกายวอล์กเกอร์ แต่งานถนัดของมาร์กที่น้อยคนรู้ก็คือ เขาเป็นนักพากย์ตัวยงของวงการ และตัวละครแอนิเมชันที่เขาพากย์มายาวนานก็คือ “โจ๊กเกอร์” ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะในน้ำเสียงที่แหบ และให้ความรู้สึกถึงความโรคจิตนิด ๆ เสียงของมาร์กจึงเหมาะเจาะมากกับบท โจ๊กเกอร์, มาร์ก แฮมิลล์ เพิ่งยุติบทบาทตัวแทนเสียงของโจ๊กเกอร์เมื่อไม่นานมานี้เอง เขาทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายในวิดีโอเกม “Batman: Arkham Asylum” แต่มาร์กก็ยังถนัดพากย์บทบาทร้าย ๆ อยู่ดี ล่าสุดก็ไปพากย์เสียงให้ “ชัคกี้” เจ้าตุ๊กตาผี
5.ถูกวางตัวให้มาปรากฏตัวในบทรับเชิญใน The Dark Knight Rises (2012)
ด้วยการแสดงอันน่าจดจำของ ฮีธ เล็ดเจอร์ กับบทบาทโจ๊กเกอร์ใน The Dark Knight (2008) ที่ประทับใจทีมงานตั้งแต่ขั้นตอนถ่ายทำ ทางทีมงานก็เลยเขียนบทให้ โจ๊กเกอร์ของฮีธ เล็ดเจอร์ มาปรากฏตัวในฐานะบทบาทรับเชิญในหนัง The Dark Knight Rises แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่ฮีธ ได้จากไปเสียก่อน เราก็เลยไม่ได้เห็นโจ๊กเกอร์ของเขาอีกครั้ง
6.เคยโดนซูเปอร์แมนต่อยทะลุหน้าอกมาแล้ว
ในฐานะวายร้ายตัวฉกาจของแบตแมน แต่มนุษย์ค้างคาวก็ยังมีความอดทนต่อความเลวร้ายของโจ๊กเกอร์ เพราะเขาเชื่อมั่นเสมอมาว่า โจ๊กเกอร์เป็นโรคจิต และน่าจะรักษาให้หายขาดได้ จึงไม่เคยคิดจะสังหารโจ๊กเกอร์ แต่กลับกันซูเปอร์แมนไม่ได้มีความอดทนได้อย่างแบตแมน ในหนังสือการ์ตูนตอน “Injustice: Gods Among Us” โจ๊กเกอร์เล่นเกมร้ายกับซูเปอร์แมน ด้วยการจัดฉากให้ซูเปอร์แมนเข้าใจผิดว่าเขาพลั้งมือฆ่า ลูอิส เลน คนรักของเขาเอง เมื่อซูเปอร์แมนรู้ความจริงว่าเป็นแผนร้ายของโจ๊กเกอร์ ไม่ต้องยั้งคิดแบบแบตแมน ซูเปอร์แมนระบายความแค้นด้วยการปล่อยกำปั้นทะลุหน้าอกของโจ๊กเกอร์
7.เกือบจะมีหนังเดี่ยวของ Joker มาแล้วหลายครั้ง
Joker 2019 ไม่ใช่ครั้งแรกของ Joker ที่สตูดิโอพยายามจะสร้างหนังเดี่ยวให้กับวายร้ายกระฉ่อนโลกรายนี้ แต่ปัญหาหลักที่ทำให้โครงการหนังเดี่ยวของ โจ๊กเกอร์ ต้องเป็นอันล้มเลิกไปก็คือ “ภาพพจน์” ในฐานะตัวร้าย ในอดีตที่ผ่านมายังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง แล้วถ้าสร้างออกมาเป็นหนังดี่ยว ก็นับว่าเป็นการเสี่ยงพอดู บวกกับกติกาคุมเข้มของ “สมาคมหนังสือการ์ตูนแห่งอเมริกา” Comics Code Authority ที่มาจุกจิกจุ้นจ้านถึงขนาดบัญญัติไว้ว่า บรรดาวายร้ายในการ์ตูนจะต้องถูกจับกุม หรือส่งเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในตอนจบทุกรายไป นั่นจึงเป็นเหตุให้เราเห็น โจ๊กเกอร์ ในการ์ตูนจะต้องถูกส่งเข้าโรงพยาบาลจิตเวชอาร์คัมอยู่บ่อยครั้งในตอนจบ
8.ฮาร์ลีย์ ควินน์ คนรักและมือขวาของโจ๊กเกอร์ ภาพลักษณ์แตกต่างจากเวอร์ชันการ์ตูนมาก
การปรากฏตัวของ มาร์กอต ร็อบบี้ ในบทบาทของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ในหนัง Suicide Squad นั้น เรียกได้ว่าสร้างเสียงตอบรับที่ดีอย่างมาก และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ ฮาร์ลีย์ ควินน์ ได้อย่างมีสีสัน แต่ก็ไม่เหลือเค้าเดิมของ ฮาร์ลีย์ ควินน์ จากหนังสือการ์ตูน เพราะในหนังสือการ์ตูนนั้น ฮาร์ลีย์ เริ่มปรากฏตัวใน “Batman: The Animated Series” ในช่วงยุค 90s อดีตนั้นเธอคือ ดร.ฮาร์ลีน ควินเซล เป็นจิตแพทย์บำบัดในโรงพยาบาลจิตเวชอาร์คัม แต่แล้วจิตแพทย์ก็ดันหลงรักโจ๊กเกอร์เสียเอง แล้วเธอก็เริ่มสูญเสียสภาพจิตตามโจ๊กเกอร์ไปอีกคน กลายเป็นว่า ฮาร์ลีย์ ควินน์ ในการ์ตูนได้รับความนิยมจากผู้อ่าน ทางคนเขียนเลยเก็บตัวเธอไว้ในการ์ตูนยาวนานกว่า 20 ปี
9.เหตุผลถึงการหายตัวไปของโจ๊กเกอร์ใน “The Dark Knight Rises”
อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้าว่าเดิมทีบทบาทของโจ๊กเกอร์ จะยังคงดำเนินต่อเนื่องมาใน “The Dark Knight Rises” ซึ่งเป็นภาคปิดไตรภาค Batman ของคริสโตเฟอร์ โนแลน แต่ด้วยสาเหตุสำคัญก็เพราะการจากไปอย่างน่าเศร้าใจของ ฮีธ เล็ดเจอร์ เจ้าของบทโจ๊กเกอร์อันน่าจดจำ แม้ในหนังจะไม่ได้มีการอธิบายอย่างเด่นชัดถึงชะตากรรมของโจ๊กเกอร์ แต่คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ได้อธิบายลงลึกถึงสาเหตุการหายตัวไปของโจ๊กเกอร์ใน “The Dark Knight Rises” ไว้ว่า “หลังการเสียชีวิตของ ฮาร์วีย์ เดนต์ หลังจากได้เป็นอัยการของก็อตแธม ทำให้มีการผลักดันร่างกฏหมายของเขาเข้าสภาและผ่านการลงมติเห็นชอบให้มีการบังคับใช้ ส่งผลให้บรรดาวายร้ายที่ถูกกักตัวไว้ในอาร์คัม ต้องถูกย้ายไปเข้าจองจำในเรือนจำแบล็กเกตทั้งหมด คงเว้นไว้แต่ “โจ๊กเกอร์” วายร้ายตัวฉกาจที่ทางการเลือกจะเมินเฉยแล้วปล่อยทิ้งไว้ที่อาร์คัมเพียงรายเดียว
10.โจ๊กเกอร์ฆ่าโรบิน (จริง ๆ นะ)
นับว่าเป็นเรื่องราวที่รุนแรงเรื่องหนึ่งในโลกหนังสือการ์ตูน หักล้างขนบธรรมเนียมที่ยึดถือกันมายาวนานว่า ซูเปอร์ฮีโรและสมาชิกฝ่ายดีจะต้องไม่ถูกฆ่าจากเหล่าร้าย แล้วโจ๊กเกอร์ก็ขอเป็นบุคคลสำคัญที่หักล้างระเบียบความเชื่อนั้นซะ ในหนังสือการ์ตูน BATMAN ปี 1989 โจ๊กเกอร์จับตัว โรบิน ได้ เขาจับโรบินมัดแล้วขังไว้ในโกดังร้าง จากนั้นโจ๊กเกอร์ก็ระเบิดโกดังนั้นซะ โดยที่โรบินยังอยู่ภายใน
11.ตัวตนจริงที่ได้รับการยอมรับมากสุดคือ “แจ็ก นาเพียร์”
ตลอด 80 ปี เรื่องราวปูมหลังของโจ๊กเกอร์ถูกเขียนขึ้นมาหลายครั้งหลายที่มา หลาย ๆ ตัวตนถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาแล้วก็ถูกลืมเลือนไป แต่ตัวตนหนึ่งที่ได้รับการพูดถึงอย่างมากในวงกว้างก็คือ “แจ็ก นาเพียร์” เป็นตัวตนดั้งเดิมของโจ๊กเกอร์ ที่แม้แต่คนภายในดีซีคอมิกส์เองก็เห็นพ้องยอมรับด้วยเช่นกัน และยังถูกหยิบมาอ้างอิงอยู่อีกหลายครั้ง เช่นเดียวกับ โจ๊กเกอร์ ในเวอร์ชันของ แจ็ก นิโคลสัน ใน Batman (1989) ก็ใช้ชื่อเดิมว่า แจ็ก นาเพียร์ เช่นกัน แต่จากนี้ไปโจ๊กเกอร์ น่าจะถูกจดจำในชื่อของ อาร์เธอร์ เฟล็ก เสียมากกว่า
12.แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ตัวตน”โจ๊กเกอร์”
ต้องย้อนไปในอดีตกาลยุคหนังขาว-ดำ นู่นเลย ““The Man Who Laughs”” ออกฉายเมื่อปี 1928 เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยายชื่อดังของ วิกเตอร์ ฮูโก ตัวเอกของเรื่องชื่อว่า “กวินเพลน” เป็นชายที่ถูกพระราชาพิพากษาลงโทษให้โดนนำตัวไปผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าให้ริมผีปากฉีกยิ้มอยู่ตลอดเวลา ดูจากหน้าตาของ กวินเพลน แล้วก็ต้องยอมรับล่ะว่านี่คือต้นกำเนิดของ โจ๊กเกอร์ ตัวจริงเลยล่ะ
13.แจ็ก นิโคลสัน รับทรัพย์อื้อซ่าจากหนัง Batman
ในวันที่ ทิม เบอร์ตัน ให้กำเนิดหนัง Batman (1989) ชื่อที่ฮอตที่สุดในเวลานั้นก็คือ แจ็ก นิโคลสัน ผู้มารับบทบาทเป็น โจ๊กเกอร์ นับเป็นจุดขายของหนัง หาใช่ ไมเคิล คีตัน ในบท “แบตแมน” ต้องยอมรับวิสัยทัศน์ของ แจ็ก นิโคลสัน จริง ๆ ที่มองการณ์ไกลได้เฉียบขาด แจ็ก ยื่นข้อเสนอว่าเขาลดค่าตัวจากเดิม 10 ล้านเหรียญ เหลือเพียง 6 ล้านเหรียญ แต่แรกกับเปอร์เซ็นต์จากกำไรของหนังและสินค้าที่มีภาพ “Joker” ที่อิงจากภาพลักษณ์ของเขา และที่สำคัญ รวมถึงเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งจากกำไรของหนังภาคต่ออีกด้วย นั่นหมายความว่า แจ็ก นิโคลสัน ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในหนัง Batman Return (1992) , Batman Forever (1995) และ Batman & Robin (1997) ก็ยังได้รับส่วนแบ่งรายได้ไปด้วย ซึ่งรวมแล้ว แจ็ก นิโคลสัน รับทรัพย์จากหนัง Batman ไปแล้วกว่า 100 ล้านเหรียญ
14.ฮีธ เล็ดเจอร์ ออกแบบการแต่งหน้า โจ๊กเกอร์ ของเขาเอง
แม้ตัวจากไป แต่ผลงานการแสดงยังถูกเล่าขานไม่จบสิ้น นอกเหนือจากการการคิดค้น “ท่าเคี้ยวปากแจ๊บ ๆ ” ขึ้นมาเอง ฮีธ ก็ยังเป็นคนออกแบบการแต่งหน้าของโจ๊กเกอร์อันสุดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเองด้วย เริ่มจากการพอกหน้าด้วยสีขาวแบบอย่างดั้งเดิมของตัวตลก แล้วก็แต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่เขาไปหาซื้อมาเอง ออกมาเป็นภาพลักษณ์ของตัวตลกที่ดูโรคจิตด้วยเมคอัปแบบเลอะ ๆ กลายเป็นที่พึงพอใจของทีมงาน จำต้องยึดภาพลักษณ์นี้ไว้ตลอด และทีมงานเมคอัปก็ต้องแต่งหน้าแบบเดิมให้ฮีธแบบนี้ไปตลอดจนจบการถ่ายทำ
15.โจ๊กเกอร์ เป็นวายร้ายที่สังหารเหยื่อมากที่สุดในจักรวาลดีซีคอมิก
ข้อนี้ล่ะ ที่สมควรยกให้ โจ๊กเกอร์ เป็นวายร้ายที่โฉดที่สุดแล้วในจักรวาลดีซี สมกับตำแหน่งวายร้ายอันดับ 1 ของโลกการ์ตูน ถ้านับจำนวนเหยื่อที่ถูกโจ๊กเกอร์สังหารมาตลอด 80 ปี ก็ต้องนับว่าโจ๊กเกอร์คือวายร้ายที่สังหารผู้คนมากที่สุดแล้วในจักรวาลดีซี โจ๊กเกอร์เป็นวายร้ายที่ใช้อาวุธได้หลากหลายรูปแบบ เขาสังหารเหยื่อด้วยมีด , ปืน , ระเบิด รวมถึง “โจ๊กเกอร์ เวนอม” ปืนชอร์ตไฟฟ้าคู่โจ เฉพาะแบตแมนนี่ก็ถูกโจ๊กเกอร์ฆ่ามาแล้วเป็นสิบครั้ง