รีวิว Official Secrets ความลับที่รัฐบาลไม่อยากให้เรารู้
Official Secret เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริง ซึ่งอ้างอิงมาจากเหตุการณ์ในปี 2003 ยุคสมัยที่สหรัฐอเมริกาและอังกฤษ พยายามร่วมมือกันเพื่อจุดชนวนไฟสงครามในประเทศอิรัก แคทธารีน กัน (เคียร่า ไนท์ลี่ย์) เจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองของอังกฤษหรือ GCHQ เป็นหน่วยงานที่มีการทำงานคล้ายคลึงกับ NSA ของสหรัฐฯ ได้รับอีเมล์ซึ่งเป็นเอกสารลับที่เปิดเผยว่าทางการของสหรัฐฯ ได้วางแผนในการสอดแนมบรรดาสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN) เพื่อบังคับสมาชิกจากประเทศอื่นๆให้ร่วมยินยอมสนับสนุนการทำสงครามครั้งนี้
แคทธารีนได้ส่งสำเนาเอกสารให้ มาร์ติน ไบรท์ (แมทท์ สมิธ) นักข่าวของ The Observer เพื่อตีพิมพ์เอกสารลับดังกล่าว เมื่อบทความถูกนำเสนอออกไป ได้สร้างผลกระทบและเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลอังกฤษอย่างคึกโครม ส่งผลให้ชีวิตแคทเธอรีนตกอยู่ในอันตราย อีกทั้งเธอยังถูกตั้งข้อหาในการละเมิดกฎหมาย โทษฐานเปิดเผยความลับของทางราชการและถูกหมายหัวจากรัฐบาลตัวเอง!
ตัวหนังเปิดฉากมาที่แคทธารีนกำลังขึ้นศาลเพื่อพิจารณาความผิด ก่อนที่หนังจะพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปที่จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด จากพนักงานสาวธรรมดาที่ทำงานภายในองค์กรที่มั่นคงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ จนกระทั่งวันหนึ่งอีเมล์ที่เธอได้รับ ทำให้เธอตั้งคำถามว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิต เมื่อเธอพบว่ารัฐบาลของตัวเองจะก่อสงครามที่อาจจะหมายถึงชีวิตของผู้คนนับล้านที่อาจจะต้องเผชิญกับอันตรายครั้งนี้ ซึ่งข้อความที่เธอได้รับคือการที่ NSA ส่งข้อความมายัง GCHQ พวกเขาต้องการให้พวกเราดักฟังการสื่อสารภายใน 6 ประเทศของกลุ่มสมาชิกสหประชาชาติอันประกอบไปด้วยแองโกลา แคเมอรูน ชิลี บัลแกเรีย ปากีสถาน และ เม็กซิโก
การตัดสินใจอันเด็ดเดี่ยวของแคทธารีน ได้ทำให้คนดูเห็นว่าตัวเธอเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ในการเปิดโปงอำนาจรัฐครั้งนี้ การเก็บงำความลับที่หนักเกินผู้หญิงคนหนึ่งจะแบกรับได้ ทำให้เธอตัดสินใจสารภาพความผิดว่าตัวเธอเองเป็นคนนำความลับดังกล่าวส่งต่อไปยังสื่อมวลชน
ความสนุกของ Official Secret คือการนำเสนอความรู้สึกกดดันของตัวละครอย่างแคทธารีน ว่าเธอจะมีวิธีการตัวรอดจากสถานการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้อย่างไร ในฐานะปุถุชนคนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นสายลับ ไม่ได้สังกัดองค์กรจารชนแบบในหนังแอ็คชั่นทั่วไป ทำให้เธอยิ่งได้รับการเอาอกเอาใจช่วยจากผู้ชม ในการต่อสู้กับอำนาจรัฐที่ดูเหมือนจะแผ่รังสีอำมหิตและพร้อมจะทำให้ชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลา ยิ่งสร้างบรรยากาศความลุ้นระทึกให้กับผู้ชมอย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามวิธีการต่อสู้ของตัวละครแคทธารีน คือการที่หนังเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้เห็นว่า พลังของสื่อมวลชนหรือฐานันดรที่ 4 เป็นพลังที่ช่วยคนธรรมดา ที่กำลังถูกรังแกจากรัฐบาลของตัวเองมีโอกาสต่อสู้และทำให้โลกเห็นว่ารัฐบาลนั้นไม่ได้ทำทุกสิ่งถูกต้องเสมอไป และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ เห็นค้าน และแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่พวกเขาทำได้ โดยชอบธรรม