10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดของขุ่นแม่ Angelina Jolie

Maleficent: Mistress of Evil เปิดตัวไม่ค่อยปังเท่าไหร่นัก กับรายได้วันแรกของสุดสัปดาห์แรกที่ออกฉายที่ 12 ล้านเหรียญฯ และรายได้คาดการณ์สุดสัปดาห์แรก 3 วันที่ 38 ล้านเหรียญฯ ต่างจาก 69 ล้านเหรียญฯ ของภาคแรกชนิดครึ่งต่อครึ่ง อาจเท่ากับเป็นการยืนยันความคิดที่ถูกของ Jolie ก่อนหน้านี้ว่า เธอไม่คิดอยากรับเล่นภาคต่อของหนังเรื่องไหน (อย่างเช่น ภาคต่อของ Wanted (2008) ที่เคยคิดจะสร้างกัน) เพราะกลัวความล้มเหลว เมื่อ Eternals (2020) ในจักรวาล Marvel เข้าฉายคงกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดในเครดิตได้ไม่ยาก แต่ก่อนจะถึงวันนั้น นี่คือ 10 อันดับหนังทำเงินสูงสุดของเธอในสหรัฐฯ และรายรับรวมทั่วโลกของนักแสดงหญิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก

อันดับ 10 Gone in 60 Seconds (2000)

ผลงานหนังแอ็คชันมันระเบิดเกี่ยวกับอดีตนักขโมยรถมือฉกาจ ที่ต้องกลับเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปล้นรถครั้งใหญ่เพื่อแลกกับตัวประกันที่เป็นน้องชายของเขา Jolie ประกบกับพระเอก Nicolas Cage ที่กำลังเนื้อหอมในยุค 90 หลังความสำเร็จของหนังอย่าง Con Air (1997) และ Face/off (1997) ส่วน Jolie ก็ได้ปี 2000 เป็นปีทองของเธอ เพราะเพิ่งขึ้นเวทีรับรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจาก Girl, Interrupted (1999) มาหมาด ๆ

อันดับ 9 Salt (2010)

หนังสายลับของผู้กำกับ Philip Noyce ที่นาน ๆ จะกำกับหนังที แต่ก็มีหนังสนุกๆ อย่าง Patriot Games (1992) และ Clear and Present Danger (1994) หนังสายลับนักวิเคราะห์ CIA Jack Ryan ในเครดิต เดิมทีบท Evelyn Salt นี้จะเป็นสายลับผู้ชาย (โดยมีการวางตัว Tom Cruise เอาไว้) จนผู้กำกับที่เคยกำกับ Jolie มาแล้วใน The Bone Collector (1999) เสนอให้ Jolie มาเล่นแทนจึงทำการเปลี่ยนบทให้เป็นสายลับผู้หญิง ซึ่งเธอก็ทำได้ดีกับบทบาทนี้จนแฟนๆ อยากให้มีภาคต่อ

อันดับ 8 Lara Croft: Tomb Raider (2001)

หนึ่งในบทบาท Icon หญิงแห่งยุค Millennium และไม่เกินเลยหากจะพูดว่า นี่เป็นหนึ่งในบทบาทซูเปอร์ฮีโรหญิงตัวละครหนึ่ง หนังสร้างจากเกมที่โด่งดังในยุค 90 และเป็นหนังจากเกมที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่เรื่องท่ามกลางความล้มเหลวมากมาย หนังมีภาค 2 ตามออกมาชื่อ Lara Croft Tomb Raider: The Cradle of Life (2003) แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงยุติการสร้างไป ทั้ง 2 เรื่องถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นพระเอกนักบู๊สองคนตั้งแต่สมัยยังไม่ดังคือ Daniel Craig และ Gerard Butler ร่วมเล่นด้วย

อันดับ 7 Wanted (2008)

หนังซุ้มมือปืนนักฆ่าระดับพระกาฬที่ตั้งตนเป็นศาลเตี้ย Jolie รับบทเป็นมือปืนสาวแสนสวยชื่อ Fox ทำหน้าที่ Mentor ให้กับตัวละครมือใหม่หัดฆ่าอย่าง James McAvoy หนังสไตล์ล้ำและแปลกใหม่ในเวลานั้นเรื่องนี้ เป็นผลงานของผู้กำกับชาวรัสเซีย Timur Bekmambetov ที่หลังจากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จก็มีโครงการจะสร้างภาคต่อ แต่จนถึงวันนี้ข่าวคราวการสร้างก็ยังเงียบเชียบ (เช่นเดียวกับชื่อเสียงของผู้กำกับที่ลงเหวลงเรื่อย ๆ) ฉากเด่นก็คือ การสาดกระสุนวิถีโค้งของ Jolie ท้ายเรื่องที่ช่างเท่และกินใจ

อันดับ 5 Shark Tale (2004)

อีกบทบาทหนึ่งของ Jolie ที่เธอทำได้ดีคือ การพากย์เสียงเป็นตัวละครในแอนิเมชันสำหรับเด็ก หนังปลาฉลามและเหล่าสัตว์น้ำพูดได้ในยุคที่หนังการ์ตูนของ Dreamworks Animation ประสบความสำเร็จสูงมาก (เช่น หนัง 4 ภาคของ Shrek ที่ทำรายได้ระดับ 200 ล้านเหรียญฯ ขึ้นไปทุกภาค) Shark Tale ระดมทีมนักแสดงเบอร์ต้น ๆ มาให้เสียงทั้ง Will Smith, Robert De Niro, Renée Zellweger, Jack Black รวมทั้งผู้กำกับปู่ Martin Scorsese ก็ยังมาพากย์กับเขาด้วย

อันดับ 3 Mr. & Mrs. Smith (2005)

หนังที่เป็นจุดเริ่มต้นของคู่รักระดับโลกที่กลายเป็นคู่ร้างไปแล้วในวันนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับสายลับสองผัวเมียที่ไม่เคยรู้เบื้องหลังซึ่งกันและกันว่าอีกคนต่างก็มีอาชีพเป็นสายลับ จนวันหนึ่งความจริงเปิดเผยเมื่อถูกจ้างให้มาฆ่ากันเอง Brad Pitt ถ่ายทำเรื่องนี้ขณะที่ยังคบหากับ Jennifer Aniston ก่อนที่จะแยกทางกันในปีที่หนังเข้าฉาย และ Pitt ก็เปิดตัวคบหากับ Jolie ต่อเลยจนกระทั่งแต่งงานอย่างเป็นทางการในปี 2014 และแยกทางกันในปี 2019 นี้เอง ผลงานเรื่องนี้เป็นของผู้กำกับ Doug Liman เจ้าของผลงานสุดมันอย่าง Edge of Tomorrow (2014) และ The Bourne Identity (2002)

อันดับ 2 Kung Fu Panda (2008) อันดับ 4 Kung Fu Panda 2 (2011) / อันดับ 6 Kung Fu Panda 3 (2016)

ทั้ง 3 ภาคของ Kung Fu Panda ล้วนประสบความสำเร็จอย่างงดงามจากการร่วมงานกันของ Jolie และ Dreamworks Animation ที่นำเอาตัวละครและบรรยากาศของจีนมาใส่ไว้ในหนังแอนิเมชันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหนังอเมริกัน Jolie พากย์เสียงเป็นตัวละครแม่เสือสาว Tigress ผู้เป็นศิษย์เอาของปรมาจารย์ Shifu เธอไม่เชื่อมั่นอย่างแรงว่าเจ้าอ้วนแพนด้าพุงพลุ้ยอย่าง Po จะกลายมาเป็นจอมยุทธได้ Tigress เป็นตัวละครเด่นในทุกภาค และถ้ามีภาค 4 Jolie ก็คงกลับมาอย่างแน่นอน

อันดับ 1 Maleficent (2011)

แหม่…แหม่ ใครจะไปนึกว่า Jolie ที่ถนัดรับบท Dark มาตลอด จะมาเป็นหนึ่งตัวละครในหนังเทพนิยายของ Disney แต่เมื่อมีการประกาศสร้างหนังที่มีการตีความ Sleeping Beauty หรือเจ้าหญิงนิทราในมุมมองใหม่ เปลี่ยนตัวละครหลักของเรื่องมาเป็นฝั่งตัวร้ายอย่าง Maleficent Jolie จึงก้าวเข้ามารับบทแนวถนัดในหนังค่ายโลกสวยแห่งนี้ หนังประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อ ในภาค 2 นี้กำกับโดย Joachim Rønning จาก Pirates of the Caribbean: Dead Men Tell No Tales (2017) และก็คงเป็นความสำเร็จในระดับหนังเทพนิยายของ Disney แต่จะกวาดรายได้ไปได้แค่ไหน คงต้องลุ้นไปกับขุ่นแม่ตลอดโปรแกรมฉาย

เกร็ดเพิ่มเติมเล็กน้อยสำหรับแฟน ๆ ที่รอดูหนังใหม่ของขุ่นแม่ ในปีหน้า 2020 เตรียมพบกับหนังใหม่ 3 เรื่อง 3 สไตล์ เริ่มจาก The One and Only Ivan หนังแอนิเมชันที่เธอจะมาให้เสียงพากย์ร่วมกับ Bryan Cranston และ Helen Mirren ในหนังเกี่ยวกับลิงกอริลลาและเพื่อนช้างอีกตัวที่อยากจะหนีออกจากที่คุมขัง ต่อจากนั้นยังมีหนัง Come Away ที่ตั้งใจสร้างเป็นภาคต้นของตำนาน Peter Pan ที่สร้างกันมาแล้วไม่รู้กี่เวอร์ชัน กำกับโดย Brenda Chapman จาก Animation Brave (2012) ของ Pixars และเรื่องสุดท้าย Those Who Wish Me Dead หนังดรามาอาชญากรรมของ Taylor Sheridan (Wind River) เกี่ยวกับวัยรุ่นผู้เป็นพยานเห็นเหตุฆาตกรรมแต่กลับถูกฟ้องกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง Jolie ร่วมเล่นกับ Aidan Gillen (Game of Thrones) Jon Bernthal (The Walking Dead) Tyler Perry และ Nicholas Hoult (X-Men)