รีวิว Doctor Sleep จุดเริ่มต้นของจุดจบ
Doctor Sleep ถือเป็นหนังภาคต่อที่ทิ้งระยะห่างจากเรื่องราวในหนังภาคแรกเป็นเวลาถึง 39 ปี ย้อนกลับไปใน The Shining หนังสยองขวัญที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของสตีเฟ่น คิง บอกเล่าเรื่องราวของแจ็ค ทอร์แรนซ์ (แจ็ค นิโคลสัน) นักเขียนที่ต้องเข้ารับการบำบัดอาการติดเหล้าเรื้อรัง เขาจึงตัดสินใจรับงานในการดูแลโรงแรมโอเวอร์ลุคในช่วงโลว์ซีซั่นซึ่งโรงแรมจะปิดทำการชั่วคราว เขาจึงพาภรรยาเวนดี้ (เชลลีย์ ดูวัลล์) และลูกชายแดนนี่ (แดนนี่ ลอยด์) ลูกชายวัย 5 มายังโรงแรมแห่งนี้ ทว่าตัวแดนนี่เองมีพลังพิเศษที่เรียกว่า “ไชน์นิ่ง” ซึ่งทำให้เขาสามารถมองเห็นภูตผีปีศาจได้ และค้นพบว่าโรงแรมแห่งนี้มีพลังงานชั่วร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาทุกขณะ
Doctor Sleep เปิดเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกมาที่ตัวละครของแดนและเวนดี้ ทั้งสองหนีรอดจากเหตุการณ์สยองที่โรงแรมโอเวอร์ลุค แดนเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้พลังพิเศษที่ตัวเองมีจัดการกับวิญญาณที่ตามเขามาจากโรงแรมและใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงกับคนปกติธรรมดาที่สุด เวลากว่า 40 ปีผ่านเลยไป แดน (ยวน แมคเกรเกอร์)เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ชายติดเหล้าและดูไร้อนาคต เขายังคงฝังใจกับเหตุการณ์ในวัยเด็ก จนกระทั่งเขาได้รับโอกาสไปทำงานในโรงพยาบาล เขาได้ใช้พลังของตัวเองในการปลอบประโลมผู้ป่วยในการรับรู้วาระสุดท้ายของพวกเขา เพื่อช่วยคนเหล่านี้ในการเดินทางไปยังภพใหม่อย่างสงบ ทำให้เขาได้รับฉายาว่า “ด็อกเตอร์สลีป”
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในหนังภาคนี้ได้สร้างปมใหม่ขึ้นมาด้วยการสร้างตัวร้ายอย่างโรส เดอะ แฮท (รีเบคก้า เฟอร์กูสัน) และกลุ่มเดอะ ทรู น็อต ที่ออกตามล่าเด็กที่มีพลังพิเศษในการ “ไชน์นิ่ง” เพื่อนำมาเติมเต็มพลังชีวิตของตัวเอง แดนมีโอกาสได้สื่อสารพลังจิตกับแอบรา (ไคเลห์ เคอร์แรน) เด็กวัยรุ่นที่มีความกล้าและมีพลังในการไชน์นิ่ง ซึ่งเธอมีพลังดังกล่าวในระดับสูงกว่าที่เด็กคนไหนเคยมีมาก่อน ส่งผลให้เธอกลายเป็นเป้าหมายสำคัญของโรสในการตามล่า แดนจึงต้องรวบรวมความกล้าเพื่อช่วยเหลือแอบรา การต่อสู้ในครั้งนี้ทำให้แดนต้องกลับไปเผชิญหน้ากับอดีตที่เขาหลีกหนีมาตลอดชีวิต นั่นคือการเดินทางกลับไปยังโรมแรมโอเวอร์ลุค ฝันร้ายในวัยเยาว์
จะเห็นได้ว่าตัวละครอย่างแดนเอง แทบจะไม่แตกต่างอะไรจากพ่อของเขาเมื่อเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ เขาเลือกจะใช้เหล้าเป็น “ยา” ในการเยียวยาความรู้สึก หนึ่งฉากที่ดีที่สุดของเรื่องคือตอนที่แดนเดินทางกลับไปที่โรงแรมโอเวอร์ลุค ทำให้เขามีโอกาสได้พูดคุยกับพ่อของตัวเอง (ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณหรือนิมิตของเขาเองก็ตาม) นั่นแสดงถึงการปลดปล่อยและทำความเข้าใจกับอดีตและตัวของเขาเองว่า ทำไมเขาจึงจะเลือกจมจ่อมอยู่กับความอดีตอันเลวร้ายเช่นนั้น และในเวลานี้เขาพร้อมหรือยังที่จะก้าวเดินต่อไป
Doctor Sleep มีลักษณะเป็นหนังส่วนผสมระหว่างหนังสยองขวัญ ดราม่า และแอ็คชั่น ซึ่งจะว่าไปแล้วโทนเรื่องราวจัดได้ว่าแตกต่างจากภาคแรกค่อนข้างมาก ทว่าสาระสำคัญของเรื่องนั้นพูดถึงการไถ่บาปของตัวละครที่พยายามชำระความผิดพลาดของตัวเองในอดีตและเติบโตขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นให้มีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง
