The Angry Birds Movie 2 ลืมเหล่าเจ้านกขี้โมโหไปหรือยัง

The Angry Birds Movie 2 ลืมเหล่าเจ้านกขี้โมโหไปหรือยัง

The Angry Birds Movie 2 ลืมเหล่าเจ้านกขี้โมโหไปหรือยัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แอนิเมชั่น The Angry Birds Movie คือผลงานของสตูดิโอโซนี่ ที่สามารถกวาดรายได้ไปทั่วโลกสูงถึง 352 ล้านเหรียญในปี 2016 แน่นอนว่าความสำเร็จในระดับน่าพึงพอใจ ทำให้สตูดิโอไฟเขียวในการสร้างภาคต่อตามออกมา

 

 

เรื่องราวครั้งใหม่ของเจ้านกขี้โมโห

 

ถึงคราวที่ต้องพักรบและหันหน้ามาช่วยเหลือกัน เมื่อเกิดภัยคุกคามครั้งใหม่ทำให้ทั้งเกาะนกและเกาะหมูต้องตกอยู่ในอันตราย เร้ด (เจสัน ซูเดคิส), ชัค (จอช แก็ด), บอมบ์ (แดนนี แม็คไบรด์) และไมท์ตี้ อีเกิล (ปีเตอร์ ดิงค์เลจ) ก็ขอความช่วยเหลือจากซิลเวอร์ (ราเชล บลูม) น้องสาวของชัค และร่วมมือกับก๊วนหมูที่ประกอบไปด้วยเลียวนาร์ด (บิล เฮเดอร์), ผู้ช่วยของเขา คอร์ทนีย์ (อควาฟีนา) และหมูช่างเทคนิค แกร์รี (สเตอร์ลิง เค. บราวน์) ในการตกลงสงบศึกชั่วคราวเพื่อร่วมมือกันเป็นซูเปอร์ทีมในการปกปักษ์รักษาบ้านของพวกเขาเอาไว้

 

 

ย้อนกลับไปสู่ต้นกำเนิดที่ไม่ควรลืม

 

The Angry Birds Movie ที่สร้างจากเกมที่ประสบความสำเร็จเป็นปรากฏการณ์ของโรวิโอ และมียอดดาวน์โหลดกว่าสี่พันล้านครั้ง ซึ่งหัวใจสำคัญของเกมนี้คือเรื่องราวของนกขี้โมโหที่ไข่หรือลูกๆ ของพวกเขา ถูกพวกหมูสีเขียวขโมยไป เจ้านกเหล่านี้ก็จึงต้องออกปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือเพื่อให้ได้ตัวลูกๆ กลับคืนมา

 

สำหรับหนังภาคแรกนั้นทีมผู้สร้างภาพยนตร์และทีมงานจากโรวิโอ ได้อธิบายถึงต้นกำเนิดแห่งความขัดแย้งระหว่างพวกนกที่บินไม่ได้และเจ้าหมูสีเขียว ความมีเสน่ห์ของเหล่าตัวละครที่น่ารัก ประกอบกับมุกตลกเจ็บตัว สีสันที่แสนฉูดฉาด ทำให้หนังภาคแรกครองใจคนดูทุกเพศทุกวัย

 

 

จากภาคแรกสู่ภาคสอง

 

ในหนังภาคแรก เร้ด (เจสัน ซูเดคิส) เป็นนกที่โกรธเกรี้ยวที่สุดในบรรดานกทั้งหลาย เขาเป็นนกนอกคอกขี้โมโหที่อยู่บนเกาะนกที่แสนสงบสุข แต่เร้ดก็ยังเป็นนกเพียงตัวเดียวที่มีความกล้าหาญที่จะค้นพบและรับมือกับภัยคุกคามจากกลุ่มหมู ที่นำทีมโดยเลียวนาร์ด (บิล เฮเดอร์) ผู้มุ่งมั่นที่จะขโมยไข่ที่ล้ำค่าของพวกนกมาให้ได้ เร้ด ที่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนซี้ของเขา ชัค (จอช แก็ด) นกน้อยผู้หัวไวและปีกไว และบอมบ์ (แดนนี แม็คไบรด์) นกน่ารักที่ชอบระเบิดตัวเองอยู่เรื่อย ก็ได้นำเหล่านกไปสู่ชัยชนะในการต่อสู้กับพวกหมูหัวขโมย

 

บัดนี้ ในการผจญภัยครั้งใหม่ได้เริ่มขึ้นเมื่ เร้ดเป็นฮีโรที่ทุกคนในเกาะนกรัก ในขณะเดียวกัน ความบาดหมางระหว่างนกและหมูก็ได้พัฒนาไปเป็นสงครามการกลั่นแกล้งกัน สถานการณ์นี้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อน้ำแข็งก้อนมหึมาเริ่มตกลงมาจากฟากฟ้า ทั้งบนเกาะนกและเกาะหมู ภัยคุกคามใหม่ที่เย็นยะเยือกปรากฏขึ้นมาจากเกาะที่สามอันแสนลึกลับ และเรื่องราวก็สับสนมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเลียวนาร์ดแอบมาหาเร้ดอย่างลับๆ พร้อมเสนอแนะให้ทั้งสองฝ่ายร่วมมือกันต่อกรกับศัตรูที่พวกเขามีร่วมกัน เลียวนาร์ดยืนกรานว่า ตอนนี้ มันเป็นปัญหาของทั้งนกและหมู และถ้าพวกเขาร่วมมือกันไม่ได้ เกาะทั้งสองแห่งก็จะถูกทำลาย

 

 

เมื่อศัตรูต้องกลายเป็นพันธมิตร

 

“ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวร” ถึงตัวละครอย่างเร้ดเองจะมีความเคลือบแคลงใจ แต่เพราะความไม่มีทางเลือก เพราะเกาะหมูเองก็ตกเป็นเป้าโจมตีจากอีกเกาะลึกลับมาเช่นกัน การร่วมมือครั้งนี้แอบทำให้เร้ดเกิดอาการหัวเสีย เนื่องจากมันสั่นคลอนสถานะในการเป็นฮีโร่ของเขาเอง

 

ศัตรูต้องกลายเป็นเพื่อนรักเพื่อนแค้น และก่อกำเนิดเป็นซูเปอร์ทีม ที่ประกอบไปด้วยเร้ด, ชัค, บอมบ์, เลียวนาร์ด, ไมท์ตี้ อีเกิล ผู้งามสง่าแต่ก็มีข้อบกพร่องอย่างร้ายกาจและสมาชิกใหม่ ซิลเวอร์ น้องสาวผู้ปราดเปรียวของชัคและวิศวกรผู้รู้ทุกคำตอบ, คอร์ทนีย์ ผู้ช่วยผู้น่ารักและแก่นแก้วของเลียวนาร์ดและแกร์รี หมูนักวิทยาศาสตร์ขี้หงุดหงิด เบื้องหลังความไฮเทคทุกอย่างบนเกาะหมู

 

ทีมที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาหมาดๆ ค้นพบว่า ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนเกาะของพวกเขาด้วยขีปนาวุธน้ำแข็งที่ถูกยิงมาจากเกาะอินทรี ซึ่งซีต้า ได้ปกครองภายใต้ความช่วยเหลือของหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ด้วยความเบื่อหน่ายจากสภาพเยือกแข็งในโลกของเธอ ซีต้าจึงตัดสินใจยึดเกาะนกและหมูเพื่อสร้างสวรรค์แห่งใหม่ สำหรับตัวเธอเอง นำไปสู่การเผชิญหน้ากันครั้งสุดท้าย ทำให้ดารานกและหมูต้องแอบลักลอบเข้าไปในเกาะอินทรี แฝงตัวเข้าไปในรังของซีต้า และทำลายสุดยอดอาวุธของเธอให้ได้

 

 

สภาพแวดล้อมใหม่ กับเกาะน้ำแข็ง

 

นอกจากเกาะเขตร้อนที่ปรากฏอยู่ในหนังภาคแรกแล้ว ในตอนนี้ ทีมผู้สร้างก็ต้องการจะสร้างองค์ประกอบด้านวิชวลใหม่ๆ ซึ่งนำไปสู่ภูมิอากาศเยือกแข็งของเกาะอินทรี ภูเขาไฟที่คุกรุ่นและสุดยอดอาวุธที่มีพลานุภาพทำลายล้างมหาศาล เพื่อสร้างโลกใบใหม่สำหรับตัวละคร และยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของตัวละครใหม่ที่อาศัยอยู่บนเกาะอินทรีย์อีกด้วย เนื่องจากภูมิอากาศอันหนาวเหน็บนั้นกลายเป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของตัวละครซีต้า ในความจะแก้ปัญหาเรื่องความหนาวเหน็บ

 

สำหรับน้ำแข็งอันเป็นองค์ประกอบสำคัญในหนังภาคนี้ เมื่อก้อนน้ำแข็งเกิดการสะท้อนแสงจึงเกิดเป็นสีสันมากมายที่ทำให้ทีมงานหยิบเอาปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ อาทิ ลาวา อุณหภูมิของเกาะ แสง เงา มาเล่นสนุกกับงานเทคนิคด้านภาพอีกด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook