[รีวิวซีรีส์] Love with Flaws เมื่อชะนีเหม็นคนหล่อเข้าไส้ แต่ทำยังไงก็หนีไม่พ้น

“เมื่อเราต่างตกหลุมรักในตำหนิของกันและกัน …สำหรับฉันเธอจึงงดงามกว่าใคร”

และประโยคนี้ก็คือใจความหลักที่แท้จริงของซีรีส์รักโรแมนติกสายฮาเรื่องนี้ ‘Love with Flaws’ ที่ได้นักแสดงนำเป็นดาราระดับ Top ของวงการเกาหลีอย่าง โอยอนซอ และ อันแจฮยอน ที่คราวนี้ทั้งคู่ต้องพลิกบทมาเล่นเป็นคาแรคเตอร์สายฮาสุดบ้าบอ เรียกได้ว่าทุกตัวละครนั้นพากันเล่นใหญ่เล่นโตกันทั้งเรื่อง จนคนดูอย่างเรา ๆ ต้องยอมใจในความทุ่มเทแบบสุดตัวของนักแสดงเรื่องนี้จริง ๆ โดยเฉพาะกับหนุ่มอันแจฮยอนที่ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีกระแสข่าวด้านลบจากปัญหาชีวิตส่วนตัวอยู่บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เรตติ้งในเกาหลีของซีรีส์เรื่องนี้ต่ำต้อยลงไปแต่อย่างใด เอาเป็นว่าเรามาดูกันเลยดีกว่าว่า ‘Love with Flaws’ จะดีงามชวนให้ติดตามสักแค่ไหนกันนะ?

เรื่องย่อ ‘Love with Flaws’

---

• ประเภท: โรแมนติก – คอมเมดี้
  
• ผู้กำกับ : โอจินซอก (ผลงานที่ผ่านมา ‘My First First Love’)
  
• เขียนบท : อันชินยู
  
• ช่อง : MBC
  
• จำนวนตอน : 32
• ช่องทางรับชม : www.viu.com

เล่าเรื่องราวของ ‘ซูยอน’ คุณครูสอนพละชั่วคราวของโรงเรียนมัธยมปลายชินฮวา ด้วยความที่สมาชิกในบ้านของเธอเป็นชายล้วนถึง 3 คนด้วยกัน นั่นจึงทำให้ซูยอนกลายเป็นคนที่มีบุคลิกห้าว ๆ พูดจาโผงผางและดูขวางโลกเกินเบอร์ผู้หญิงทั่วไป แถมเจ้าพวกเหล่าพี่ชายตัวดีที่หล่อราวกับเทพบุตรมาเกิด ก็ดันขยันหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เธออยู่บ่อย ๆ ตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้ซูยอนเกลียดผู้ชายหน้าหล่อเข้าไส้ แต่แล้ววันหนึ่ง ‘คังอู’ หนุ่มหล่อพ่อรวยสุดเพอร์เฟกต์ที่ครั้งหนึ่งซูยอนเคยปฏิเสธเขาไปในวัยเด็ก เพียงเพราะตอนนั้นเขาทั้งอ้วนและขี้เหร่ ไร้ซึ่งวี่แววความหล่อแต่อย่างใด จนในวันนี้ที่เขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองและกลายเป็นคนใหม่ แต่ก็ดันติดนิสัยหลงตัวเองเพิ่มมาด้วยซะอย่างนั้น แถมคราวนี้เขายังจะกลับมาแก้แค้นซูยอนที่เคยหักอกเขาเอาไว้อีกต่างหาก และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักบ้า ๆ บวม ๆ ให้คนมีตำหนิสองคนได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกครั้ง

ความรู้สึกหลังดู ‘Love with Flaws’

---

เชื่อว่าในชีวิตจริงของคนเรา ‘รูปร่างหน้าตา’ มักจะเป็นด่านแรก ๆ เสมอที่เรามักจะใช้เป็นเกณฑ์หลักในการคัดเลือกคนที่จะผ่านเข้ามาในชีวิต หรือแม้กระทั่งจะสานสัมพันธ์กันต่อไปไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตามแต่ ซึ่ง ‘Love with Flaws’ นั้นเลือกที่จะใช้ประเด็นนี้เป็นตัวเปิดในช่วงตอนแรก ๆ ของเรื่อง ซึ่งมันเผยให้เห็นความยากลำบาก(?) ของชีวิตนางเอกอย่าง ‘ซูยอน’ ผู้ต้องใช้ชีวิตอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน กับเหล่าพี่ชายน้องนายที่มีหน้าตาสุดพรีเมียม ราวกับไอดอลหลุดมาจากทีวีก็ไม่ปาน! ซึ่งสาว ๆ บางคนที่อ่านมาจนถึงจุดนี้ก็อาจจะไม่เห็นภาพว่าความบัดซบในชีวิตซูยอนกันสักเท่าไหร่ “ก็อยู่ร่วมบ้านกับคนหล่อตั้ง 3 คน มันน่าสงสารยังไงอะ !?!”

ซึ่งบอกได้เลยว่า… นี่แหละข้อดีข้อแรก ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ที่เราอยากจะพูดถึง นั่นก็คือ ‘บท’ ของซีรีส์ที่มีความสมเหตุสมผลและมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจนให้กับทุกปมปัญหาของเรื่อง ชนิดที่ว่าสามารถตอบคำถามในใจของคนดูได้อย่างฉลาดและหมดจด แม้ว่ามันจะเป็นซีรีส์ตลกโปกฮาสักแค่ไหนก็ตาม

เพราะเราจะได้รู้สึกและเข้าใจหัวอกของตัวละครอย่างซูยอนจริง ๆ ว่าการถูกดักทำร้ายจากบรรดาสาว ๆ ที่คอยตามตื๊อพี่ชายตัวแสบของเรา เพียงเพราะพวกนางเข้าใจผิดว่าซูยอนเป็นเมียเก็บตัวเล็กตัวน้อยของหนุ่ม ๆ ในบ้าน หรือแม้กระทั่งแค่คำพูดบางคำจากคนอื่นที่ว่า “หน้าตาไม่เห็นเหมือนพี่ชาย” ก็สามารถทำให้คนเราเจ็บปวดได้อย่างแสนสาหัสกันเลยทีเดียว (ใช่ซี๊…) เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นซีรีส์สายฮาบ้าบอแค่ไหน ตรรกะและเหตุผลรับรองในส่วนต่าง ๆ ของเนื้อเรื่อง ก็ไม่ได้บกพร่องลงไปแต่อย่างใด

เรื่องต่อมาที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยจริง ๆ นั่นก็คือพลังการแสดงที่ท่วมท้นของเหล่านักแสดงในเรื่อง ที่ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเล่นบทอะไร สำคัญมากน้อยแค่ไหน หรือโผล่มากี่วินาที ก็สามารถสร้างความฮาให้เราได้ทั้งนั้น ด้วยความที่ตัวซีรีส์นั้นมีการออกแบบตัวละครออกมาได้อย่างชัดเจน และทุกตัวละครมีพาร์ทสำคัญของตัวเองกันทั้งนั้น นั่นจึงทำให้แต่ละคาแรคเตอร์ที่ออกมามีความเป็นมนุษย์สูง เช่น มีทั้งด้านดีและร้าย หล่อและอุบาทว์ สวยและขี้เหร่ เหมือน ๆ กับเราทุกคนที่ล้วนแล้วมีตำหนิในตัวกันทั้งนั้น แถมบางพฤติกรรมก็แย่เสียจนหน้าตาก็ช่วยอะไรไม่ได้ซะด้วย

เหมือนกับนางเอกของเรื่องที่ปักใจเกลียดพระเอกตั้งแต่แรกเจอทั้ง ๆ ที่เขาคนนี้ก็คือเพื่อนรักคนดีคนเดิมของเธอในวัยเด็ก เพียงแค่ตอนนี้เขาดูดีขึ้นก็เท่านั้น หรือแม้กระทั่งตัวพระเอกเองที่หลงตัวเองจนคิดว่าหน้าตาและเงินทองคืออำนาจทุกอย่างที่ไม่ว่าใครก็ต้องยอมก้มหัวให้ จนสุดท้ายทั้งคู่ต้องเรียนรู้จึงกลายมาเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกันที่ลงตัว และนั่นคือเสน่ห์ที่ทำให้ตัวละครมีความน่าสนใจ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมสองคาแรคเตอร์ต่างขั้วจึงสามารถเข้ากันได้ในที่สุด เพราะขนาดเราคนดูอย่างเรา ๆ ก็ยังตกหลุมรักในความไม่เพอร์เฟต์ของพวกเขาเหล่านั้นเช่นกัน

ซึ่งความตลกโปกฮาของเรื่องราวนั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากความฉลาดของบทที่มักหยิบเอาสถานการ์สุดน่าอับอาย หรือความบังเอิญสุดพังของตัวละครที่โป๊ะแล้วโป๊ะอีก จนบ้างครั้งเราคนดูก็ถึงกับอดฮาก๊ากแรง ๆ ให้กับความตลกร้ายที่ตัวละครต้องเผชิญไม่ได้จริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์สายฮาคุณภาพเรื่องหนึ่ง ที่อาศัยเพียงความฉลาดของการเล่าเรื่องและพลังการแสดงที่ลงตัว โดยไม่ต้องมีมุขทะลึ่งหรือพฤติกรรมลามปามใด ๆ ก็สนุกจัดปลัดบอกได้เหมือนกัน

และด้วยความสมบูรณ์อยู่แล้วในระดับหนึ่งของตัวบทนี่เอง จึงทำให้ในพาร์ทของซีนอารมณ์ต่าง ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็น ฉากดราม่าในครอบครัว หรือ โมเมนต์โรแมนซ์กุ๊กกิ๊ก ก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีและน่าจดจำ แตะมาตรฐานของดีเกาหลีใต้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ตอนยาวที่ดูสนุก ดูเพลิน แถมยังโปกฮาบ้าบอแบบสุด ๆ  เหมาะสำหรับวันหยุดยาวในช่วงปีใหม่นี้ ถ้าใครไม่รู้จะทำอะไรดี… การนอนดูซีรีส์ ‘Love with Flaws’ ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยนะ!