Nicholas Hoult นักแสดงดาวรุ่ง สมทบ Mission Impossible ภาคใหม่
ปี 2019 อาจไม่ใช่ปีที่ดีนักสำหรับนักแสดงหนุ่มอย่าง Nicholas Hoult เคยแจ้งเกิดเมื่อครั้งที่ยังเป็นนักแสดงเด็กจากหนัง About a Boy และประสบความสำเร็จจากหนังซอมบี้มีความรักอย่าง Warm Bodies และเป็นหนึ่งในทีมนักแสดงของหนังไซไฟบรรยากาศดิบเถื่อนได้ใจอย่าง Mad Max: Fury Road แต่ในปี 2019 นั้น เขาได้นำแสดงในหนัง 3 เรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จและแทบไม่มีใครพูดถึง
เรื่องแรก X-Men: Dark Phoenix ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังที่ล้มเหลวที่สุดแห่งปี กับภาคสุดท้ายของมนุษย์กลายพันธ์ภายใต้ชายคา Fox เรื่องที่สองอย่าง Tolkein หนังชีวประวัติของ J.R.R. Tolkien ผู้เขียนนิยายดังอย่าง The Lord of the Rings ที่เข้าฉายเงียบ ๆ แบบผิดฟอร์มและไม่ได้มีบทบาทบนเวทีรางวัลไหนเลย ส่วนเรื่องสุดท้าย True History of the Kelly Gang ที่เป็นหนังอินดี้เฉพาะกลุ่ม
แต่ในปี 2020 Hoult ดูเหมือนว่าเขาจะมีโอกาสได้เล่นหนังที่แค่เอ่ยชื่อเรื่อง ก็มั่นใจได้ว่าประสบความสำเร็จและสร้างชื่อให้กับเขาได้อีกแน่นอนกับ Mission Impossible ภาค 7 เรื่องราวของสายลับกับปฏิบัติการที่เป็นไปไม่ได้ นำแสดงโดย Tom Cruise แฟรนไชส์ที่มีอายุ 23 ปีที่ประสบความสำเร็จทางรายได้มาเกือบทุกภาค และภาค 7 และ 8 กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการถ่ายทำในขณะนี้
การเปิดตัว Hoult เข้าสู่แฟรนไชส์เปิดเผยในอินสตาแกรมของผู้กำกับ Christopher McQuarrie ที่กำกับมาตั้งแต่ภาค 5 Rogue Nation ปฏิบัติการรัฐอำพราง เขาเป็นมือขวาของ Cruise กำกับหนัง Jack Reacher ภาค 2 ออกมาได้อย่างสนุก และคอยเกลาบทให้กับหนัง Tom Cruise ในช่วงหลังหลายเรื่องรวมถึง Top Gun 2: Maverick ที่จะเข้าฉายมิถุนายนปีนี้ด้วย
McQuarrie ได้ออกมาโพสต์รูป Hoult พร้อมแคปชันว่า “สนใจจะออกมามันส์กันหน่อยมั้ย?” ก่อนที่นักแสดงหนุ่มจะตอบกลับว่า “แน่นอน แต่ทำไมจะให้มันส์แค่หน่อยเดียวละ?”
จุดเด่นของหนัง Mission Impossible หลาย ๆ ภาคที่ผ่านมา อยู่ที่ทีมนักแสดงที่มาสมทบ Tom Cruise ที่เป็นนักแสดงมากฝีมือและกำลังมีชื่อเสียงในเวลาที่หนังภาคนั้น ๆ เข้าฉาย ในภาคแรกปี 1996 เราได้เห็นนักแสดงอย่าง Jon Voight, Jean Reno, Kristin Scott Thomas ภาค 2 ในผลงานของ John Woo ผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง Thandie Newton และ Richard Roxburgh ก่อนที่ภาค 3 เป็นต้นมา หนังได้เข้าสู่การอำนวยการสร้างของบริษัท Bad Robot ของ J.J. Abrams นับตั้งแต่นั้น (และ Abrams กำกับเองในภาค 3 นี้) สมทบด้วยนักแสดงสายบู๊อย่าง Maggie Q, Jonathan Rhys Meyers, Keri Russell, Billy Crudup, Laurence Fishburne รวมถึง นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ผู้ล่วงลับ Philip Seymour Hoffman และ Simon Pegg ที่อยู่กันมายาว ๆ ถึงภาคปัจจุบัน โดยภาค 3 ปี 2006 เป็นภาคที่ทำรายได้ไปน้อยที่สุดจาก 6 ภาค
แต่ Tom Cruise ยังไม่ยอมแพ้กลับมาต่อกับภาค 4 ปี 2011 ที่ไปถ่ายทำกันที่ตึกที่สูงที่สุดในโลกอย่างบุรจญ์เคาะลีฟะฮ์ที่ดูไบ กับภาค Ghost Protocol ที่ได้ผู้กำกับ Brad Bird จากแอนิเมชันฮิต The Incredibles ของ Pixar มากำกับ สมทบด้วย Léa Seydoux ที่กลายมาเป็นสาวบอนด์ใน 2 ตอนล่าสุดของ 007, Paula Patton และยังเป็นการแนะนำตัวนักแสดงที่เข้าร่วมทีมปฏิบัติการคนใหม่อย่าง Jeremy Renner จาก Avengers และเคยรับบทสายลับมาแล้วใน The Bourne Legacy ในตอนที่ภาค 4 ออกฉาย มีข่าวลือว่า เขาจะมารับช่วงต่อบทนำใน Mission Impossible ภาคต่อ ๆ ไปจาก Tom Cruise ภาค 5 Rogue Nation ปี 2015 เสริมทีมด้วย Sean Harris ในบทตัวร้าย, Alec Baldwin, นักแสดงสาวที่มามีบทบาทสำคัญในภาค 5 จนถึงปัจจุบัน Rebecca Ferguson รวมถึงนักแสดงที่เล่นเป็นภรรยาซึ่งต้องอยู่ห่างกันกับตัวละครอีธาน ฮันท์มาตั้งแต่ภาค 3 อย่าง Michelle Monaghan
ภาคล่าสุด Fallout หรือภาค 6 ปี 2018 กลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดจากทั้งหมด โดยทำรายได้จากทั่วโลกไป 791 ล้านเหรียญฯ หนังสมทบด้วยตัวละครที่มากสีสัน รับบทโดย Henry Cavill ที่อยู่ระหว่างถ่ายทำ Justice League ที่ในตอนนั้นพอดี การที่เขาสวมบทตัวละครสายลับ CIA ใน Fallout ที่ต้องไว้หนวด ทำให้การถ่ายซ่อม Justice League ต้องใช้ CGI มูลค่าหลายล้านเหรียญฯ เพื่อ “ลบหนวด” ของ Cavill ในการเล่นเป็นซูเปอร์แมน ก่อให้เกิดมีมแซะถึงความไม่เนียนกันมากมายตอนที่ Justice League ออกฉาย
Mission Impossible ภาค 7 และ 8 ที่จะถ่ายทำด้วยเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันไป มีนักแสดงอีกมากมายนอกจาก Tom Cruise ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงทีมเดิมของแฟรนไชส์นี้ที่กลับมาเกือบหมด ทั้ง Ving Rhames, Simon Pegg และ Rebecca Ferguson นักแสดงใหม่นอกจาก Hoult แล้ว ยังมี Hayley Atwell หรือ “เอเจนต์คาร์เตอร์” ขวัญใจของกัปตันอเมริกา, Pom Klementieff จาก Guardians of the Galaxy Vol.2 และ Shea Whigham จาก Firstman และ Joker
ภาค 7 มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐฯ 23 กรกฎาคม 2021 และภาค 8 5 สิงหาคม 2022