รีวิว Ashfall ภารกิจกู้ชาติ สร้างคู่จิ้น
คุณอ่านพาดหัวไม่ผิดหรอกครับที่ Ashfall เป็นหนัง “คู่จิ้น” (แบบที่ไม่ได้ตั้งใจ) ทั้งที่มันควรจะเป็นหนังแนวภัยพิบัติ ภูเขาไฟเพ็กตูในเกาหลีเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ จนสร้างหายนะไปทั่วทั้งแผ่นดิน แต่กลายเป็นว่าเนื้อหนังจริงๆ ดันเล่าในส่วนปฏิบัติการไปฉกจรวดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือซะมากกว่า
ถึงพล็อตเรื่องหลักจะเล่าถึงภูเขาไฟระเบิด แต่เอาเข้าจริงหนังมีฉาก เมืองพังพินาศอยู่แค่ฉากเปิดเรื่องที่กรุงโซลตึกถล่มระเนระนาด และฉากที่เขื่อนแตกจนน้ำซัดสะพานกวางอันแดเคียวจนพังยับเยิน ส่วนฉากอื่นที่เหลือในเรื่อง ส่วนมากแล้วจะพูดถึงปฏิบัติการของยูคยอง (จอน ฮเยจิน) หัวหน้าเลขานุการของประธานาธิบดีเกาหลีใต้นำทีม หาวิธีการรับมือกับเหตุภัยพิบัติ ซึ่งมีบงแร (มา ดงซอก) ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน ผู้เผยทฤษฎีที่อาจจะหยุดการระเบิดครั้งมโหฬารเอาไว้ได้
อินชาง (ฮา จองอู) เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดของกองทัพบกเกาหลี ที่เหลือเวลารับใช้ชาติแค่ไม่กี่วันก็จะครบวาระ จึงถูกเรียกตัวมาเป็นหัวหน้าทีมในการเดินทางไปยังเกาหลีเหนือเพื่อช่วยเหลือยุนเปียง (อี บยองฮอน) ผู้กุมกุญแจสำคัญที่จะหยุดภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้ได้ เพราะเขาเป็นคนรู้ว่าหัวระเบิดนิวเคลียร์ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ที่ไหน และระเบิดนิวเคลียร์ดังกล่าว ถ้าหากถูกนำไปไว้ยังเหมืองที่ถูกจุด จะทำให้แรงระเบิดลดลงโดยที่คาบสมุทรเกาหลีจะได้ไม่ถูกทำลายย่อยยับ แต่ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลยกับการที่ยุนเปียงจะร่วมมือกับภารกิจนี้
ความเด๋อด๋าของ Ashfall คือการออกแบบตัวละครอินชาง มาให้เป็นคุณพ่อมือใหม่ที่ต้องแบกรับภารกิจกู้ชาติ ทั้งที่เมียของตัวเองก็อยู่ในสภาพท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที แน่นอนว่าถ้าหากหนังเล่าเรื่องดีๆ อินชางต้องได้คะแนน “ความน่าเอาใจช่วย” จากคนดูไปเต็มๆ แต่จนแล้วจนเล่า ผู้กำกับอี ฮเยจุนและคิม บยองซู ก็ไม่สามารถคุมซีนดราม่าให้ออกมามีความน่าเห็นอกเห็นใจ ซ้ำร้ายหลายครั้งให้ความรู้สึกยัดเยียดจนน่าขัน
ยิ่งไปกว่านั้นฉากไม้เบื่อไม้เมาระหว่างอินชางและยุนเปียงที่ต้องร่วมมือกัน (แบบไม่เต็มใจ) กลายเป็นสีสันของเรื่อง และด้วยเคมีที่เข้าขากันอย่างประหลาด ส่งผลให้สองตัวละครนี้มีอาการ “จิ้น” กันแบบคนดูซีรีส์วาย จะต้องรู้สึกเหมือนกันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามถ้ามองในแง่ความสนุกแล้ว ดูเหมือนว่า Ashfall จะยังไปได้ไม่สุดทางนักสำหรับหนังแนวนี้ เมื่อย้อนกลับไปดูหนังหายนะของเกาหลีหลายเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทำออกมาได้ดีกว่าอาทิ Pandora โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิด, Tidal Wave (Haeundae) ซึนามิถล่ม หรือกระทั่ง The Tower ที่ตึกระฟ้าเกิดไฟ้ไหม้ ฯลฯ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นหนังที่ดูฆ่าเวลาแก้เบื่อได้แบบพอประมาณ