Sex Education 2: สอบถาม 3 นักแสดงนำ... เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงหรือ?

Sex Education 2: สอบถาม 3 นักแสดงนำ... เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงหรือ?

Sex Education 2: สอบถาม 3 นักแสดงนำ... เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงหรือ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เซ็กซ์” เป็นเรื่องธรรมชาติ... หลายคนคงเคยได้ยินประโยคข้างต้นมาไม่มากก็น้อย ซึ่งหากมองกันตามความจริง เซ็กซ์ก็เป็นหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบางประเทศบางคนอาจมองต่างในเรื่องนี้ แต่ซีรีส์จากประเทศอังกฤษอย่าง Sex Education ซึ่งฉายบน Netflix ไม่ได้มองเห็นเช่นนั้น

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว Sex Education ซึ่งว่าด้วยเรื่องราวของวัยรุ่นในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อน ความรัก ครอบครัว การค้นหาตัวตน ความพลุ่งพล่านของฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมายเฉกเช่นวัยรุ่นทั่วโลก โดยมี “เซ็กซ์” เสมือนเป็นเข็มทิศนำทางซีรีส์ ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมไปทั่วทุกสารทิศ เด็กวัยรุ่นดูได้ ผู้ปกครองดู(ก็)ดี กระทั่งการเดินทางมาถึงของซีซั่นที่ 2 ที่คอซีรีส์ทั่วโลกต่างรอคอย ซึ่งเพิ่งจะฉายบน Netflix ไปเมื่อ 17 มกราคม ที่ผ่านมา

Sex Education Season 2Sex Education Season 2

Sanook TV/Movies ได้รับเกียรติจาก Netflix ต่อสายสู่ต่างแดน สนทนากับ 3 นักแสดงนำที่ทุกคนต่างหลงรัก เอซา บัตเทอร์ฟิลด์ รับบท โอทิส หนุ่มน้อยผู้มีแม่เป็นนักบำบัดเซ็กซ์ แต่กลับไร้ความมั่นใจในเรื่องบนเตียง (และแทบจะทุกๆ เรื่องเสียนี่), อินชูที แกตวา รับบท อีริก หนุ่มเพศทางเลือกผิวสี ผู้ต้องพิสูจน์คุณค่าของตนเองในสายตาผู้อื่น และ เอ็มมา แม็คคีย์ รับบท เมฟ หญิงสาวลุคแสบสันต์ ผู้สร้างกำแพงขนาดใหญ่ให้กับชีวิต เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวของ Sex Education ซีซั่นที่ 2, พัฒนาการของแต่ละตัวละครที่พวกเขาสวมบทบาท…

รวมถึงคำถามที่เราอยากรู้เหลือเกินว่า เป็นวัยรุ่นแบบตัวละคร (รวมถึงในโลกแห่งความเป็นจริง) มันเหนื่อยจริงหรือ?

 

ย้อนกลับไปในซีซั่นแรกซึ่ง Sex Education ประสบความสำเร็จมากๆ พวกคุณคาดหวังความสำเร็จในระดับนั้นไว้บ้างไหม?

เอซา: พวกเราทุกคนน่าจะไม่มีใครคาดคิดถึงระดับนั้นนะ ช่วงถ่ายทำเมื่อปีก่อนมันสนุกมาก บทก็สนุกมากเช่นกัน มันเหมือนเป็นการนำเสนอประเด็นต่างๆ โดยนำอารมณ์ขันมาเป็นตัวช่วย พวกเราทำงานกันอย่างราบรื่นจนไม่ได้นึกถึงว่าผู้ชมจะให้การตอบรับในระดับนี้

เอซา บัตเทอร์ฟิลด์ เป็น โอทิสเอซา บัตเทอร์ฟิลด์ เป็น โอทิส

แล้วเจ้าความสำเร็จดังกล่าวในซีซั่นก่อนมันก่อตัวเป็นความกดดันสำหรับซีซั่นที่ 2 ไหม?

เอ็มมา: ฉันว่าพวกเรานึกไปถึงการดำเนินเรื่องของซีรีส์มากกว่า เราอยากลงลึกกับตัวละครให้มากขึ้น แล้วในซีซั่น 2 ก็มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาด้วย ฉันว่าบทมันเฉียบมากเลยนะ มือเขียนบทเก่งมาก คือฉันหมายความว่า แรงกดดันมันไม่น่ามาตกอยู่กับนักแสดงเท่าไหร่ เพราะเราทำหน้าที่ในส่วนที่มันสนุก ได้แสดงและทำให้ตัวละครมีชีวิตขึ้นมา ส่วนตัวฉันไม่ได้รู้สึกกดดันเลยนะ ในทางกลับกันฉันรู้สึกตื่นเต้นกับซีซั่นนี้มากๆ

เอซา: แต่สำหรับผมมันก็กดดันนิดนึงนะ คือมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเรามั่นใจในสิ่งที่ทำมากแค่ไหนด้วย แต่ตอนนี้เราก็พอรู้แล้วล่ะว่า สิ่งที่พวกเราทำเมื่อปีก่อนมันโอเค ผู้ชมชอบและเข้าถึงกับสิ่งต่างๆ เหล่านั้น

ตัวละครที่พวกคุณสวมบทบาทมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากซีซั่นแรกบ้าง?

เอซา: คือ โอทิส เริ่มไม่อยากทำคลินิกเซ็กซ์แล้วน่ะครับ แต่ อีริก อยากทำต่อ แล้ว โอทิส เป็นมนุษย์จำพวกหุนหันพลันแล่น ใจเร็วด่วนได้ไปบ้างกับบางปัญหาของชีวิต อะไรประมาณนี้

เอ็มมา: สำหรับ เมฟ ชีวิตเธอเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยค่ะ จู่ๆ แม่ของเธอก็กลับมาอยู่ด้วย เมฟเลยประสบปัญหาการวางตัวในครอบครัว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ เธอจะได้ใช้เวลากับตัวละคร เอมี (แสดงโดย เอมี ลูว์ วูด) มากขึ้นด้วย ฉันคิดว่าทุกตัวละครเอาใจช่วยเมฟนะ อยากให้เมฟมีความสุข ถ้ามีซีซั่นถัดๆ ไปอีก ฉันเองก็อยากเห็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง เมฟ กับ เอมี หรือแม้กระทั่ง มิสแซนด์ส อีกนะ อยากให้เมฟมีความสุขมากขึ้น (หัวเราะ) ยิ้มมากขึ้น และได้อยู่กับคนที่หวังดีต่อเธอ

เอ็มมา แม็คคีย์ เป็น เมฟเอ็มมา แม็คคีย์ เป็น เมฟ

อยากรู้ว่าพวกคุณชอบอะไรในตัวละครของตัวเองบ้าง?

อินชูที: ผมชอบความมั่นใจของ อีริก อย่างซีซั่นที่แล้วเขาเป็นคนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้คน ค่อนข้างให้ความสำคัญกับภาพที่คนอื่นมองมาที่เขา แต่กลับกัน ในซีซั่น 2 อีริกจะไม่ค่อยสนใจสิ่งเหล่านั้นแล้ว ทุกคนจะไม่เห็นเขาแคร์ภาพลักษณ์แบบเดิมๆ อีกต่อไป อีริกมีจุดยืนที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งผมคิดว่ามันเจ๋งมากที่ตัวละครนี้มีคาแรกเตอร์เกย์แบบมั่นใจ

เอ็มมา: ฉันชอบหลายสิ่งหลายอย่างในตัว เมฟ แล้วซีซั่นที่ 2 เธอจะได้เจออะไรมากมาย สิ่งที่ฉันชอบอีกอย่างคือความสัมพันธ์ระหว่าง เมฟ กับ มิสแซนด์ส (คุณครูสาวซึ่งรับบทโดย ราคี ธาคราร์) ซึ่งมิสแซนด์สจะคอยดูแล ปกป้อง และมอบโอกาสครั้งใหม่ให้กับชีวิตของเมฟ ฉันว่ามันเป็นอะไรที่จับใจมากๆ มันสำคัญนะที่มีเรื่องราวแบบนี้ปรากฏบนจอซีรีส์ แล้ว มิสแซนด์ส นี่ล่ะที่จะเป็นคนทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเมฟ ในเรื่องกลไกการป้องกันตนเองซึ่งเมฟสร้างขึ้นมาในอดีต

เอซา: ซีซั่นนี้ โอทิส จะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ มันสนุกดีที่ได้เห็น โอทิส ในรูปแบบนั้น เขาจะกลัวเรื่องราวในอดีตน้อยลง ซึ่งนับเป็นก้าวที่สำคัญของเขา นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องราวความสำคัญระหว่าง โอทิส กับ อีริก เมฟ รวมไปถึงกับแม่ของเขา ทั้งหมดนี้มันสวยงามมาก

อินชูที แกตวา เป็น อีริกอินชูที แกตวา เป็น อีริก

ดูจากตัวอย่าง Sex Education 2 ค่อนข้างเปิดเรื่องราวซึ่งอาจจะเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันพอสมควร?

เอ็มมา: คือซีซั่นนี้เรามีสิ่งที่อยากนำเสนอมากกว่าเดิม มีการเพิ่มตัวละครใหม่จากหลากหลายสถานที่ ก็อาจจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์มันใกล้ตัวผู้ชมมากขึ้น ซึ่งนักแสดงที่หลากหลายก็ทำให้เรื่องราวมีมิติที่ลึกขึ้นด้วย ฉันว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะได้เห็นมุมมองอื่นๆ ที่ไม่ได้เห็นกันเป็นประจำบ้าง

เอซา: เราสานต่อเรื่องราวจากที่ซีซั่นแรกได้สร้างเอาไว้เยอะพอสมควร อย่างการรวมตัวกันของสาวๆ มันก็จะทรงพลังมากขึ้น เรื่องราวของ เมฟ ก็น่าติดตามมากขึ้นตามไปด้วย การรวมตัวดังกล่าวมันมีขึ้นเพื่อจุดประสงค์ที่โดยส่วนตัวผมว่าน่าสนใจมาก

อินชูที: แล้วก็มีเรื่องความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่เพิ่มเข้ามา เซ็กซ์มันไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะวัยรุ่นเท่านั้นหรอกนะ

ความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่าง โอทิส และ โอลาความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นระหว่าง โอทิส และ โอลา

รวมถึงเรื่องเพศที่หลากหลายเอามากๆ ที่ปรากฏในซีรีส์?

อินชูที: ผมคิดว่าพวกเราโชคดีที่ได้เล่น ได้สวมบทบาทเป็นคาแรกเตอร์ต่างๆ เหล่านี้ ซีซั่นนี้ก็มีการเพิ่มบทบาทให้กับกลุ่ม LGBTQI มากขึ้นอีก มันเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นนะสำหรับการเล่าเรื่อง

หรือแม้กระทั่งฉากช่วยตัวเองของ โอทิส ที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง?

เอซา: (หัวเราะ) ใครได้ดูแล้วคงคิดว่านี่มันเป็นฉากรวมการช่วยตัวเองหรือเปล่า ก็ต้องมีระวังเรื่องภาพที่ออกมาบ้างนิดหน่อย แต่ตอนถ่ายทำก็สนุกดีนะ หวังว่าผู้ชมจะสนุกเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันอาจจะเข้าใจยากสำหรับบางคน

คู่ซี้ อีริก และ โอทิส ที่ยังต้องเผชิญเรื่องราวเจ็บๆ คันๆ ของวัยรุ่นคู่ซี้ อีริก และ โอทิส ที่ยังต้องเผชิญเรื่องราวเจ็บๆ คันๆ ของวัยรุ่น

พวกคุณคิดว่า Sex Education มันสะท้อนเรื่องเซ็กซ์อย่างไรบ้าง?

เอ็มมา: ฉันว่ามันเป็นตัวช่วยที่ดีเลยนะ มันสะท้อนชีวิตวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย คาแรกเตอร์ที่มีความหลากหลายและแตกต่างจะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องใกล้ตัว ฉันหวังว่า Sex Education จะช่วยลดความโดดเดี่ยวในชีวิตวัยรุ่น มอบพลังให้กับคนที่ต้องการพลังได้ และส่งความกล้าหาญไปให้กับคนที่สับสนได้ เราอยากช่วยให้ทุกคนมีความมั่นใจที่จะพูดหรือแสดงความรู้สึกออกมา

เคยมีแฟนคลับซีรีส์มาเล่าเรื่องราวชีวิตที่พวกเขาประสบพบเจอให้พวกคุณฟังบ้างไหม?

เอ็มมา: ส่วนใหญ่ที่เข้ามาจะมาขอถ่ายรูปนะ (หัวเราะ) เข้ามาคุยแบบจริงจังก็มี อย่างวันก่อนฉันไปมหาวิทยาลัยก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทายพูดคุย เธอน่ารักมาก เธอบอกว่ากำลังเรียนพยาบาลอยู่ และชอบซีรีส์เรื่องนี้มาก ฉันรู้สึกดีใจที่ได้พูดคุยกับแบบปกติกับคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน หวังว่าฉันจะได้คุยแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก

เอซา: สิ่งที่เจ๋งคือ เวลาคนเป็นพ่อเป็นแม่เดินเข้ามาคุยเกี่ยวกับลูกๆ ของพวกเขาให้ฟัง มันสนุกที่ได้แลกเปลี่ยนสิ่งดีๆ ให้แก่กัน

เมฟ ต้องเผชิญหน้ากับผู้เป็นแม่ ที่กลับเข้ามาในชีวิตเมฟ ต้องเผชิญหน้ากับผู้เป็นแม่ ที่กลับเข้ามาในชีวิต

ซีรีส์ Sex Education ได้มอบอะไรให้กับพวกคุณบ้าง?

เอซา: สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นซีซั่นก่อนหรือซีซั่นนี้ก็คือ การทำให้คนเปิดใจคุยเรื่องเซ็กซ์กันได้มากขึ้น ผมคิดว่าทุกคนที่รับชมจนจบแล้วจะสามารถพูดคุยเรื่องนี้กันได้อย่างเปิดอกกว่าเดิม ผมหมายถึง... เซ็กซ์มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันคือส่วนหนึ่งของชีวิต มันไม่ควรจะเป็นอะไรที่น่าอับอายหรือต้องปิดบังกัน

พวกคุณคิดว่าการเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงหรือเปล่า?

เอ็มมา: พวกเราทุกคนน่าจะเคยเป็นกันมาหมดแล้วนะ (หัวเราะ)

เอซา: คือวัยรุ่นเป็นวัยแห่งการค้นหา มีอะไรหลายอย่างที่เรายังไม่เคยพบเจอ มีเรื่องราวมากมายที่เราต้องเรียนรู้ มีแรงกดดันมหาศาลไม่ว่าจะอยู่ที่โรงเรียนหรือที่ไหนก็ตาม แถมฮอร์โมนก็ยังมาพลุ่งพล่านอีก ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากแหละ แต่พอเราอายุมากขึ้นอีกหน่อย แรงกดดันที่เราเคยสร้างให้ตัวเองก็จะเริ่มหายไป เราจะมองเห็นเรื่องที่สำคัญกว่า นั่นคือสิ่งที่วัยรุ่นจะได้เรียนรู้ครับ แค่ตอนเป็นวัยรุ่นเรายังมองไม่เห็นมันหรอก ในหัวก็จะมีแต่เรื่องเรียน เรื่องหนุ่มสาวอะไรแบบนั้น

มีคำแนะนำอะไรอยากบอกกับวัยรุ่นที่อาจจะกำลังสับสนหรือหลงทางอยู่บ้างไหม?

เอ็มมา: อยากบอกว่าซีรีส์ Sex Education มันเจ๋งนะ (หัวเราะ) มันช่วยฉันได้จริงๆ นะ ในฐานะผู้หญิงวัย 24 มันทำให้ฉันรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มันช่วยให้ชีวิตดูสมเหตุสมผลขึ้น แม้ว่าในช่วงวัยรุ่นเราอาจจะยังมองเห็นภาพในบางเรื่องไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ฉันอยากบอกว่าไม่ต้องรีบร้อน เชื่อสิว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างมีเหตุและผล จงให้เวลากับมัน แล้วก็... ดูแลตัวเองดีๆ

อัลบั้มภาพ 52 ภาพ

อัลบั้มภาพ 52 ภาพ ของ Sex Education 2: สอบถาม 3 นักแสดงนำ... เป็นวัยรุ่นมันเหนื่อยจริงหรือ?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook