มนต์ดวงดาวแห่งจันทรา "เซเลอร์มูน" ได้สำแดงฤทธายืนหนึ่งในโลกการ์ตูน

สวัสดีค่ะคุณกิตติขา เมาท์มอยเรื่องละครมาก็มาก วันนี้เทยขอตัดภาพไปพูดถึง การ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์ที่โด่งดังอย่างเปรี้ยงปร้างในไทย แถมเป็นขวัญใจกะเทยมาหลายยุคหลายสมัยค่ะ การ์ตูนที่เป็นเหมือนไบเบิ้ลสำหรับการ์ตูนฮีโร่หญิง และเนื้อหาที่ใกล้เคียงกันของการ์ตูนอีกหลายเรื่องเลยทีเดียว และในเมื่อกะเทยแห่แหนไปกราบองค์แม่กันขนาดนี้ มีหรือที่เทยจะไม่ขอเล่าเรื่องของ "เซเลอร์มูน" ให้ได้ฟังกัน

มาค่ะคุณกิตติคะ มาแปลงร่างไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ 

Bishoujo Senshi Sailor Moon หรือที่รู้จักกันในชื่อ อัศวินดาราสาวน้อยเซเลอร์มูน เป็นการ์ตูนแนวสาวน้อยเวทมนตร์ที่วาดและเขียนเรื่องโดย นาโอโกะ ทาเออุชิ ซึ่งตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่ม 18 เล่มจบ ได้รับการทำเป็นสื่อโทรทัศน์หลากหลายรูปแบบทั้งอนิเมะ ภาพยนตร์ และฉบับคนแสดง โดยในหน้าสื่อของบ้านเรา ช่องเก้าการ์ตูนเคยได้ลิขสิทธิ์ออกอากาศ ครั้งแรกในช่วง ปี พ.ศ. 2537 และ ออกอากาศอีกครั้ง วันที่ 31 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2554 ทาง ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ ในช่วงเวลาของช่อง 9 การ์ตูน (ปัจจุบันคือ โมเดิร์นไนน์การ์ตูน) โดยใช้ชื่อภาษาไทยครั้งแรกว่าว่า "เซเลอร์มูน ขบวนการสาวสาวสาว" ก่อนจะปรับเปลี่ยนมาเป็น "นักรบสาวแห่งจันทรา" และปัจจุบัน ก็ใช้ชื่อว่า เซเลอร์มูน ตามชื่อภาคต้นฉบับ

โดยนักพากย์ที่สร้างชื่อให้กับเซเลอร์มูนจนเป็นที่จดจำ ก็คือ น้าต๋อย เซมเบ้ หรือ นิรันดร์ บุณยรัตพันธุ์ ผู้ให้เสียง ชิบะ มาโมรุ หรือ หน้ากากทักซิโด้ มาตั้งแต่เวอร์ชั่นดั้งเดิม ร่วมกับ น้าเปียก-วิภาดา จตุยศพร ผู้ให้เสียง เซเลอร์มูน จนกลายเป็น Iconic ไปแล้ว ไม่อาจหาคนมาแทนได้อีก รวมไปถึง น้าผึ้ง-ศรีอาภา เรือนนาค ผู้ให้เสียง เซเลอร์เมอคิวรี่ ผู้อ่อนหวาน จนปัจจุบัน ทีมนักพากย์จากเรื่องเซเลอร์มูนของทางช่อง 9  ก็กลายเป็นนักพากย์ระดับตำนานไปหลายคน และเป็นผู้ให้เสียงตัวละครในภาพยนตร์ รวมถึงการ์ตูนอีกหลายเรื่องของช่องในเวลาต่อมาอีกด้วยค่ะ

ซึ่งในส่วนของเซเลอร์มูนเองนั้น ก็มีความเป็นตัวแม่ เป็นตำนานไม่น้อยหน้าเช่นกันนะเออ โดยเรื่องราวหลักๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวร่างจุติของผู้พิทักษ์อาณาจักรในระบบสุริยจักรวาล และการต่อสู้กับอำนาจชั่วร้ายของเหล่าผู้พิทักษ์ในชุดกะลาสี ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างเนื้อเรื่องที่โรแมนติกในแบบการ์ตูนผู้หญิง กับ ฉากการต่อสู้กับเหล่าร้าย ที่ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นแต่เฉพาะในการ์ตูนผู้ชายได้อย่างลงตัว ทำให้เซเลอร์มูนได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เด็กผู้หญิง โดยหนังสือการ์ตูนฉบับรวมเล่มทั้ง 18 เล่ม มียอดขายรวมสูงถึง 12 ล้านเล่ม และไอ้ความลงตัวนี้นั่นแหละเธอขา มันทำให้เซเลอร์มูนไม่ใช่โด่งดังแค่ในญี่ปุ่นหรือไทย แต่มันไปไกลทั่วโลกเลยค่ะ เพราะด้วยความ “ระบบสุริยะ” ความเวทย์มนต์ดวงดาว คือมันเป็นเรื่องที่ทุกที่ในโลก เข้าใจเป็นภาษาเดียวกันนั่นเอง

ในส่วนของเบื้องลึกเบื้องหลังนั้นเอง ตัวการ์ตูน เซเลอร์มูน ก็เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือ ส่อเสียดต่อรอง ระบบชายเป็นใหญ่ของญี่ปุ่นมากๆ เลย อาจารย์ นาโอโกะ ทาเคอุจิ ผู้วาดเรื่องนี้ เป็นนักวาดการ์ตูนหญิงคนแรกๆ ของสังคมนักวาด ที่คลาคล่ำไปด้วยผู้ชายในตอนนั้น เลยใช้ "ความเป็นหญิง" เข้าไปฟาดฟันตลาดได้เฟี๊ยสมาก

อาจารย์เริ่มวาดการ์ตูนไปส่งสำนักพิมพ์โดคันฉะ ทางสำนักพิมพ์เขาก็บอก ทำไมไม่มีตัวละครอ้วนเนิร์ด กับสาวน้อยใส่แว่นด้วยล่ะ ตัวละครผู้หญิงต้องใส่ชุดนักเรียนด้วยสิ จะได้ดูน่ารัก อาจารย์นาโอโกะก็คิดว่าแหม ความคิดนี้มันช่างโบราณคร่ำครึเสียนี่กะไร นางก็เลยวาดเรื่อง "รหัสลับเซเลอร์วี" เรื่องราวของสาวน้อยอัศวินในชุดกะลาสีส่งพิมพ์ ก่อนจะได้รับความฮือฮา แล้วก็ต่อยอดมาเป็นเซเลอร์มูนในที่สุด โดยที่ตอนแรกๆ ก็เติมตัวละครอูมิโนะ เด็กแว่นเนิร์ดเข้าไป อารมณ์แบบ มีแล้วโนะ พอใจแล้วใช่มะ ส่วนสาวแว่นฉลาดเหรอ อามิจัง เซเลอร์เมอร์คิวรี่สิ ไอคิว 300 ฉลาดพอมะ

เอากับแม่สิ

และหลังจากนั้น ตัวละครภาพจำที่ชายแท้ญี่ปุ่นชอบนักหนาก็ถูกอาจารย์ลดบทบาทความสำคัญลงในเนื้อเรื่องภาคต่อๆ มา เมื่อเซเลอร์มูนได้รับความนิยมมากขึ้น อาจารย์ก็เริ่มใส่เพศหลากหลายเข้าไปอย่างเซเลอร์ยูเรนัส กับเซเลอร์เนปจูน คู่เลสเบี้ยนยูริคู่แรกให้วงการการ์ตูนญี่ปุ่นอีกด้วย เรียกได้ว่ามาก่อนกาล ก่อนกระแส LGBT ในช่วงศตวรรษที่ 20 นี้อีก Before It Was Cool ที่แท้ และสำนักพิมพ์โดคันฉะ ก็ตีพิมพ์เซเลอร์มูนลงนิตยสารนากาโยชิแล้วจบในจำนวน 60 ตอน ก่อนจะแยกออกมาเป็นรูปแบบเล่มทั้งสิ้น 16 เล่มจบ รวมกับ รหัสลับเซเลอร์วี ภาคก่อนหน้าแต่แรกด้วย

แต่เดี๋ยวก่อนค่ะกะเทย การต่อสู้ของอาจารย์แม่นาโอโกะ ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เมื่อความแมสของเซเลอร์มูนในนากาโยชิ ไปเตะตาค่ายอนิเมะชื่อดังอย่าง TOEI Animation ทางเขาก็เลยอยากได้เซเลอร์มูนไปทำเป็นอนิเมะ แต่ด้วยเนื้อเรื่องตามฉบับมังงะแต่เดิม มีฉาก 15+ มีฉากเลือดสาด ฉากเผาเด็ก และสงคราม TOEI ก็ว่าหยุดก่อน มันดาร์กไปไหมแม่ เลยขอให้อาจารย์ปรับเนื้อเรื่องให้ดูแบ๊ว หวานใส เด็กดูได้ เน้นให้เป็นความรักหวานใสของสาวน้อย ตามใจผู้ชายอีกเช่นเคย และลดเรตลงมาเป็นทั่วไป ทุกวัยดูได้

เดิมที อาจารย์นาโอโกะไม่พอใจกับชุดความคิดนี้นัก แต่ก็เพราะยังไม่ได้มีอำนาจต่อรองอะไรมาก แม่ก็เลยยอมทาง TOEI ไปก่อน ทางค่ายก็เลยผลิตอนิเมะ Sailor Moon ออกฉายและโด่งดังไปทั่วโลกในจำนวน 5 ภาค 200 ตอน อย่างที่เราคงเคยได้ชมกันในตอนเด็ก ดังที่เราคงเคยได้รับชมกันทางช่องเก้ากันมาแต่อ้อนแต่ออกค่ะ โดยไล่ไปตั้งแต่ภาค Classic >> Sailor Moon R >> Sailor Moon S >> Sailor Moon SuperS >> Sailor Moon Sailor Stars รวมทั้งสิ้น 5 ภาค 200 ตอน 

แต่ว่าบาป เนื้อเรื่องก็ออกทะเลไปไกล ไม่ตรงต้นฉบับเลย

ก็ต้องยอมรับค่ะ ว่าอนิเมะฉบับนั้น กลายเป็นต้นฉบับสาวน้อยเวทมนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ตัวละครภาพจำผู้หญิงในโลกการ์ตูนที่เป็นคาแรกเตอร์นิยม ต่างก็เริ่มมาจากเรื่องนี้หมด สาวแว่น ซึนเดเร๊ะ เรียนเก่ง สาวห้าว สาวไอดอล สาวใหญ่ครูพยาบาล สาวแบนลึกลับ แนวโมเอะ ซึ่งคำว่าโมเอะที่เราเรียกๆ กัน ก็มีที่มามาจากตัวละครโทโมเอะ โฮตารุ หรือเซเลอร์แซทเทิร์น จากการ์ตูนเรื่องนี้เองค่ะเธ๊ออออ

เมื่อความดังมาถึงขีดสุด และ TOEI ถือลิขสิทธิ์มายาวนานครบ 20 ปี อาจารย์นาโอโกะก็ได้เวลาทวงทุกอย่างของชั้นคืน โดยปัจจุบัน อาจารย์ได้ช้อนเอาลิขสิทธิ์เซเลอร์มูนทุกอย่างกลับเข้า Studio ของเธอในชื่อ "Princess Naoko Planning" หรือตัวย่อว่า PNP ค่ะ สื่อสิ่งพิมพ์ อนิเมะ ภาพยนตร์ ของเล่น เครื่องสำอาง เพลงประกอบ ลามไปยันชื่อตัวละครก็ตาม เอาเป็นว่าสินค้าทุกอย่าง จะมีลายน้ำคำว่า PNP ปรากฎอยู่ใต้ตัวละครจากเรื่องเซเลอร์มูนเสมอ ไม่ใช่โดคันฉะ หรือ TOEI อีกแล้ว อาจารย์กลายเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เซเลอร์มูนทุก Platform แค่เพียงผู้เดียว โมเดลเดียวกับ เจ.เค. โรว์ลิ่ง กับ แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป๊ะ เป็นตัวแม่แห่งวงการการ์ตูนไปเรียบร้อย

และทั้งหมด มันมาจากการวาดการ์ตูนต้นฉบับไว้แค่ 16 เล่มเท่านั้นค่ะเธอ!!! ย้ำค่ะ 16 เล่ม!!!!

ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ทาง TOEI จึงยอมที่จะทำอนิเมะ Sailor Moon ภาคใหม่ในชื่อ Sailor Moon Crystal ซึ่งมีเนื้อเรื่องได้กลับไปตรงกับมังงะต้นฉบับมากขึ้น แต่ก็ตัดทอนเนื้อหาที่น่ากลัวออกไป ตอนนี้ฉายไปแล้ว 3 ซีซั่น แน่นอนทางโมเดิร์นไนน์การ์ตูน ก็ได้ลิขสิทธิ์ฉายไปเรียบร้อยเหมือนเดิม โดยได้ทีมนักพากย์เซตเดิมกลับมาอย่างครบถ้วนค่ะ แถมการพากย์ครั้งนี้ ก็ยังมีการใส่สีสันลวดลายความตลกลงไปกับซีนที่กลายเป็น Meme ทางโซเชี่ยลที่บอกว่า "ไปคุยกับรากมะม่วง"!!!

ก็จงโด่งดังอะไรกันขึ้นไปอี๊กกกกก

ซึ่งในปัจจุบันนี้นะคะ Sailor Moon ภาค Crystal ยังเหลืออีก 2 ภาค จึงจะครบจบกระบวนความตามต้นฉบับมังงะเดิม แต่กะเทยคะ จงฟัง อีกสองภาคที่เหลือ นางจะทำเป็น The Movies ค่า ซึ่งมีกำหนดฉายในช่วงเดือนกันยายน 2020 นี้เองเธอ เฟี๊ยสป้ะ

ก็เลยกลายเป็นว่าทุกวันนี้ อาจารย์นาโอโกะ ไม่ได้เขียนการ์ตูนเรื่องใหม่แล้ว Sailor Moon ที่เป็นมังงะแค่ 60 ตอน แต่ทว่ามันถูกกระจาย ขายลิขสิทธิ์ไปมากมาย อาจารย์แค่นั่งสวยๆ รอรับตังค์อย่างเดียวไปอี๊ก

เนี่ยอ่ะค่ะเธอขา การ์ตูนระดับตำนานที่ไม่ได้มีแต่ตัวละครผู้ชาย หรือมีความเป็นชายครอบงำ แต่กลับโด่งดังประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ การต่อสู้ของคุณแม่นาโอโกะกับระบบระบอบชายเป็นใหญ่ นี่ก็เป็นอะไรที่ดุเด็ดเผ็ดซี๊ด กินเวลายาวนานมากว่า 30 ปีเลยนะคะ 

กะเทยรออะไรคะ กราบแม่ค่ะ

ความดื้อ ถ้ามีลูกเล่นมากพอ อำนาจแห่งดวงจันทร์ ก็สัมฤทธิ์ผลได้ เริ่ดเว่อ

 

เหยี่ยวเทย รายงาน