รีวิว Miss Americana "เสียง" จากหัวใจของ เทย์เลอร์ สวิฟต์
ไมเคิล แจ็คสัน, วิทนีย์ ฮูสตัน, บริทนีย์ สเปียร์,เลดี้ กาก้า กระทั่งป๊อปสตาร์คนล่าสุดอย่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ บุคคลเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ผ่านสิ่งที่เรียกว่า “มรสุมชีวิต” ในช่วงที่พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตก เมื่อบรรดาสื่อฯ และผู้คนในสังคมก็ล้วนแล้วแต่หิวข่าว ได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายชีวิตส่วนตัวของพวกเขาและเธอ จนสร้างผลกระทบในชีวิตประจำวันแบบที่เราคาดไม่ถึง
เทย์เลอร์ สวิฟต์อาจจะไม่ใช่คนสุดท้ายในวงการบันเทิงที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวฉาวๆ หนังสารคดี Miss Americana จึงเลือกที่จะนำเสนอช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิต รวมไปถึงช่วงเวลาที่กลับมาเยียวยาชีวิตตัวเองผ่านผลงานเพลงในอัลบั้มใหม่อีกครั้ง
ย้อนกลับไปในเส้นทางสายดนตรีของเทย์เลอร์ สวิฟต์ เธอคือนักร้องสายคันทรี่ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานอย่างรวดเร็ว เธอได้รับรางวัลแกรมมี่ อวอร์สในปี 2010 ซึ่งตอนนั้นเธอมีอายุแค่เพียง 20 ปีเท่านั้น กลายเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัลดังกล่าว และเธอยังคงมีผลงานเพลงอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอจนกล่าวได้ว่า เธอกลายเป็นป๊อปสตาร์ที่ทั้งโลกจับจ้องและตามติดทุกย่างก้าว ทั้งชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัว
จากเด็กสาวที่มองโลกในแง่ดี จนกระทั่งงานประกาศผลรางวัล MTV Video Music Awards ในปี 2015 เมื่อเทย์เลอร์ ได้รับรางวัลบนเวทีดังกล่าว ได้เกิดเหตุการณ์แร็ปเปอร์อย่างคานเย่ เวสต์ขึ้นมาแย่งไมโครโฟนช่วงกล่าวสุนทรพจน์ และต่อว่าเธอว่ารางวัลนี้ สมควรจะเป็นของบียอนเซ่มากกว่า จนเทย์เลอร์เกิดอาการใจฟ่อและกลายเป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายที่ทำให้เธอมองโลกเปลี่ยนไป มรสุมชีวิตยังไม่จบ ตัวเทย์เลอร์เองโดนโจมตีจากสื่อเป็นว่าเล่น เรื่องการเปลี่ยนแฟนหนุ่มถี่ แถมชอบเอาชีวิตรักของตัวเองมาเขียนเป็นเพลงในอัลบั้มใหม่ กลายเป็นมุกตลกบนโลกออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง การถูกวิจารณ์ภาพลักษณ์เรื่องหุ่นและการแต่งตัว แน่นอนว่าเทย์เลอร์เอง ไม่มีความสุขและทุกข์ใจอย่างมากกับข่าวคาวๆเหล่านี้
สิ่งที่ Miss Americana เปิดโอกาสให้คนดูได้เห็นแง่มุมในฝั่งของเทย์เลอร์เองว่า แท้ที่จริงแล้วเธอรู้สึกอย่างไรกับการโดนโจมตีจากเหล่าสื่อมวลชนและคนทั่วไป ที่ไม่เข้าใจเลยว่าเธอต้องเผชิญกับอะไรบ้างในชีวิต ในหลายครั้งที่เธอจะเลือกระบายความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจเธอเองผ่านบทเพลงมากมายในแต่อัลบั้ม ที่จริงแล้วมันมีแง่มุม ความหมายที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ความฉาบฉวยแค่การระบายอารมณ์แต่เพียงอย่างเดียว
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงของเทย์เลอร์ สวิฟต์ หรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่เราจะได้เห็นจากหนังเรื่องนี้ คือการรับมือกับปัญหาในชีวิตอย่างมีสติ การพาตัวเองออกจากปัญหาและความทุกข์ เลือกในสิ่งที่เราศรัทธาและปรารถนาจากก้นบึ้งของหัวใจ หาใช่สิ่งที่ “คนนอก” อยากจะให้เราเป็นแบบที่เขาต้องการ