[รีวิว] CODE 8 ล่าคนโคตรพลัง - ไอเดียดี แต่ไปไม่ถึง

[รีวิว] CODE 8 ล่าคนโคตรพลัง - ไอเดียดี แต่ไปไม่ถึง

[รีวิว] CODE 8 ล่าคนโคตรพลัง - ไอเดียดี แต่ไปไม่ถึง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษถูกปฏิบัติเหมือนพลเมืองชั้น 2 ผู้คนต่างตกงานเพราะไม่มีใครกล้าจ้างอันเป็นผลมาจากความกลัวในพลังของพวกเขา และมันทำให้ คอนเนอร์ รีด (ร็อบบี เอเมล) หนุ่มพลังไฟฟ้าต้องเผชิญกับภาวะหลังชนฝา เมื่อแม่ (คารี แมตเชต)ต้องเผชิญโรคมะเร็งสมองที่ทำให้เธอควบคุมพลังแช่แข็งตัวเองไม่ได้ ในเมื่องานสุจริตหายากยิ่งกว่าทอง คอนเนอร์ จึงหันหลังให้กฎหมายร่วมงานอาชญากรรมทุกรูปแบบกับ แกร์เรต (สตีเฟน เอเมล)หนุ่มสายแบดพลังเคลื่อนย้ายโลหะ เพื่อทำงานสำคัญให้กับ มาร์คัส ซัดคลิฟ (เกรก บรีค) พ่อค้ายาไซซ์ ยาเสพย์ติดจากไขสันหลังมนุษย์พลังพิเศษที่กำลังระบาดอย่างหนัก จนเจ้าหน้าที่ปาร์ค (ซุง คัง) หน่วย ปปส.ตงฉินต้องออกกวาดล้างอย่างหนักแต่เมื่อหน่วยงานเร่งทำผลงานจนคุณธรรมในอาชีพเริ่มหมิ่นเหม่ ชะตากรรมของคอนเนอร์และอาการป่วยของแม่เลยต้องให้โชคชะตาตัดสิน !

สนับสนุนข้อมูลโดย Major Cineplex

เดิมที CODE 8 คือหนังสั้นไซไฟแอ็กชันของ เจฟฟ์ ชาน ในปี 2016 ที่ได้ดาราชื่อดังอย่างพี่น้องสายพระเอกซีรีส์ทั้ง สตีเฟน เอเมล จาก Arrow  และ รอบบี เอเมล จาก The X-Files แถมยังพ่วงดาราเอเซียเบอร์ใหญ่อย่าง ซุง คัง หรือ ฮาน จากหนังตระกูล Fast and Furious โดยเล่าถึงโลกสมมติที่ผู้มีพลังพิเศษถูกเลือกปฏิบัติจนหนึ่งในพวกเขาต่อสู้กับความอยุติธรรมด้วยพลังของตัวเอง ซึ่งบทคอนเนอร์ตัวเอกจากหนังสั้นก็ยังได้ รอบบี เอเมล กลับมารับบทเดิมในหนังยาวพ่วงพี่ชายอย่าง สตีเฟน เอเมล ที่ได้มารับบท แกร์เรต ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามา

โดยได้ ซุง คัง กลับมารับบทตำรวจที่คราวนี้เพิ่มรายละเอียดเป็นปปส. อัปเกรดจากหนังสั้นที่เป็นเพียงตำรวจล่าตระเวนธรรมดา พร้อมความยาวที่เพิ่มจาก 10 นาทีเป็น 98 นาที ซึ่งต้องยอมรับว่าแม้ไอเดียจากหนังสั้นจะเวิร์คอยู่แล้วและการเพิ่มเรื่องราวของโลกอาชญากรรมผู้มีพลังพิเศษจะน่าสนใจแต่การยัดเรื่องราวมหาศาลของมันก็ทำให้ผลทางดราม่าที่เป็นหัวใจหลักอย่างความสัมพันธ์แม่ลูกของคอนเนอร์ที่หนังพยายามบิลต์ไม่ทำงานเท่าที่ควร

ดูหนังสั้น  CODE 8 คลิกเลย

WHAT THE FACT รีวิว CODE 8

WHAT THE FACT รีวิว CODE 8

โดยเวอร์ชันหนังใหญ่ของ CODE 8 ก็เหมือนเป็นการขยายความหมายของชื่อเรื่องที่หมายถึงอาชญากรรมโดยผู้มีพลังพิเศษ แน่นอนล่ะว่ามันคือการเปรียบเปรย (Allergory) กับการเลือกปฏิบัติกับผู้อพยพหรือพลเมืองชั้น 2 ในอเมริกาและสามารถวิพากษ์เรื่องชนชั้นได้เห็นภาพแถมไปไกลถึงขั้นเล่าฉาก Prologue หรือ อารัมภบท โดยเอาฟุตเทจข่าวมาใส่เสียงบรรยายและมีถ่ายเป็นเชิงสารคดีว่าเมืองลินด์คอนที่เป็นฉากหลังถูกสร้างโดยกลุ่มผู้มีพลังพิเศษก่อนถูกกีดกันจนต้องมีชีวิตยากลำบาก และทีละน้อยที่คราวนี้บทหนังของ เจฟฟ์ ชาน และ คริส แพร์ เลือกจะเอาดรามาเป็นศูนย์กลางการเล่าเรื่อง

โดยตัดปะเปลี่ยนทรงเพิ่มความเมโลดราม่าด้วยการสร้างให้ คอนเนอร์ รีด กลายเป็นลูกกตัญญูที่ต้องหาเงินมารักษาแม่ เดินคู่ขนานไปกับโลกอาชญากรรมที่ก็ยิ่งเปรียบเปรยกับโลกความจริงไปอี๊ก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทั้งคู่มีความครีเอทในการคิดเรื่องราวและสร้างโลกของหนังขึ้นมาจนมันแตะ ๆ จะเป็นไซไฟการเมืองที่มีอ้างอิงเด่นชัดมากคือ Distirct 9 ของ นีล บลอมแคมป์ แต่จุดที่มันไปไม่ถึงคือการที่บทหนังไม่เลือกตัดอะไรออกเสียบ้างจนความรุงรังของเรื่องเล่าที่มีทั้งแม่ป่วย องค์กรอาชญากรรมของเหล่าผู้มีพลังพิเศษ ไปจนถึงเรื่องราวความลับของครอบครัวเจ้าหน้าที่ปาร์ค เป็นเหมือนภาระที่หนังต้องหาทางลงให้ได้จนอารมณ์ดราม่าที่หนังพยายามปูให้เราลุ้นตามพระเอกไม่ได้ทำงานเท่าที่ควร มิหนำซ้ำสิ่งที่บทหนังละเลยอย่างไม่น่าให้อภัยคือพัฒนาการของตัวละครนี่แหละที่พอดูจนจบแล้วมันคงที่ตลอดซึ่งก็ถือเป็นปัญหาสามัญของการดัดแปลงหนังสั้นไอเดียล้ำ ๆ มาเป็นหนังยาวหลายเรื่อง กรณีศึกษาชัดเจนที่สุดก็หนีไม่พ้นหนังอย่าง Skyline  นั่นแหละครับ

WHAT THE FACT รีวิว CODE 8

ด้านนักแสดงที่กลับมารับบทเดิมก็ยังคงคาแรกเตอร์จากหนังสั้นไว้แบบไม่ผิดเพี้ยนทั้งบทคอนเนอร์ของ รอบบี เอเมล ที่แม้ว่าจะเผชิญกับความบัดซบของชีวิตมากขึ้นในฉบับหนังยาวนี้แต่ก็ยังติดว่าหนังต้องสร้างพระเอกจนมันกลายคาแรกเตอร์ที่ดูน่าเบื่อ ไม่เป็นมนุษย์เท่าที่ควรแม้จะมีแอบเลวอยู่ช่วงหนึ่งก็ยังเลวไม่สุด แถมเวลาอยู่ใกล้ ๆ พี่ชายอย่าง สตีเฟน เอเมล ยังถูกบดบังรัสมีจนแทบไม่มีตัวตนด้วยซ้ำแม้บท แกเรต ของสตีเฟนจะแทบหาเหตุผลรองรับการมีอยู่ได้น้อยเต็มทีก็ตาม ส่วน ซุง คัง ที่น่าจะเป็นดาราเรียกแขกที่สุดแล้วก็ยังได้คาแรกเตอร์เท่ ๆ เช่นเดิมอย่างบทเจ้าหน้าที่ปาร์ค หน่วยปปส.ที่มีความสีเทาในคาแรกเตอร์แต่ด้วยเวลาของหนังที่น้อยมากก็ทำให้รายละเอียดที่บทหนังพยายามเล่าไปไม่ถึงแถมยังถูกใส่เรื่องของลูกสาวเข้ามาแบบงง ๆ เพื่อหวังให้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงเห็นใจพวกมีพลังก็ทำให้เรื่องราวดูรกรุงรังโดยใช่เหตุอีกด้วย

เตือนไว้ก่อนว่า CODE 8 ไม่ใช่หนังบู๊ ไซไฟ แอ็กชัน เหมือนตัวอย่างหนังพยายามทำให้เข้าใจผิด แต่มันคือหนังดรามาที่พยายามแตะประเด็นการเมืองที่ทำให้นึกถึง District 9 ไม่น้อยและยังเกาะกระแสหนังมนุษย์กลายพันธุ์ ฮีโร่พลังพิเศษนอกค่ายมาร์เวล ดีซี  แบบ PUSH  หรือ Chronicle เพียงแต่บทหนังที่พยายามใส่อะไรมากเกินพอดีเลยทำให้พลังของเรื่องราวของมันแผ่วลงไปอย่างน่าเสียดาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook