เซ่นพิษโควิด-19 หนังใหญ่เลื่อนยกแผง!

อย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้สถานการณ์ระบาดของโรค โควิด-19 (COVID-19) นั้นลุกลามบานปลายจนกลายเป็นภัยใกล้ตัวที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกเกิดอาการตื่นตระหนกและหวั่นวิตกเป็นอย่างมาก โดยสถานการณ์ล่าสุด (13 มีนาคม 2563) มียอดผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเกือบ 5,000 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงกว่า 130,000 ราย โดยเฉพาะฝั่งยุโรปที่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ 

ไม่เว้นแม้กระทั่งนักแสดงชื่อดังจากฝั่งอเมริกาอย่าง ทอม แฮงส์  ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว (@tomhanks) ว่าเขาและ ริต้า วิลสัน ผู้เป็นภรรยา ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากการเดินทางไปทำงานถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนังแนวชีวประวัติของนักร้องร็อคแอนด์โรลในตำนานอย่าง เอลวิส เพรสลีย์ (ซึ่งยังไม่มีการตั้งชื่อหนัง แต่วางกำหนดเข้าฉายในปี 2021) โดยทอม แฮงส์ จะรับบทเป็นโคโลเนล ทอม พาร์กเกอร์ ผู้จัดการส่วนตัวที่ทำให้เอลวิสกลายเป็นตำนานค้างฟ้า

ทว่าหลังจากที่ทอม แฮงค์รู้สึกว่าตัวเองจะมีอาการป่วยและเป็นไข้สูง เขาจึงตัดสินใจเข้าตรวจและพบว่าตัวเองเป็นโรคโควิด-19 ซึ่งเขาและภรรยาก็ไม่นิ่งนอนใจในการป้องกันตัวเองและแยกตัวออกมาจากสาธารณชนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคให้คนอื่น แน่นอนว่าเมื่อมีใครสักคนที่ป่วยนั่นหมายความว่ากองถ่ายของหนังเรื่องนี้ก็จะต้องหยุดกลางคันและส่งผลให้กำหนดวันเข้าฉายน่าจะต้องถูกเลื่อนออกไป

การระบาดของโควิด-19 ในฝั่งยุโรปและอเมริกาในวงกว้างเพิ่งจะ ส่งผลให้บรรดาผู้คนตื่นกลัวและเริ่มสัมผัสได้ถึงภัยเงียบนี้ แม้ว่าทางฝั่งเอเชียจะเตรียมรับมือกันมาสักระยะแล้ว (ส่วนบางประเทศน่ะหรือ รัฐบาลยังทำอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้เช่นกัน) เพราะความนิ่งนอนใจของผู้คนทางฝั่งตะวันตก ทำให้เชื้อไวรัสระบาดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมการสัมผัสตัว ไม่อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หรือไปชุมนุมทำกิจกรรมในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน เหตุผลดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการระบาดของไวรัส ประเทศอิตาลี ถึงกับออกมาตรการในการสั่งปิดโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงภาพยนตร์ โรงละครและกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมดโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา

 

คงเป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าแน่ ถ้าหากหนังฟอร์มยักษ์ที่มีคิวเข้าฉายในช่วงเดือนนี้ ยาวไปจนถึงช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งสตูดิโอยักษ์ใหญ่จากฮอลลีวูดถือว่า ช่วง “ซัมเมอร์” หรือ “หน้าร้อน” คือโอกาสทองที่หนังฟอร์มยักษ์จะทำกำไร แต่คงไม่ใช่สำหรับปี 2020 ที่โรคโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก

แม้ว่าตอนแรก Mulan จะเลื่อนการเข้าฉายแค่เพียงในประเทศจีน เพียงประเทศเดียว แต่ล่าสุด ดิสนีย์ ก็ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดที่จะเลื่อนการเข้าฉายทั่วโลกของไลฟ์แอ็คชั่นเรื่องนี้ออกไปแบบไม่มีกำหนด เช่นเดียวกันกับ The New Mutants ของ ทเวนตี้เซนจูรี่ ฟอกซ์ ที่เลื่อนแบบไม่มีกำหนดเช่นเดียวกัน (หลังจากที่เลื่อนฉายมาเกือบ 2 ปี ถ่ายทำซ่อมก็แล้ว อะไรก็แล้วดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะลืมไหว้พระไหว้เจ้าก่อนถ่ายทำ)

 

ทางฝั่งยูนิเวอร์แซล พาราเมาท์และเอ็มจีเอ็ม เลื่อนหนังดังต่อไปนี้ No Time To Die หนังภาคล่าสุดของ สายลับ 007 ไปเป็นพฤศจิกายน 2020 ส่วน Fast and Furious 9 เลื่อนฉายชนิดข้ามปีไปที่เดือนเมษายน 2021 (แฟนหนังคงต้องเซ็งกันเป็นแถบๆ) ส่วนหนังภาคต่ออย่าง A Quiet Place 2 ที่ตอนแรกจะเข้าฉายวันที่ 19 มีนาคมนี้ ถูกเลื่อนการเข้าฉายทั่วโลกไปแบบไม่มีกำหนด

ทางสตูดิโอโซนี่ พิกเจอรส์ที่เพิ่งจะนำ Bloodshot เข้าฉาย ได้ตัดสินใจเลื่อน Peter Rabbit 2 ออกไปที่เดือนสิงหาคม (ส่วนในประเทศไทยเข้าฉายเดือนตุลาคม)

สถานการณ์เช่นนี้ไม่ส่งผลดีต่อธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั่วโลกแน่ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า คนส่วนใหญ่ชอบดูหนังทุนสร้าง งานสร้างอลังการ ยิ่งไม่มีหนังใหญ่เข้าฉาย คนก็ยิ่งไม่เข้าโรงหนังมากกว่าเดิม (จากเดิมที่คนน้อยอยู่แล้ว) เมื่อเราปราดตามองหนังที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราตอนนี้ มีแค่เพียงหนังฟอร์มกลางๆอย่าง Bloodshot (ที่มีนักแสดงระดับแม่เหล็กอย่างวิน ดีเซล) ส่วนเรื่องอื่นก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนังฟอร์มเล็ก และมาจากค่ายหนังอิสระเป็นส่วนใหญ่ อาทิ Military Wives, My Spy, Brahms: The Boy 2 และ Present Perfect 2 (แค่นี้ก็ดีแล้ว 2) ซึ่งแต่ละเรื่องเมื่อเราลองไปสอดส่องรอบฉายตามโรงหนังแล้ว ก็ดูเหมือนจะได้รอบฉายก็ค่อนข้างน้อย และโรงภาพยนตร์ก็ไม่ได้เปิดฉาย “จำนวนโรง” ให้เยอะตามในสภาวะปกติ อาทิเช่น โรงฉายที่เอสพลานาด งามวงศ์วานแคราย มีทั้งสิ้น 16 โรง ก็ฉายหนังแค่เพียง 9 โรงเท่านั้น เป็นต้น

 

อีก 2 สัปดาห์ของเดือนมีนาคม หลังจากที่ไร้เงาของหนังฟอร์มยักษ์แล้ว จะเหลือหนังอยู่เพียงไม่กี่เรื่อง วันที่ 19 มีนาคม คือ The Lost Prince หนังครอบครัวสัญชาติฝรั่งเศส และ เกมเซ่นผี หนังไทยที่นำแสดงโดย แน็ก ชาลี, แทค ภรัณยู และป๋อง กพล ส่วน วันที่ 26 มีนาคม เหลือหนัง 3 เรื่องคือ มนต์รักดอกผักบุ้ง, Malevolent หนังสยองขวัญนำแสดงโดยฟลอเรนซ์ ฟิวจ์ และหนังฝรั่งเศส The Truth ผลงานการกำกับของฮิโรคาซู โครีดะ

ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตอนนี้ ผู้คนจะกลัวการเข้าโรงหนัง เช่นเดียวกันกับบรรดาสตูดิโอยักษ์ที่กลัว "หนัง" ของพวกเขาไม่มีคนดูและ "เจ๊ง" นั่นเอง