Bloodshot หนังจากคอมิกส์ที่ไม่ได้มาจากมาร์เวล!

Bloodshot หนังจากคอมิกส์ที่ไม่ได้มาจากมาร์เวล!

Bloodshot หนังจากคอมิกส์ที่ไม่ได้มาจากมาร์เวล!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าที่กำลังระบาดไปทั่วโลก หนังฟอร์มกลางอย่าง Bloodshot คือหน่วยกล้าตายจากสตูดิโอโซนี่ พิกเจอร์ ที่ตัดสินใจฉายหนังเรื่องนี้ทั่วโลกในวันที่ 13 มีนาคมผ่านมา (ส่วนในประเทศไทยเข้าฉายตั้งแต่วันพุธที่ 11 มีนาคม) ซึ่งหนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากคอมิกส์ ค่าย วาเลียนท์ และนำแสดงโดยพระเอกกล้ามโตอย่างวิน ดีเซล

 

 

ความพยายามครั้งใหม่ของสตูดิโอโซนี่

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้บรรดาสตูดิโอยักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูดจะต้องวนเวียนหากินอยู่กับบรรดาหนังฟอร์มยักษ์ที่ลงทุนด้วยเม็ดเงินมหาศาลและต้องอัดแน่นไปด้วยสเปเชียลเอฟเฟ็คสุดอลังการอันน่าตื่นตาตื่นใจ แต่บรรดาหนังเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจจะขาดทุนได้โดยไม่คาดคิด ดังนั้นการสร้างหนังจากบรรดาวรรณกรรม คอมิกส์ หรือการรีเมคหนังเก่า จึงเหมือนเป็นวิธีที่เพลย์เซฟที่สุดสำหรับสตูดิโอ

 

แน่นอนเมื่อนำสิ่งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วมาดัดแปลงพัฒนาต่อ อาจจะหมายถึงสตูดิโอไม่ต้องคิดพล็อตใหม่ๆ จ้างนักเขียนบทภาพยนตร์ให้สรรค์สร้างจินตนาการจนใช้เวลาเนิ่นนาน (และหมายถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย) การหยิบเอาพวกบรรดาคอมิกส์มาดัดแปลงจึงเป็นอีกหนทางที่น่าสนใจ (แต่ถ้าทำไม่ดีก็อาจจะล้มเหลวแบบ Hellboy ของสตูดิโอไลออนเกสต์ เป็นต้น) ซึ่งโครงการสร้าง Bloodshot ที่เป็นตัวละครสำคัญของคอมิกส์ค่ายวาเลียนท์

 

แฟรนชายส์ซูเปอร์ฮีโร่ที่สตูดิโออย่างโซนี่ เหลืออยู่ในมือ มีแค่เพียงตัวละครสไปเดอร์แมน (และตัวละครอื่นๆในจักรวาลสไปเดอร์แมน เท่านั้น) คงใช่เรื่องดีแน่ที่ในระยะยาว ที่คนดูอาจจะมีโอกาสเบื่อ หรือ หนังบางเรื่องเกิดไม่ประสบความสำเร็จ จริงอยู่ที่ Venom ดูเหมือนจะไปได้สวย แอนิเมชั่นอย่าง Spider-Man: Into the Spider-Verse ก็คว้ารางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นยอดเยี่ยมมาครอบครองได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นการกระจายความเสี่ยงในการสร้างแฟรนชายส์ใหม่ๆเพิ่มเติมก็ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นไม่น้อยเช่นกัน

 

 

เรื่องราวของ Bloodshot ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์

 

จากคอมิกส์เบสต์เซลเลอร์ เรย์ แกร์ริสัน (วิน ดีเซล) เป็นสุดยอดทหารที่เพิ่งสังเวยชีวิตระหว่างปฏิบัติการ และเขาได้รับการฟื้นคืนชีพในฐานะสุดยอดทหาร บลัดช็อต โดยอาร์เอสที คอร์ปอเรชัน ด้วยนาโนเทคโนโลยีที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือด เรย์กลายเป็นนักรบที่ไม่มีใครต้านทานได้ เขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่บริษัทเคยสร้างขึ้นมา และยังสามารถรักษาตัวเองได้ในชั่วพริบตาอีกด้วย ทว่าการอัพเกรดร่างกายของเขา ทางบริษัทก็ได้ควบคุมจิตใจและความทรงจำของเขาด้วย ขณะที่เริ่มจดจำอดีตที่ผ่านมาของตัวเองได้ เรย์ก็ไม่มั่นใจว่า อะไรกันแน่ที่เป็นเรื่องจริง และอะไรที่ไม่ใช่ ทำให้เขาพยายามค้นหาคำตอบให้กับตัวเองว่าตกลงแล้วเขาเป็นใครกันแน่

 

 

การปลุกชีพทหารพันธุ์ดุ

 

วิน ดีเซลควบหน้าที่ทั้งแสดงนำและนั่งแท่นผู้อำนวยการสร้าง Bloodshot เพราะอันที่จริงแล้วเขาอยากแสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่ใจแทบขาด ดีเซลกล่าวถึงตัวละครที่เขาแสดงว่า “แม้ว่าว่าตัวละครนี้จะมีทักษะในการต่อสู้เป็นเลิศ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของเขาต่างหาก เนื่องจากจิตใจของเขาถูกควบคุม เขาเป็นทหารสุดเจ๋ง ที่มีความสามารถพิเศษสุดเนื่องมาจากนาไนท์สในเลือดของเขา แต่สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้คือเขาได้รับแรงจูงใจจากสิ่งเดียวกับที่เป็นแรงจูงใจให้เราทุกคน นั่นคือความรักที่ไม่อาจลืมเลือนได้ และสิ่งที่น่าเศร้าเกี่ยวกับตัวละครตัวนี้คือการที่ความรักนั้นถูกควบคุมให้กลายเป็นการทรยศหักหลัง”

 

สิ่งที่ทำให้บลัดช็อตแตกต่างจากบรรดาตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นก็คือ เขามีความซับซ้อนและมีมิติทางอารมณ์อันอ่อนไหว โดยตลอดเรื่องราว บลัดช็อตจะตั้งข้อสงสัยกับตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า เขากำลังทำเรื่องที่ดีหรือเรื่องเลวร้ายอยู่กันแน่ ภายในจิตใจของเขาจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ด้วยแง่มุมเหล่านี้จึงทำให้ผู้ชมมีความเห็นอกเห็นใจตัวละครมากขึ้น เพราะในอีกมุมหนึ่งคือเขากำลังถูกบงการมาจากบริษัทที่ควบคุมเขาอีกที

 

 

กำเนิดตัวละครบลัดช็อต

 

“Bloodshot” เป็นหนังสือขายดีที่มีคนสะสมกันมากมายในช่วงยุค 90s ในวันที่ ‘Superman’ ตาย ‘Bloodshot’ เล่ม 1 ก็ปรากฏสู่สายตาโลกใบนี้ บลัดช็อตถูกใจคนอ่านเพราะเขาเป็นตัวแทนความเป็นมนุษย์แบบใหม่ในการเล่าเรื่องในหนังสือการ์ตูน แทนที่จะเป็นคนที่พิเศษสุดอยู่แล้วก่อนที่เขาจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร หรือเป็นทหารที่เก่งที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตอยู่ บลัดช็อตเป็นแค่ทหารธรรมดาๆ ที่พิเศษขึ้นมาด้วยเหตุการณ์ในหนังสือการ์ตูน เขาเป็นคนธรรมดาในสถานการณ์พิเศษ

 

ตัวละครตัวนี้ถือกำเนิดขึ้นในตอนที่บ็อบ เลย์ตัน ผู้ร่วมสร้างตัวละครตัวนี้สำหรับหนังสือการ์ตูนวาเลียนท์กับเควิน แวนฮุ้ค ได้อ่านบทความนิตยสารเกี่ยวกับนาไนท์ส เครื่องจักรที่วัดค่าด้วยหน่วยนาโนเมตร ที่มีขนาดหนึ่งในล้านของมิลลิเมตร เขาจึงจินตนาการต่อว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณสร้างแฟรงค์เกนสไตน์สมัยใหม่ขึ้นมาได้ แต่คุณต้องใช้นาไนท์สในการปลุกชีพให้กับเขาขึ้นมา ดังนั้นตัวละครนี้จึงยืนอยู่บนพื้นฐานของหลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ยังพาคนอ่านไปสำรวจสภาวะจิตใจของตัวละครอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook