Brahms: The Boy II การกลับมาของตุ๊กตาซ่อนผี

Brahms: The Boy II การกลับมาของตุ๊กตาซ่อนผี

Brahms: The Boy II การกลับมาของตุ๊กตาซ่อนผี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

The Boy คือหนังสยองขวัญในปี 2016 ที่ประสบความสำเร็จชนิดต้องเรียกว่า “ถล่มทลาย” เพราะหนังลงทุนไปแค่เพียง 10 ล้านเหรียญฯ แต่สามารถทำกำไรทั่วโลกได้ถึง 74 ล้านเหรียญฯ จน STX Entertainment ยิ้มแก้มฉีกและดันโปรเจ็คภาคต่อตามออกมา ปัจจัยความสำเร็จประการหนึ่งน่าจะเป็นผลพวงมาจากหนัง Annabelle ซึ่งพูดถึงเรื่องราวของตุ๊กตาอาถรรพ์เช่นเดียวกัน

 

 

เกิดอะไรขึ้นใน The Boy ภาคแรก (มีสปอยล์)

 

เกรต้า หญิงสาวชาวอเมริกันที่มีอดีตอันแสนเลวร้าย เธอจึงตัดสินใจจะรับงานเป็นพี่เลี้ยงในการดูแลเด็กน้อยอย่างบราห์ม ซึ่งเธอต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงชนบทของประเทศอังกฤษ ด้วยค่าจ้างในการทำงานที่จัดได้ว่า “มากกว่าเรทปกติ” ยิ่งล่อใจให้เธอรับงานดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

 

ข้อมูลคร่าวๆที่เธอได้รับก็คือการเดินทางมาดูแลหนูน้อยบราห์ม ลูกชายของครอบครัวตระกูลฮีลเชียร์ แต่เมื่อเกรต้ามาถึง เธอก็พบว่าหนูน้อยดังกล่าวนั้นไม่ใช่คน แต่เป็นตุ๊กตาดินเผาที่มีขนาดเท่ากับคน แถมเธอยังต้องรับมือกับกฎข้อบังคับมากมายในการดูแลเด็กคนนี้ ระหว่างที่สองสามีภรรยาอย่างฮีลเชียร์เดินทางไปพักร้อน ทว่าระหว่างการดูแลตุ๊กตาครั้งนี้ เมื่อเกรต้าละเลยข้อห้ามบางประการ เธอกลับค้นพบกับเหตุการณ์ประหลาดซึ่งไม่อาจจะหาคำอธิบายได้และเมื่อเธอพยายามค้นหาคำตอบ เธอก็ได้พบกับอิทธิฤทธิ์ของบราห์ม

 

เมื่อหนังเดินทางมาถึงในจุดไคลแมกซ์ค้นดูก็จะได้รับคำอธิบายว่าจริงๆ หนูน้อยบราห์มนั้น แท้ที่จริงเป็นหนุ่มวัยรุ่นที่มีตัวตนอยู่จริง ซึ่งแอบซ่อนอยู่ตามผนังของคฤหาสน์ซึ่งทอดยาวไปถึงห้องลับของตัวเอง คอยแอบมองเกรต้าและอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ประหลาดตั้งแต่ต้นเรื่อง ดังนั้นบรรดากฎข้อห้ามต่างๆที่ถูกสร้างขึ้นนั้นก็เพื่อ เอื้อประโยชน์ต่อตัวบราห์มทั้งสิ้น อาทิ การพูดกับบราห์มหรือการเปิดเพลงด้วยเสียงดังๆ ก็เพื่อให้เขาได้ยิน กระทั่งการเอาอาหารที่เหลือใส่ตู้แช่ไว้ ก็เพื่อให้บราห์มแอบย่องออกมากินนั่นเอง จากสถานการณ์ทั้งหมด The Boy จึงเป็นหนังที่ต้มคนดูว่ามันคือหนังผี แต่ความเป็นจริงแล้วมันคือหนังแนวฆาตกรโรคจิตที่เล่นกับความหวาดวิตกของเหยื่อต่างหาก

 

 

Brahms: The Boy II กลับมาคราวนี้เรื่องราวเกี่ยวกับอะไร

 

เมื่อคู่รัก ลิซ่า (เคที่ โฮส์มส์) และ ฌอน (โอเวน เยโอแมน) พร้อมด้วยลูกชาย จู๊ด (คริสโตเฟอร์ คอนเวอรี่) ได้ย้ายมาอาศัยในคฤหาสน์ฮีลเชียร์โดยพวกเขายังไม่รู้ปูมหลังอันน่าขนลุกของที่แห่งนั้น และแล้วความสยองก็บังเกิดเมื่อจู๊ดได้พบกับเพื่อนใหม่เป็นตุ๊กตาขนาดเท่าคนจริงนามว่า “บรามส์” ก่อนจะพบกับเหตุการณ์ประหลาดมากมาย

 

 

ความสยองครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม (จริงรึเปล่านะ)

 

ผู้ชมหนังภาคแรกยังคงจำได้ดีว่า จริง ๆ แล้วบรามส์ไม่ใช่ตุ๊กตาต้องสาปแต่อย่างใด สิ่งที่ทำให้ตุ๊กตาตัวดังกล่าวขยับได้ก็คือ ชายโรคจิตคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ภายในช่องว่างระหว่างกำแพงของคฤหาสน์ฮีลเชียร์ สิ่งพี่เลี้ยงเด็ก เกรต้า (ลอเรน โคแฮน) ต้องดูแลนั้นไม่ใช่ตุ๊กตาเด็ก แต่กลับกลายเป็นชายสวมหน้ากากบรามส์ที่มีหนวดเคราเฟิ้ม เมื่อความลับดังกล่าวถูกเปิดโปง การสร้างหนังภาคต่อจึงเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับผู้สร้าง เพราะพวกเขาต้องหาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ชมอีกครั้ง

 

โจทย์ดังกล่าวคือประเด็นที่สำคัญที่สุดสำหรับการสร้าง “Brahms: The Boy II ตุ๊กตาซ่อนผี 2” ในภาคนี้ผู้สร้างชุดเดิมได้กลับมาร่วมโปรเจกต์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างจาก “It อิท โผล่จากนรก” รอย ลี ผู้เขียนบท สเตซี่ย์ เมเนียร์ หรือผู้กำกับ วิลเลี่ยม เบรนท์ เบลล์ ทางด้านผู้อำนวยการสร้าง แกรี่ ลูเชสซี่ ได้แอบกระซิบมาว่า “เราจะไม่ใช้มุขชายแปลกหน้าในกำแพงอีกแล้วครับ ผมเข้าใจดีว่าในตอนนั้นมันเป็นไอเดียที่ฟังดูเจ๋ง และพวกเราก็ชอบมันมาก แต่เราจะทำแบบเดิมตลอดไปไม่ได้” เขากล่าว “มันเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับการสร้างบรามส์ภาคนี้ แล้วเราก็มีตัวละครตัวใหม่ที่แสดงโดย ราล์ฟ อีนสัน ด้วย เขาเป็นนักแสดงที่เคยสร้างผลงานเอาไว้ใน The Witch และเราขอรับรองว่าการแสดงของเขาจะต้องทำให้พวกคุณต้องเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน โดยเฉพาะช่วงท้ายของหนัง”

 

 

เหตุการณ์ของหนังภาคนี้ไม่ได้ต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกทันทีแต่อย่างใด นักออกแบบงานสร้าง จอห์น วิลเลต ที่เคยออกแบบงานสร้างให้ The Boy ได้กล่าวถึงหนังเรื่องนี้ว่า ผู้ชมจะได้เห็นส่วนต่าง ๆ ของบ้านที่เราไม่เคยเห็นในภาคแรก ซึ่งรวมถึงห้องของบรามส์ด้วย แนวคิดของบ้านหลังนี้ก็คือ เมื่อสามปีก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในหนัง โยเซฟ (ที่รับบทโดย ราล์ฟ อีนสัน) ได้จ้างผู้รับเหมาให้มาซ่อมแซมคฤหาสน์หลังนี้เพื่อที่จะนำมันไปขาย แต่แล้วก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ผู้ชมจะได้มีโอกาสเห็นอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ วางเกลื่อน เครื่องมือและอุปกรณ์ก็ยังคงวางอยู่ทั้งด้านนอกและด้านในคฤหาสน์ ราวกับว่าผู้ชมกำลังเดินเข้าไปในสถานที่ที่กำลังอยู่ในช่วงการตบแต่ง

 

ในหนังภาค 2 ทีมงานจึงอยากจะสร้างให้บรามส์ไม่ได้เป็นแค่ตุ๊กตาที่มีแต่ความน่ารักและพิศวงเท่านั้น มันต้องมีความอันตรายด้วย แต่ถึงผู้ชมที่เคยดูหนังภาคแรก จะได้รับรู้ความจริงเกี่ยวกับตุ๊กตาบรามส์ในภาคแรกกันมาแล้ว คำถามก็คือว่าเขาจะต้องทำอย่างไรเพื่อทำให้เจ้าตุ๊กตาตัวนี้กลับมาน่ากลัวอีกครั้ง “เราสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้หลายวิธี สิ่งที่เราต้องทำก็คือการทำให้คนดูรู้สึกว่าพวกเขาพึ่งจะได้ดูหนังเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เราจะเริ่มจากการให้ตุ๊กตาตัวดังกล่าวถูกพบในลักษณะที่ถูกฝังดินเอาไว้อยู่ และมันก็จะยิ่งดูประหลาดขึ้นเมื่อตุ๊กตาตัวดังกล่าวที่มีขนาดเท่ากับเด็กอายุ 8 ขวบ ได้อยู่เคียงข้างเด็กผู้ชายที่มีอายุ 10 ขวบตลอดเวลา”

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook