จังหวะชีวิตพระเอก Kingdom "จูจีฮุน" ดวงดีหรืออยู่ที่ฝีมือ?

มันคือความอ่อนหวายยย... ใครทันเพลงนี้ก็ดักแก่กันนิดหน่อยจ้า ถ้าได้ยินเพลงนี้ดังขึ้นมาทีไร หลายคนเป็นต้องคิดถึงซีรีส์เกาหลีเรื่องดังอย่างเรื่อง Princess Hours หรือชื่อไทย เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (2006) หนึ่งในซีรีส์วัยหวานของหลายๆ คน ที่ครั้งหนึ่ง "เจ๊จี" ก็เคยตบตีกับเพื่อนแย่งเป็นนางเอก อยากถูกสองเจ้าชาย ลีชินกับลียุน หลงรักกับเขาบ้าง! และนั่นก็ทำให้หลายคนได้รู้จักพระเอกมาดนิ่ง จูจีฮุน (Ju Ji Hoon) ที่สวมบทเจ้าชายเย็นชาจนคนอินตามทั้งบ้านทั้งเมือง

จากองค์รัชทายาทสุดเย็นชา สู่บทบาทองค์รัชทายาทปราบผีดิบใน Kingdom อาจดูเหมือนว่าชีวิตพระเอกคนนี้ช่างดีเหลือเกิน แต่ในเส้นทางการแสดงในวงการของพระเอกจูจีฮุน ครั้งหนึ่งเขาเกือบต้องหายไปจากวงการ เพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งไม่ว่าจะวงการไหน หากมีคนดังเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เส้นทางชีวิตก็ไม่น่าจะสวยหรูอีกต่อไป และยิ่งวงการบันเทิงเกาหลีที่คนดังจะต้องมีภาพลักษณ์ที่ดีในสังคม ก็เรียกว่าแทบจมดินไม่ได้กลับเข้าวงการอีกเป็นแน่... แต่ทำไมเขาถึงกลับมาโลดแล่นในวงการได้อีกครั้ง?

เข้าสู่วงการ

จูจีฮุน เข้าสู่วงการด้วยการเป็นนายแบบ และมีผลงานการแสดงเรื่องแรกในซีรีส์ Princess Hours หรือ เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา ที่ทำให้เราได้รู้จักเขาในบทบาทขององค์รัชทายาท หรือเจ้าชายลีชิน ผู้มาดนิ่งสุดเย็นชา สร้างความนิยมถล่มทลายทั้งในเกาหลีและเอเชีย ปฏิเสธไม่ได้ว่าถือเป็นผลงานเดบิวต์ฐานะนักแสดง แถมยังกวาดรางวัลมาเพียบจากเรื่องนี้ กลายเป็นนักแสดงดาวรุ่งยอดนิยมและมีผลงานการแสดงต่อเนื่องขณะนั้น

เรื่องอื้อฉาว

เส้นทางประสบความสำเร็จในวงการของ จูจีฮุน โลดแล่นได้เพียงไม่กี่ปี ก็เหมือนว่าเขาเผลอไปตัดทางเดินกลีบดอกไม้ของตัวเองเข้าให้ เมื่อเขาถูกจับกุมข้อหาใช้ยาเสพติด (กัญชา) พร้อมเพื่อนอีก 15 คนเมื่อปี 2009 เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นอื้อฉาวของวงการอุตสากรรมบันเทิงเกาหลีอย่างมาก ทั้งนี้จูจีฮุนได้ยอมรับข้อหาทั้งหมด ศาลจึงตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลาหกเดือน รอลงอาญา 1 ปี บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมต่อเนื่อง จนถึงเวลาเข้ากรมทำให้เขาหายไปจากวงการนานกว่า 3 ปี 

จังหวะชีวิตที่เหมือนโกงความตาย

คนดังแดนกิมจิหลายคนที่มีเรื่องอื้อฉาวมักจะหายไปจากวงการ เคลื่อนไหวอะไรก็มีแต่คนรอซ้ำ พร้อมเหยียบให้จมดิน แต่ จูจีฮุน กลับไม่เป็นเช่นนั้น บอกเลยว่าคนนี้นอกจากฝีมือแล้วยังมากับดวง เพราะหลังจากที่เขาปลดประจำการทหาร ก็มีผลงานการแสดงทันที การที่เขายอมรับผิดเรื่องอื้อฉาว และเก็บตัวเงียบจนถึงเวลารับใช้ชาติ เป็นจังหวะที่ดีมากในการทำให้ข่าวคาวซาลงไป โดยได้ใช้ฝีมือการแสดงพิสูจน์ตัวเองว่ายังสามารถมีพื้นที่ในวงการนี้ เป็นโอกาสที่ใช่ว่าคนที่เดินผิดทาง จะได้กลับมาทรงตัวเดินใหม่อีกครั้งแบบเขา

ด้านภาพลักษณ์ที่เคยมีข่าวฉาวก็คงไม่หายไปจากชื่อของจูจีฮุน แต่เครดิตของนักแสดงก็มีภาษีดีหน่อยในวงการบันเทิง การค่อยๆ ฟื้นชีวิตในวงการของพระเอกคนนี้เรียกว่าถูกจังหวะไปหมด หลังจากกลับเข้าสู่ในวงการเขาได้รับงานแสดงส่วนใหญ่ในภาพยนตร์ต่างๆ อีกทั้งยังไม่เกี่ยงบท ประกบตัวนักแสดงดังๆ อีกทั้งแรงสนับสนุนจากผู้กำกับหลายคน เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาเหมาะที่จะได้โอกาสบนเส้นทางนี้ต่อไป การรับบทเป็นหนึ่งในสี่ ยมทูตในภาพยนตร์ Along with the Gods ที่กระแสดีเปิดตัวถล่มทลายจนได้ขยายเป็นภาคต่อ ก็ยิ่งทำให้จูจีฮุน กลับมาโลดแล่นในวงการได้อย่างสวยงาม และกลายเป็นปีทองของเขา ไม่ว่าจะเล่นภาพยนตร์เรื่องไหน ก็กวาดรางวัลมาได้แทบทุกเวที 

ในผลงานล่าสุดอย่าง Kingdom 2 ที่ออกอากาศทาง Netflix ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่พิสูจน์ความทุ่มเทกับการแสดงของจูจีฮุน ที่ทำให้เขาได้กลับมาเฉิดฉายในบทบาทของ องค์รัชทายาทที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าบ้านเมืองจะเข้าสู่หายนะขนาดไหน ใครที่ยังไม่ได้ดูตามไปดูแบบนันสต๊อปทั้ง 2 ซีซั่นแบบยาวๆ ได้เลย บอกเลยว่าลุ้นจนแทบหยุดหายใจ

การมีผลงานที่ประสบความสำเร็จทั้งที่เคยมีเรื่องอื้อฉาวมาก่อน ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าถ้าหากสังคมให้โอกาสและคว้าโอกาสนั้นสร้างทางเดินใหม่ ก็คุ้มค่าทั้งผู้ที่ให้โอกาสและผู้ที่รับโอกาส และเขาก็อยู่ได้โดยผลงานจริงๆ