บันเทิงไทยวุ่น! พิษโควิด-19 พักกองยาว เหล่าผกก.ห่วง คนกองเอาเงินไหนกิน

บันเทิงไทยวุ่น! พิษโควิด-19 พักกองยาว เหล่าผกก.ห่วง คนกองเอาเงินไหนกิน

บันเทิงไทยวุ่น! พิษโควิด-19 พักกองยาว เหล่าผกก.ห่วง คนกองเอาเงินไหนกิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก นอกจากความเจ็บป่วยที่แฝงเข้ามาในร่างกายแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว ยังสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตของผู้คนที่ต้องระวังเจ้าโรคร้ายนี้ทุกชนชั้น ทุกอาชีพ และทุกวงการ หนึ่งในวงการที่ได้รับผลกระทบไปไม่แพ้กันอย่าง วงการบันเทิง ที่นอกจากตัวบุลคลทั้งศิลปินนักแสดง ที่ต้องไปพบปะผู้คนตลอดเวลาแล้ว เหล่าคนกองถ่ายก็ได้รับผลกระทบนี้เช่นกัน 

หลังจากทางรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ปิดสถานบันเทิงต่างๆ ที่มีการรวมกลุ่มคนหมู่มากไว้ด้วยกัน ทางกองถ่ายหนัง กองละคร ที่มีกลุ่มคนรวมกันอยู่เยอะก็กระทบไปด้วย จนตอนนี้กลายเป็นทุกอย่างแทบนิ่งสนิท มีการรณรงค์ให้ทุกคนอยู่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทาง Sanook มีโอกาสได้ต่อสายทางโทรศัพท์หาสองผู้กำกับชื่อดังอย่าง สันต์ แก้วศรีหล่อ และ ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่กองถ่ายของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบนี้ไปด้วย 

โดยผู้กำกับ สันต์ แก้วศรีหล่อ ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า "ก่อนหน้านี้กองถ่ายได้ป้องกันการระบาดของไวรัส ให้ทุกคนใส่หน้ากาก มีเจลล้างมือวางไว้ตามจุดต่างๆ กินข้าวแยกจาน แต่ตอนนี้หยุดกองแล้ว รอดูสถานการณ์ไปทีละวีคครับ (คาดว่าจะกระทบยังไงบ้างกับวงการบันเทิงบ้านเรา ยิ่งกับละครที่ต้องถ่ายไปออนไป และจะคาดว่าจะแก้ไขผลกระทบนี้ยังไงบ้าง) มีผลกระทบอย่างมากครับ ยิ่งเป็นละครที่ถ่ายไปออนไป ถ้าหยุดก็เกิดปัญหาแน่ๆ เว้นแต่ว่าจะมีการเอาอะไรมาออนแอร์แทน เช่น ละครรีรัน ซึ่งก็อยู่ที่ทางช่อง เอเจนซี่ หรือ กสทช.จะว่ายังไงบ้าง (อยากให้ภาครัฐช่วยเหลืออะไรในเรื่องนี้) เอาจริงๆ ถ้าผมอยากช่วย ผมอยากให้ช่วยพวกทีมงานรายวันมากกว่า คนเหล่านี้ต้องทำงานถึงจะมีรายได้ แต่พอกองถ่ายต้องหยุดเค้าก็จะไม่มีรายได้เลย ซึ่งต่างกับคนที่รับเงินเดือน หรือ คนที่มีค่าตอน ที่ยังพอดูแลตัวเองได้บ้าง ในส่วนของบริษัท หรือ ภายในทีม เราก็ดูแลกันเองแบบเล็กๆ เช่น ให้เบิกเงินล่วงหน้าไปก่อนบ้าง แต่ถ้าระยะเวลามันเนิ่นนาน ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเงินล่วงหน้าให้ได้อีกสักแค่ไหน ซึ่งก็เหมือนกับแรงงานของอาชีพอื่นๆเหมือนกัน ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน!!! (ขอเกิดใหม่ใกล้ๆเธอ ถ่ายทำเสร็จไปกี่เปอร์เซ็น​แล้ว คาดว่าจะได้ดูประมาณช่วงไหน) ถ่ายไปได้ไม่เกิน 30% ตอนนี้ก็รอดูว่าจะได้กลับมาถ่ายเมื่อไหร่ เพราะต้องออกต่างจังหวัดด้วย คาดว่าไม่เกินปลายปีนี้คงได้ดูกันครับ

 

ทางฝั่งผู้กำกับ โขม ก้องเกียรติ ก็มีความเป็นห่วงทีมงานกองถ่ายรายวัน หากต้องหยุดยาวเช่นกัน พร้อมอยากให้ทุกคนตั้งสติและเรียนรู้ที่จะผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยกัน เพราะหนังไวรัสทุกเรื่องมีตอนจบ

"ก่อนหน้านี้ทางเราก็ลงกองกันอยู่ เป็นกองซีรีส์ของทรูซีเจนะครับ คิวเร่งถ่ายทำก็ยังต้องมี พอมันมีข่าวออกมาเราก็เช็คกันใหญ่เลย ตอนนี้คิดว่าทุกกองก็คงเจอปัญหาเหมือนกันที่ต้องหยุดการถ่ายทำไปก่อน ในกองถ่ายเป็นการรวมเอาหลายชีวิตมาเจอกัน ทุกคนก็จะวนเวียนไปกองนั้นบ้าง กองนี้บ้าง ทีมนั้นมาเจอทีมนี้ เหมือนเป็นงานฟรีแลนซ์ครับ ทีนี้เราก็ต้องควบคุมดีๆ ว่าใครมีประวัติเดินทางไปไหนมาไหน ซึ่งอันนี้ก็ยากในการตรวจสอบ เราก็จะมีเช็คอุณหภูมิ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ อย่างวอร์ ก็ต้องทำความสะอาด นี่คือสเต็ปแรกๆ เลยที่เราทำ อย่างที่สองก็คือเรื่องคิวนักแสดง ทั้งทีมงาน ซึ่งต้องจบตามเวลา พอเขาขอความร่วมมือมาก็นะ... งานกองถ่าย เป็นงานรายวันค่อนข้างเยอะ การหยุดไม่ออกกองก็กระทบหลายฝ่าย

ถ้าถามว่ามันกระทบแค่ไหน มันก็กระทบหลายฝ่าย อย่างคนในกองถ่าย คนเหล่านี้เงินไม่ออกหลายวัน แค่วันต่อวันมันก็ลำบากครับ เพราะฉะนั้นเราต้องตัดสินใจกันหนักมาก ว่าจะหยุดเลยไหมเราเราใช้วิธีอัปเดตกันวันต่อวัน มันมีวิธีแก้ปัญหาแบบไหนมั้ย มีการตั้งคำถามไปจนถึงว่าถ้าเราไม่หยุด แต่เลือกหยิบคิวที่ยังไม่มี Extra ที่ไม่มีคนเยอะหรือไม่มีที่เสี่ยงหรือบางกองย้ายไปสถานที่ต่างต่างจังหวัด มันอาจจะดีหรือเปล่า แต่เราก็ต้องพิจารณากันให้ดี ว่าต้องเป็นที่โล่งมั้ย คนของเราโอเคกันทุกคนหรือเปล่า ใช้วิธีเช็คกันรายชั่วโมง ถ้ามันเป็นที่โปร่งก็ยังพอลุ้น แต่ถ้ามี Extra เยอะก็ไม่ควร ทีมงานก็บอกให้เซฟตัวเองและอยู่ให้ห่างกัน เราก็พยายาม เราคิดว่าถ้าเราเลิกไปเลย ผมก็รู้ว่ามันคนที่ได้ผลกระทบแน่นอน อย่างพวก Daily รายวันจะเก็บตัว 14 วันมันก็ยากนะ คนที่มีทุนมีสายป่านที่ยาวกว่า ก็ยังก็น่าจะรอดง่ายกว่า แต่มันก็น่าเห็นใจสำหรับคนรายวัน ก็พิจารณาเป็นเคสๆ ไป เราก็อัพเดทกันวันต่อวันมัน อาจจะมีเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ตอนนี้เขาประกาศออกมาเราก็ถูกต้องหยุด"

คิดว่ามันกระทบกับคนในวงการบันเทิงยังไงบ้าง

"ก็อย่างที่บอกมันกระทบหลายส่วนจริงๆ ทั้งทีมงานนักแสดง ถ้าถามผมว่าเราจะอยู่กับมันยังไง เราจะเรียนรู้วิธีการอยู่กับมันแบบไหน แล้วอย่างตัวผมไหนๆ มันก็อยู่ที่บ้านไม่ไปไหนแล้ว ผมอาจจะใช้เวลานั้นในการเขียนบท ทำงานพิจารณาตรวจทานอะไรบางอย่างก็ได้ ผมว่ามีวิธีที่อยู่กับมัน ผมมีเคสที่ขออนุญาตเล่าจากเพื่อนๆ ที่อยู่เมืองจีนที่เราเคยติดต่อกันทุกอย่างมัน Cancel ทีนี้มันเกิดคำถามว่าทำแล้วทางเมืองจีนทำยังไง เขาก็บอกว่าเขาไม่ได้ออกจากห้องมา 2 เดือนแล้วมันถึงขั้นนั้นแล้ว ใครออกไปข้างนอกผิดกฎหมาย จะมีมนุษย์ใส่ชุดปลอดเชื้อมาวางอาหารให้แล้วก็มีคนเดินมาเก็บไปถ้าเรากินหมดวางไว้ที่เดิม ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นถึงขั้นนั้นเลยหรือเปล่า ก็คงต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน เราก็ขอภาวนาไม่ให้เป็นขนาดนั้น แต่ในวงการผู้กำกับด้วยการตอนนี้ที่ผมตามดู ทุกคนก็เข้าใจปัญหาทุกคนก็ไม่ตัดสินคนอื่นว่า อ้าว ทำไมกองนั้นออก แล้วเราล่ะ ทุกคนก็ให้กำลังใจกันว่า สู้ๆ ให้กำลังใจ"

 คิดว่าหลังจากนี้มันจะเป็นยังไง

"จริงๆมันก็มีหลายทฤษฎีที่คนคิดกัน อันนี้มันเป็นเกี่ยวกับมหาภาคทุกคนโดนกันหมด จากประวัติศาสตร์โลกเวลามันมีภัยขนาดนี้ มันเหมือนการเลี้ยงไข้ มันคงเปลี่ยนแปลงต่อ Content, Platform ใน Social หรือใน Streaming มันน่าจะยังตอบโจทย์ อันนี้เราต้องลองดูสัญญาณทางโลก อย่างโรงหนังสภาพพร้อมเปิดไหม ลานกีฬาอะไรก็ตามที่มันใหญ่ๆ ว่ามันจะเปิดไหม ถ้ามันเดินทางไปถึงที่สุด มันน่าจะมีทั้งทางออก ระหว่างนี้เราคงจะต้องดูแลตัวเองและอะไรที่ควรทำก็ต้องทำ"

คิดว่าภาครัฐเข้ามาทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง

"งานแบบนี้ไม่ต่างจากธุรกิจ มันล้มก็ล้มกันหมด มาตรการในระยะยาว และการ Support ชำระหนี้ ประนอมหนี้อะไร ก็ว่ากันไป ตอนนี้ทุกอย่างนิ่ง แต่ดอกเบี้ยหนี้สินมันรันตลอดเวลา ถ้ามันไม่มีทางออก มันจะยิ่งเครียด ทำยังไงอ่ะถ้าคุณต้องอยู่เฉยๆ ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีงาน แบบนั้นคนก็ต้องกลับบ้านต่างจังหวัดเพราะไม่มีงาน ถ้ามันต้องมีการกระจาย ตัวผมว่าเรื่องหนี้ เรื่องการมาให้ตังค์มันไม่ใช่วิธีการเท่าไร แต่ทำยังไงให้เขาอยู่ได้โดยไม่กังวลตอนสิ้นเดือน"

ฝากถึงพี่น้องชาวไทยที่กำลังเผชิญเหตุการณ์นี้

"มันมีเคสสตาร์ทดี้ว่าทำไมบางที่อย่างจีนกำลังจะผ่านไป สติผมว่าสำคัญ เราจะโกรธ จะโมโห จะด่าทอได้ แต่มันทำให้เราบ้าหรือเปล่า ถ้าเรารับข้อมูลมาก เราจะยิ่งเครียดกว่าเดิม จากไม่ป่วยมันก็พาลจะป่วยกันได้ เพราะฉะนั้นผมว่ามันมีเคสที่เขารอด ที่หนักกว่าเรา แต่เขาดีขึ้นผมว่าเราต้องมีสติและปฏิบัติตนตามที่มันควรจะเป็น ก็สู้ๆ ทุกท่านผมว่าหนังเรื่องนี้มันต้องจบหนังเชื้อโรคทุกเรื่องมันมีทางออก"

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook