สนทนากับ “คิม มินยอง” แห่ง Netflix เกาหลี ว่าด้วย “พื้นที่” แห่งความแปลกใหม่นับจากนี้
![สนทนากับ “คิม มินยอง” แห่ง Netflix เกาหลี ว่าด้วย “พื้นที่” แห่งความแปลกใหม่นับจากนี้](http://s.isanook.com/mv/0/ud/19/96621/korean-netflix-tn.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
หากจะบอกว่าถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของซีรีส์เกาหลีที่ฉายทาง Netflix ก็คงไม่อวยกันจนเกินไป เพราะนับตั้งแต่ Crash Landing on You ที่ “สหายผู้กอง” กลายเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ ทั่วเมืองไทย ต่อด้วย Itaewon Class ที่ผมทรงเกาลัดของ “เถ้าแก่พัคแซรอย” และความน่ารักน่าหยิกของหมวยซ่า “โชอีซอ” เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อย่างง่ายดาย ไล่มาจนถึงล่าสุดกับ Kingdom ซีซั่น 2 ที่หลายคนรอคอยจนดูจบภายในคืนเดียว สิ่งเหล่านี้คือความสำเร็จที่คอซีรีส์ทั่วโลกเห็นเป็นรูปธรรม
- ถอดความสำเร็จ Crash Landing On You ซีรีส์ที่สหายผู้ชมทั่วโลกตกหลุมรัก
- Itaewon Class ทุบสถิติเรตติ้งตอนจบสูงสุดนับตั้งแต่ออกอากาศ
ย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่แล้ว Sanook TV/Movies มีโอกาสได้พูดคุยกับ “คิม มินยอง” รองประธานฝ่ายคอนเทนต์เกาหลีของ Netflix เกี่ยวกับความหลากหลายของซีรีส์ มาในปีนี้เรามีโอกาสได้สนทนาข้ามทวีปกับเธออีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าเธอจะยังเน้นย้ำในประเด็นข้างต้น ส่วนเวลาที่เหลือ เราจึงชวนสาวเก่งคนนี้พูดคุยเรื่องความสำเร็จในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แถม “คุณคิม” ยังแอบแนะนำไฮไลต์เด็ดในช่วงที่เหลือของปี 2020 อีกด้วย
ช่วงที่ต้องอยู่บ้านยาวๆ แบบนี้ นอนอ่านบทสัมภาษณ์นี้จบ ก็เปิด Netflix ต่อเลยก็ได้นะ
คิม มินยอง รองประธานฝ่ายคอนเทนต์เกาหลีของ Netflix
ท่ามกลางสถานการณ์เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกในตอนนี้ Netflix มีแพลนรับมือหรือความพิเศษที่จะมอบให้กับผู้ชมอย่างไรบ้าง?
คิม มินยอง: นี่คือช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะ มันทำให้เราคิดถึงบุคคลอันเป็นที่รักรอบตัวเรา ตั้งแต่เพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงครอบครัว ที่เกาหลีใต้เราอยู่กับสถานการณ์นี้มาสักพักใหญ่แล้ว เราหวังว่าทุกท่านจะปลอดภัย ฉันเชื่อว่า Netflix จะมีคอนเทนต์ที่อย่างน้อยจะช่วยสร้างความสุขให้กับผู้คนในช่วงเวลานี้ มีให้ดูเยอะเลยล่ะค่ะ
วกกลับมาที่เรื่องของซีรีส์ ทราบหรือไม่ว่าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลากหลายตัวละครไม่ว่าจะเป็น “รีจองฮยอก” และ “ยุนเซรี” จาก Crash Landing on You รวมถึง “พัคแซรอย” และ “โชอีซอ” จาก Itaewon Class กลายเป็นตัวละครที่ชาวไทยหลงรักเป็นอย่างมาก คุณคิดว่าสาเหตุของการตกหลุมรักตัวละครต่างๆ จากทั้ง 2 เรื่อง นั้นคืออะไร?
ผู้ชมของเราจะมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครได้ด้วย 2 เหตุผลหลักๆ ค่ะ ข้อแรกก็คือ พวกเขาเข้าใจหรือเข้าถึงตัวละครนั้นได้ ตัวละครอาจจะเป็นเหมือนเพื่อน เพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ตัวของคนดูเอง ส่วนข้อที่สองก็คือ ความชื่นชอบในบุคลิกภาพและวิถีชีวิตของตัวละคร อย่างในกรณีของ Crash Landing on You และ Itaewon Class ฉันว่าน่าจะเป็นกรณีหลัง นอกจากนั้นฉันรู้สึกว่าผู้สร้างซีรีส์ทั้ง 2 เรื่องก็ปั้นคาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาได้ดี เข้าถึงอารมณ์คนดูได้ผ่านการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิง
Crash Landing on You
และที่เห็นได้ชัดมากๆ จาก Itaewon Class ที่เพิ่งอวสานไป มันเต็มไปด้วยตัวละครที่แตกต่าง ตัวละครที่เป็นทรานส์เจนเดอร์ ประเด็นเกี่ยวกับเชื้อชาติ สีผิว คุณคิดว่าตัวละครเหล่านี้จะสร้างสามารถสร้างแรงกระเพื่อมบางอย่างให้กับสังคมได้ไหม?
ฉันคิดว่าสิ่งที่ทีมงานต้องการไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสังคม แต่เป็นการสะท้อนสังคมมากกว่า รวมถึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มที่อาจจะไม่ค่อยได้รับความสนใจ เราต้องการสนับสนุนกลุ่มคนที่หลากหลาย และสร้างความมั่นใจว่าเราทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกัน ดังนั้นเราไม่ได้ตั้งใจจะโน้มน้าวหรือสร้างแรงกระเพื่อมใดๆ แต่เราตั้งใจจะเล่าเรื่องราวที่แท้จริงของชีวิตให้ฟังต่างหาก
Itaewon Class
ปีที่แล้วที่ Sanook กับคุณมีโอกาสได้คุยกัน คุณเน้นย้ำเรื่องความหลากหลายในซีรีส์เกาหลีของ Netflix ดำเนินมาจนถึงปีนี้ หรืออาจจะปีถัดๆ ไป ความหลากหลายที่ว่าจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นไหนเป็นพิเศษไหม?
เอาเข้าจริงซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นแนวโรแมนติก อย่างไรก็ตาม Netflix ก็ตั้งใจทำซีรีส์ในทุกแง่มุมความหลากหลายให้ดีที่สุดสำหรับผู้ชมชาวไทย 2 สิ่งที่เราเน้นย้ำและทำอยู่คือ เราจะพัฒนาซีรีส์ร่วมกับทีมที่เต็มไปด้วยความสามารถต่อไป รวมไปถึงพาร์ตเนอร์ทุกราย อีกอย่างคือเราจะให้พื้นที่สำหรับซีรีส์ที่แปลกใหม่ที่ผู้ชมอาจไม่เคยรับชมที่ไหนมาก่อน ฉันเชื่อว่าพื้นที่นี้จะให้กำเนิดความหลากหลายมากมายค่ะ สังเกตได้จากซีรีส์อย่าง Kingdom ที่ชูสเกลความยิ่งใหญ่ เรื่องซีรีส์ที่กำลังจะตามมาในไม่ช้านี้อย่าง Extracurricular ที่จะกระตุ้นประเด็นต่างๆ ในสังคม, Sweet Home ที่เน้นการเล่าเรื่องราวเป็นหลัก หรือจะเป็น The School Nurse Files ที่เกี่ยวกับความเป็นฮีโร่ ฉันเชื่อว่าทั้งหมดนี้คือความหลากหลายของซีรีส์ที่คุณไม่สามารถหาดูได้ทั่วไปแน่นอน
Extracurricular
เห็นเมื่อสักครู่คุณพูดถึงซีรีส์ที่กำลังจ่อคิวฉาย เล่าให้เราฟังหน่อยว่าในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2020 มีอะไรเด็ดๆ มากฝากแฟนๆ ชาวไทยบ้าง
ได้เลยค่ะ อย่างแรก ถ้าคุณเปิดดู Top 10 ของ Netflix แล้วน่าจะเห็นซีรีส์หลายเรื่องที่มาจากเกาหลี อย่าง Itaewon Class ที่เพิ่งจบไป หรือ Kingdom ซีซั่น 2 ที่ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีมาก ยอดเข้าชมจากทั่วโลกเป็นหลายล้านครั้ง ฟันธงได้เลยว่ามาแรงกว่าซีซั่นแรก ส่วนที่กำลังจะตามมา เรื่องแรกที่อยากเล่าให้ฟังคือ Extracurricular ค่ะ จะเริ่มฉาย 29 เมษายน สิ่งที่น่าจับตาของซีรีส์เรื่องนี้คือการเข้าถึงวัฒนธรรมหรือระบบท้องถิ่น เป็นเรื่องราวชีวิตของเด็กมัธยมปลายที่เลือกจะทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือจุดประสงค์ในการก่ออาชญากรรม พวกเขาทำไปเพราะเอาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียน พวกเขาอยากเรียนจบมัธยม มหา’ลัย มีหน้าที่การงานที่มั่นคง และสร้างครอบครัวที่อบอุ่น การเลือกเส้นทางชีวิตเป็นอาชญากรเพื่อที่จะได้เงินมานั้นต้องเสี่ยงกับอันตรายอย่างมาก สุดท้ายตัวละครหลักอย่าง โอ จีซู ก็เข้ามาพัวพันกับอาชญากรรมระดับมหึมา
ความแตกต่างของ Extracurricular กับซีรีส์สืบสวนสอบสวนทั่วไปคืออะไร?
อย่างที่บอกว่าจุดประสงค์ในการก่ออาชญากรรมของพวกเขาไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไป โอ จีซู ซึ่งอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องตัดสินใจอะไรหลายอย่าง สิ่งที่เขาทำมันทำให้เขาได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญของชีวิต และการตัดสินใจเลือกเส้นทางของเขาก็ย่อมมีผลลัพธ์ที่เขาต้องตามสะสางด้วย เรื่องนี้เป็นการเดบิวต์ของนักเขียนบทคนใหม่ด้วยค่ะ พรสวรรค์ของเขาโดนใจเราอย่างจัง ในขณะที่นักแสดงก็มีความสามารถมาก เพียงแค่พวกเขาอาจจะยังไม่ได้ปรากฏตัวบนจอบ่อยนัก นั่นเป็นจุดที่เรายิ่งรู้สึกว่าเหมาะสมกับบทบาทเหล่านี้
มีอีกสักเรื่องไหมอีกอยากแนะนำ?
ฉันขอเลือก It’s Okay to Not Be Okay ค่ะ เป็นเรื่องราวความโรแมนติกของคนคู่หนึ่งที่คอยช่วยรักษาบาดแผลทางจิตใจให้กันและกัน คิมซูฮยอน จากซีรีส์ดังอย่าง My Love from the Star แสดงนำ เป็นผลงานการแสดงแรกหลังเข้าไปรับใช้ชาติในกรมทหาร ใน It’s Okay to Not Be Okay เขารับบทเป็นคนทำงานในแผนกจิตเวช ไม่เชื่อเรื่องความรัก ใช้ชีวิตอย่างห่อเหี่ยว จนมาเจอกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นนักเขียนหนังสือสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นคนไม่เข้าสังคมแม้จะมีคนชื่นชอบเธอมากมาย ความรักก่อตัวเมื่อทั้ง 2 คนได้พบกัน เรื่องนี้จะฉายในเดือนมิถุนายนค่ะ
คิมฮยอนซู จาก It’s Okay to Not Be Okay
คุณคิดว่าความสำเร็จของ Crash Landing on You, Itaewon Class รวมถึง Kingdom 2 จะผลักดันซีรีส์เกาหลีให้ไปในทิศทางไหนต่อไป?
ความสำเร็จของทั้ง Crash Landing on You, Itaewon Class และ Kingdom เป็นเครื่องยืนยันว่า Netflix เลือกเดินมาถูกทางแล้ว ในการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมบันเทิง ทั้งในด้านการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่เพื่อนำซีรีส์ดีๆ อย่าง Crash Landing on You และ Itaewon Class มาให้ผู้ชมของเรา และการเปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์ได้บอกเล่าเรื่องราวของตนเองในรูปแบบที่ไม่สามารถทำได้ในช่องทางเดิมๆ
ด้วยความที่ซีรีส์เกาหลีของ Netflix ขยายความนิยมไปสู่ระดับโลก ผู้ชมก็มาจากหลากหลายชาติ การคิดคอนเทนต์ เนื้อหา รวมไปถึงการคัดเลือกนักแสดงนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดบ้างไหมเพื่อให้ผู้ชมทั้งโลกสามารถเข้าใจได้มากขึ้น?
อาจจะไม่ถึงกับเรียกว่าเปลี่ยนแปลงนะคะ พวกเรายังเพิ่งอยู่ในขั้นเริ่มต้น ยังพึ่งพาข้อมูลที่ทีมเก็บมาได้ 2 ปีที่ผ่านมาเราสังเกตว่า ความสำเร็จมันเกิดขึ้นได้ด้วยคอนเทนต์ในแบบฉบับเกาหลีนี่ล่ะ ก็ต้องขอบคุณทั้ง Kingdom หรือ Crash Landing on You ที่ทำให้เราขยายขอบเขตผู้ชมออกไปได้อย่างกว้างขวาง เพราะเหตุนี้ฉันจึงคิดว่า เรายิ่งต้องทำโชว์ที่มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับผู้ชมมากมายทั่วโลก ฉันคงพูดไม่ได้ว่าเราจะเปลี่ยนทิศทางอย่างไรไหม ทิศทางในตอนนี้คือเราขอมุ่งมั่นในการทำซีรีส์มากขึ้น เพื่อให้ได้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพและหลากหลายดีกว่าค่ะ
Kingdom ซีซั่น 2
เป้าหมายของ Netflix เกาหลีในตอนนี้ล่ะ?
เราอยากจะเป็น Home of Korean Content บ้านแห่งคอนเทนต์เกาหลี ไม่ว่าใครที่อยากจะดูซีรีส์เกาหลีก็สามารถเข้ามารับชมในบ้านหลังนี้ได้ ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ที่ฉันพูดถึง 2 สิ่งที่เราสามารถทำได้ หนึ่งในนั้นคือการให้พื้นที่สำหรับซีรีส์พิเศษๆ สำหรับแฟนๆ เราตั้งใจจะเฟ้นหาซีรีส์ที่ดีที่สุด เพื่อผู้ชมที่ชื่นชอบคอนเทนต์เกาหลี นี่คือจุดมุ่งหมายที่เราจะต้องไปให้ถึง การพัฒนาซีรีส์ในด้านต่างๆ เป็นก้าวแรกที่ทำให้เราสามารถลงทุน และเพิ่มพื้นที่ให้กับซีรีส์อีกมากมาย เพื่อขยายฐานผู้ชมสู่คนที่ยังไม่เคยได้รับชมคอนเทนต์เกาหลี และทำลายกำแพงความแตกต่างด้านวัฒนธรรม นั่นคือเป้าหมายของเราค่ะ
อัลบั้มภาพ 57 ภาพ