รู้หรือไม่? ทีม Avengers คนไหนได้ออกจอ "นานที่สุด" ตลอด 23 เรื่องของจักรวาลหนัง Marvel
จากภาพยนตร์ทั้งหมด 23 เรื่องตลอดระยะเวลา 11 ปีของจักรวาลมาร์เวล (ที่อาจจะพักชัตดาวน์กันไปในปีนี้ ถ้า Black Widow ที่เดิมจะเข้าฉายในเดือนพฤษภาคมเลื่อนฉายออกไปอย่างไม่มีกำหนด และยังหากำหนดฉายใหม่ไม่ได้ และ Eternals ที่มีกำหนดฉายเดือนพฤศจิกายน อาจต้องเลื่อนฉายออกไปเพราะกองถ่ายต้องพักการถ่ายทำและอาจจะเลื่อนฉายไปปีหน้า) ถ้าถามว่าจักรวาลฉบับภาพยนตร์นี้ให้ความสำคัญกับตัวละครซูเปอร์ฮีโรตัวไหนมากที่สุด คำตอบอาจจะซ่อนอยู่ในจำนวนเวลาโดยรวมที่พวกเขาได้ปรากฎตัวบนจอหนัง ทั้งในหนังภาคแยกของตัวเอง หนังภาคแยกของคนอื่น และหนังรวมทีม Avengers
อันดับ 15: Black Panther – 1 ชั่วโมง 4 นาที 45 วินาที
ฝ่าบาทที’ชัลล่าครองแชมป์ซูเปอร์ฮีโรที่หนังภาคแยกและภาคแรกทำรายได้สูงสุดในบรรดาหนังมาร์เวลทั้งหมด (ระดับชนะ Avengers: Infinity War (2018) ที่ออกฉายในปีเดียวกัน) ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า การเปิดตัวละครนี้ใน Captain America: Civil War (2016) เพื่อปูเรื่องก่อนมาเข้าหนังของตัวเองก็มีส่วนสำคัญในการทำให้หนังเปรี้ยง ยิ่งผนวกกับความเป็นเอกลักษณ์ของโลกวากานดาที่ทำออกมาได้โดดเด่น ยิ่งทำให้ผู้ชมอยากติดตามการเดินทางภาค 2 ของโลกวากานดาต่อไปอีก นักแสดงอย่าง Chadwick Boseman นั้น ได้ค่าตัวจาก Black Panther (2018) ไป 1.1 ล้านเหรียญ แบ่งเป็นค่าตัวจากการแสดง (รับทันที) 700,000 เหรียญ และ 0.01% จากรายได้ของหนังทำได้ในสหรัฐฯ นั่นคืออีก 400,000 เหรียญฯ
- นักแสดง: Chadwick Boseman (42, Draft Day, Get on Up, Gods of Egypt)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Captain America: Civil War (2016)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 4 เรื่อง (Captain America: Civil War (2016), Black Panther (2018), Avengers 3-4 (2018-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 7,344 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 14: Pepper Potts – 1 ชั่วโมง 10 นาที
ภรรยาของโทนี สตาร์คที่ปราฎตัวตัวในฐานะเลขาหมายเลข 1 ตั้งแต่ภาคแรก Iron Man (2008) ก่อนจะเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นคุณผู้หญิงของสตาร์คในที่สุด เพ็พเพอร์ พอตต์ เป็นตัวละครเพียงคนเดียวใน 15 อันดับนี้ที่เป็นคนธรรมดา หมายถึงไม่เป็นทั้งซูเปอร์ฮีโรหรือวายร้ายที่มีพลังความสามารถ (ยกเว้นตอนที่เธอได้สวมชุดเกราะเหล็กในโอกาสพิเศษตอน Iron Man 3 (2013)) ซึ่งก็เพราะเธอคือ คุณผู้หญิงของโทนี่ที่เป็นซูเปอร์ฮีโรที่แฟน ๆ มาร์เวลรักมากที่สุด พื้นที่ของเธอในภาพรวมจึงเยอะตามไปด้วยนั่นเอง นักแสดงผู้รับบทอย่าง Gwyneth Paltrow ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนทีมงานให้มาถ่ายหนังของ Marvel เธอก็จำไม่ได้หรอกว่า เธอกำลังแสดงเรื่องไหนอยู่
- นักแสดง: Gwyneth Paltrow (Shakespeare in Love, Shallow Hal, Contagion)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Iron Man (2008)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 7 เรื่อง ( Iron Man 1-3 (2008-2013), Spider-Man: Homecoming (2016), Avengers 1, 3, 4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 9,665 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 13: Nick Fury – 1 ชั่วโมง 10 นาที
เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่หากวัดกันที่จำนวนเรื่องที่ได้ปรากฏตัว ก็ถือว่าได้ออกมาบนจอมากเรื่องที่สุด และได้อยู่มาตั้งแต่เรื่องแรกของเฟสที่ 1 คือ ท้ายเครดิตใน Iron Man (2008) จนถึงหนังปิดเฟส 3 ใน Spider-Man: Far From Home (2019) ยังไม่นับว่า นิค ฟิวรีก็คงจะได้อยู่สร้างสีสันไปอีกหลายเรื่อง หากมองย้อนไปใน 3 เฟสแรก เขามีบทบาทสำคัญในการประกบคู่กับกัปตันอเมริกา ใน Winter Soldier (2014) Captain Marvel (2019) และ Spider-Man: Far From Home (2019) ซึ่งดูจากทิศทางแล้วเขาและกัปตันมาร์เวล น่าจะยังมีเรื่องราวให้สานต่อความสัมพันธ์ฉันท์คู่หูกันอีกต่อไปในภาค 2 บทบาทนี้ยังช่วยทำให้นักแสดง Samuel L. Jackson ที่ไปร่วมแสดงมาทั่วแล้วเกือบทุกจักรวาลหนังของโลกภาพยนตร์ สร้างฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้ชมวัยรุ่นชายที่เติบโตมาจากคอมิกอีกด้วย
- นักแสดง: Samuel L. Jackson (Star Wars: Episode I-III, xXx, Die Hard with a Vengeance, Django Unchained, Glass, Shaft)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Iron Man (2008)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 11 เรื่อง (Iron Man 1-2 (2008-2010), Thor (2011), Captain America 1-2 (2011-2014), Avenger 1-4 (2012-2019), Captain Marvel (2019), Spider-Man: Far From Home (2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 11,681 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 12: Captain Marvel – 1 ชั่วโมง 12 นาที 15 วินาที
กลายเป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโรหญิงที่แจ้งเกิดได้ปังที่สุด พร้อมจะเป็นผู้นำทีม Avengers คนใหม่ในเฟส 4 หลังจากปิดจบรุ่นแรกกันไปแล้วใน Endgame คงต้องบอกว่าตัวละครนี้ได้เริ่มต้นเรื่องราวของเธอในยุคหลังจากจักรวาลมาร์เวลวางรากฐานแฟน ๆ มาไว้อย่างดีแล้ว เรียกว่าเรื่องไหนก็มีคนตามดู ส่วนนักแสดงอย่าง Brie Larson นั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการมารับบทนี้ เพราะเพิ่งคว้ารางวัลออสการ์นำหญิงจาก Room (2015) ที่ช่วยทำให้เธอกลายเป็นนักแสดงหญิงแถวหน้าและคว้าบทนี้ไปได้ โดยในเรื่อง Captain Marvel นั้น เธอได้รับค่าตัวทั้งสิ้น 5 ล้านเหรียญฯ ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของนักแสดงที่เพิ่งเล่นหนังมาไม่กี่เรื่อง
- นักแสดง: Brie Larson (Room, Don Jon, Kong: Skull Island)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Captain Marvel (2019)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 2 เรื่อง (Captain Marvel (2019), Avengers: Endgame (2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 3,925 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 11: Loki – 1 ชั่วโมง 18 นาที 30 วินาที
เป็นอีกหนึ่งตัวละครจากเรื่อง Thor ที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นแรก กับคนพี่ของชาวแอสการ์ดที่ได้ไปต่อกับ Thor ภาค 4 Love and Thunder คนน้องก็ได้ไปต่อกับซีรีส์ที่กำลังถ่ายทำและเตรียมตัวสตรีมมิงให้ชมทาง Disney+ ถ้าจะดูว่าจักรวาลมาร์เวลรักตัวละครนี้มากแค่ไหนก็ดูได้จาก แม้ว่าตัวละครนี้ในไทม์ไลน์หลักจะตายไปแล้วในภาค Infinity War แต่เขาก็ยังได้ไปต่อจากไทม์ไลน์อีกเส้น ที่เหล่า Avengers ย้อนเวลากลับไปแก้ไขห้วงอดีตใน Endgame นอกจากนั้นแล้ว เขายังเป็นตัวร้ายเพียงตัวเดียวที่ติดเข้ามาใน 15 อันดับ (ตัวร้ายของ The Avengers ภาคแรก และขนาดธานอสไม่ติดอันดับเข้ามาด้วยเลย) และทำให้ Tom Hiddleston ทำรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 20 ล้านเหรียญฯ
- นักแสดง: Tom Hiddleston (Kong: Skull Island, High-Rise, Crimson Peak)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Thor (2011)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 6 เรื่อง (Thor 1-3 (2011-2017), Avengers 1, 3, 4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 8,309 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 10: Gamora – 1 ชั่วโมง 20 นาที
Zoe Saldana เป็นหนึ่งในนักแสดงที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก เพราะเธอได้แสดงนำในหนังที่ทำรายได้ระดับทุบสถิติโลกมาแล้วหลายเรื่อง ทั้ง Avatar, Avengers และ Guardians of the Galaxy ของ MCU และ Star Trek ฉบับล่าสุด (ซึ่งทุกบทที่เธอเล่นนั้นรับบทเป็น “มนุษย์ต่างดาว”) ในบท “กาโมรา” เธอเป็นลูกรัก (ลูกแค้น) ของธานอส และเป็นหนึ่งในแก๊งของ Guardians อีกคนที่ติดอันดับปรากฏตัวนานที่สุดก็คือ สตาร์ลอร์ด ซึ่งทั้งคู่ยังเหลือภาคปิดท้ายภาคที่ 3 อยู่อีกภาค ที่ว่ากันว่าจะเป็นภาคสุดท้ายของตัวละครกลุ่มนี้ แต่ก็อาจได้ไปร่วมแจมในหนังภาคพิเศษเรื่องอื่นอีกก็เป็นได้
- นักแสดง: Zoe Saldana (The Losers, Columbiana, Vantage Point)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Guardians of the Galaxy Vol. 1 (2014)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 4 เรื่อง (Guardians of the Galaxy Vol. 1-2 (2014-2017), Avengers 3-4 (2018-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 6,480 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 9: Doctor Strange – 1 ชั่วโมง 25 นาที 45 วินาที
แม้จะมีภาคแรกเป็นภาคแยกเดี่ยวเรื่องเดียวเท่าที่มีในตอนนี้ แต่จำนวนเวลาที่ปรากฎในหนังจักรวาลมาร์เวลก็มากกว่าหลาย ๆ คนที่อยู่มานานกว่า รวมถึงได้ปรากฎตัวเยอะในทั้ง Infinity War และ Endgame ด้วย แน่นอนว่าเส้นทางของด็อกเตอร์เสตรนจ์ยังอีกยาวไกลกับภาค 2 in the Multiverse of Madness ที่จะออกฉายในปี 2021 นักแสดงนำอย่าง Benedict Cumberbatch นั้นมีชื่อเสียงอยู่แล้วจากซีรีส์ Sherlock (2010-2017) และหนังเข้าชิงออสการ์ The Imitation Game (2014) เมื่อมารับบทนี้ก็ยิ่งทำให้เขาเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนดูทั่วไปมากขึ้นไปอีก เขาทำรายได้จาก Doctor Strange (2016) ไป 2.5 ล้านเหรียญฯ และในปี 2019 รายได้รวมของเขาทั้งปีจากการเล่นหนังหลายเรื่องรวมถึง Endgame ทำให้เขามีรายได้รวมอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
- นักแสดง: Benedict Cumberbatch (Star Trek: Into Darkness, Black Mass, The Hobbit 1-3)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Doctor Strange (2016)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 4 เรื่อง (Doctor Strange (2016), Thor: Ragnarok, Avengers 3-4 (2018-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 6,375 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 8: Spider-Man – 1 ชั่วโมง 34 นาที 15 วินาที
น้องใหม่ล่าสุดในหมู่ทีม Avengers กับภาพจำคู่หู “ลุงหลาน” กับโทนี สตาร์คในจักรวาลนี้ ยังมาพร้อมเงื่อนไขที่เป็นดีลประวัติศาสตร์ระหว่างค่าย Sony และ Disney ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในการบริหารตัวละคร (และผลประโยชน์จากตัวละคร) สักตัวหนึ่งร่วมกัน ก่อให้เกิดดรามา Sony จะเอาหนังกลับไปสร้างเองหรือไม่เอากลับเมื่อปีที่แล้ว ความสำเร็จของ Spider-Man ฉบับน้อง Tom Holland ที่กลับไปทำรายได้ใกล้เคียงกับฉบับแรกสุดที่นำแสดงโดย Tobey Maguire สร้างความมั่นใจให้กับ Sony ขยายจักรวาลแบบไม่พึ่งพา Marvel Studios ในการสร้าง Venom (2018) และ Morbius ต่อมา Holland แจ้งเกิดจากบทนี้ให้ได้ไปแสดงหนังดังเรื่องอื่น ๆ และจาก Homecoming ที่เขาได้ค่าตัว 500,000 เหรียญฯ นับถึงปีที่แล้วเขาทำรายได้ทั้งปีไปแล้ว 20 ล้านเหรียญฯ ที่ทำให้นักแสดงรุ่นใหญ่หลายคนต้องมาตาปริบ ๆ
- นักแสดง: Tom Holland (The Impossible, In the Heart of the Sea, The Lost City of Z)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Captain America: Civil War (2016)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 5 เรื่อง (Captain America: Civil War (2016), Spider-Man: Homecoming, Far From Home (2017-2019), Avengers 3-4 (2018-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 8,009 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 7: Star-Lord – 1 ชั่วโมง 35 นาที 45 วินาที
Chris Pratt แจ้งเกิดกับบทนี้หลังจากเป็นตัวประกอบมาตลอดชีวิต (และเป็นหนุ่มอวบอ้วนมาตลอดด้วย ก่อนจะพลิกโฉมมาหุ่นดีอย่างที่เห็นตั้งแต่เล่น Guardians เป็นต้นมา) ก่อนจะได้เป็นเล่นหนังแฟรนไชส์หนังอีกเรื่องอย่าง Jurassic World ทั้ง 3 ภาค นี่เป็นตัวละครที่สร้างสีสันด้านความฮาอีกตัวหนึ่งของจักรวาลมาร์เวล และก็สร้างหายนะเพราะการคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ใน Infinity War ที่ตอนนั้นบทดูจะจงใจให้เขางี่เง่าจนการดีดนิ้วของธานอสสำเร็จ อย่างไรก็ตามถ้าลืมเหตุการณ์นั้นไปเสีย สตาร์ลอร์ดก็เป็นซูเปอร์ฮีโรหนุ่มทะเล้นที่มีเสียงเพลงอยู่ในจิตใจ ยังเหลืออีกหนึ่งภาคปิดท้ายที่จะมาปิดจบเรื่องราว อย่างไรก็ดี พวกเราก็ยังอยากให้สตาร์ลอร์ดแวะไปแจมกับธอร์หรือคนอื่น ๆ อยู่นะ ถ้าผู้สร้างจะใจดีสนองนี๊ดแฟน ๆ
- นักแสดง: Chris Pratt (Jurassic World 1-3 (2015-2021), Magnificent Seven (2016), Passengers (2016))
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Guardians of the Galaxy Vol. 1 (2014)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 4 เรื่อง (Guardians of the Galaxy Vol. 1-2 (2014-2017), Avengers 3-4 (2018-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 6,480 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 6: Black Widow – 1 ชั่วโมง 52 นาที 45 วินาที
กำลังจะมีหนังแยกเดี่ยวของตัวเองเข้าฉายแล้วแท้ ๆ สำหรับนาตาชา โรมานอฟหรือแบล็ควิโดว ที่ต้องมาวิ่งหนีโควิดจนกำหนดฉายใหม่ยังไม่ออก นี่เป็นตัวละครที่อยู่คู่จักรวาลมาร์เวลมาเกือบตลอดตั้งแต่เรื่องที่ 3 และก็ถูกจับคู่กับซูเปอร์ฮีโรชายมาแล้วหลายคน ทั้งโทนี สตาร์คใน Iron Man 2 (2010), จิ้นกับฮอล์คอายใน The Avengers (2012), จูบกับกัปตันอเมริกาใน The Winter Soldier (2014), กิ๊กกั๊กกับฮัลค์ใน Age of Ultron (2015) เรียกว่าสาวฮอตคนนี้ขาดแค่ธอร์คนเดียวที่เธอไม่ได้เคยสปาร์คจอยมาด้วย จึงได้กลายเป็นตัวละครหญิงที่ปรากฏตัวใน MCU มากที่สุดนั่นเอง Scarlett Johansson เล่นหนังในวงการมายาวนานและก็ได้บทนี้ต่อยอดให้เธอมีหนังแอ็กชันฮิตและไม่ฮิตอย่าง Lucy (2014) และ Ghost in the Shell (2017)
- นักแสดง: Scarlett Johansson (Lost in Translation, Lucy, Jojo Rabbit, Marriage Story)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Iron Man 2 (2010)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 8 เรื่อง Iron Man 2 (2010), Captain America 2-3 (2014-2016), Captain Marvel (2019), Avengers 1-4 (2012-2019) และ Black Widow ที่เตรียมเข้าฉาย
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 11,383 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 5: Ant-Man – 1 ชั่วโมง 53 นาที 15 วินาที
ถูกค่อนแคะว่าเป็นตัวประกอบของทีม Avengers อยู่เสมอ อาจด้วยเพราะรูปลักษณ์เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ดูเท่อะไร (แต่ก็เป็นแฟมิลี่แมนนะ) รวมถึงหนังก็มักจะออกฉายแบบคั่นเวลาจริง ๆ ทั้งภาคแรกและภาคสองก็ประกาศสร้างและออกฉายแบบอยู่นอกแผนใหญ่ของ MCU ที่ประกาศล่วงหน้านาน ๆ แต่ถ้ามองกันที่รายได้ Ant-Man ทั้งสองภาคก็ทำรายได้ไม่ขี้เหร่ และนักแสดงทุกคนทุกรุ่นในเรื่องก็เป็นสีสันที่ทำให้อยากติดตามเรื่องราวของพวกเขาต่อ และต้องไม่ลืมว่านี่คือ ฮีโรตัวจริง (ไม่นับหนูตัวนั้นที่เปิดเดินเครื่องให้สก็อต แลงออกจากมิติควอนตัมได้) ที่ทำให้ทีม Avengers หาวิธีโค่นธานอสได้สำเร็จ Paul Rudd จากนักแสดงตลกระดับกลาง ๆ ก็เลยกลายเป็นนักแสดงที่คนรู้จักมากขึ้นและมีงานหนังใหญ่ให้เล่นมากขึ้นอย่าง Ghostbusters: Afterlife
- นักแสดง: Paul Rudd (I Love You, Man, Forgetting Sarah Marshall, The Perks of Being a Wallflower)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Ant-Man (2015)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 4 เรื่อง (Ant-Man 1-2 (2015-2018), Captain America: Civil War (2016), Avengers: Infinity War (2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 5,091 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 4: Hulk – 2 ชั่วโมง 21 นาที 15 วินาที
เป็นตัวละครที่มีผู้มารับบทแสดงถึง 2 คนในจักรวาลมาร์เวลคือ Edward Norton และ Mark Ruffalo ฮัลค์ได้ครองเวลาบนจักรวาลนี้ถึงอันดับ 4 ที่ขนาดตัวละครติดสัญญาจากค่าย Paramount ไม่ให้มีหนังแยกเดี่ยวเป็นของตัวเองที่สร้างจาก Marvel Studios ของ Disney แต่พี่ฮัลค์ก็ได้ไปแจมกับเพื่อน ๆ อยู่ในหลายเรื่อง ทั้ง Avengers ทุกภาครวมถึงการแจมที่น่าจดจำอย่างใน Thor: Ragnarok (2017) ที่ช่วยเปลี่ยนโทนของ Thor ให้จี๊ดจ๊าดสนุกขึ้นมาก การเลือกใช้บริการของ Ruffalo ที่เล่นหนังได้ทุกแนวทั้งดรามา ตลก หรือแนวลึกลับ นับเป็นตัวเลือกที่ถูก เขาจะได้ไปต่อบทนี้ในซีรีส์ She-Hulk หรือการแนะนำฮัลค์เวอร์ชันผู้หญิงที่จะสตรีมมิงออกทาง Disney+ เขาได้รับค่าตัวใน The Avengers ไป 2 ล้านเหรียญฯ ใน Age of Ultron ไป 2.8 ล้านเหรียญฯ และ Infinity War และ Endgame ภาคละ 6 ล้านเหรียญฯ
- นักแสดง: Edward Norton (Fight Club, American History X), Mark Ruffalo (Shutter Island, Dark Waters, Spotlight, Fox Catcher)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: The Incredible Hulk (2008) / The Avengers (2012)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 7 เรื่อง (The Incredible Hulk (2008), Iron Man 3 (2013), Thor: Ragnarok (2017), Avenger 1-4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 10,096 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 3: Thor – 3 ชั่วโมง 24 นาที 45 วินาที
จากภาคแรก ๆ ที่เป็นเทพเจ้าสายลิเกมาสู่เทพเจ้าสายฮา และกลายเป็นพ่อถังเบียร์ในที่สุด นี่คือตัวละครที่มีพัฒนาการมากที่สุดแล้วในบรรดาทีม Avengers ทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้นก็ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับ Taika Waititi ที่พลิกโฉมธอร์ใน Thor: Ragnarok (2017) ที่ไปจุดติดนำตัวตนจริง ๆ ของ Chris Hemsworth พ่อหมีที่เป็นคนฮา ๆ อยู่แล้วได้โชว์ความตลกที่มีอยู่อย่างเต็มที่ Waititi จะกลับมาสานต่อความสำเร็จกับภาค 4 Thor: Love and Thunder (2021) ที่จะออกฉายปีหน้า และเส้นทางของธอร์น่าจะยังไม่จบลงแค่นี้ ซึ่งจะทำให้เขากลายเป็น Avengers ที่ครองเวลาบนจอนานที่สุดแซงเพื่อนร่วมรุ่นแรกอีก 2 คนที่จบบทบาทไปแล้ว ส่วน Hemworth นั้นทำรายได้ของตัวเองทั้งปี 2019 ไปถึง 76.4 ล้านเหรียญฯ เลยทีเดียว
- นักแสดง: Chris Hemsworth (Snow White and the Huntsman, MIB: International, Ghostbusters, Rush, Star Trek)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Thor (2011)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 8 เรื่อง (Thor 1-3 (2011-2017), Doctor Strange (2016), Avenger 1-4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 10,388 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 2: Captain America – 4 ชั่วโมง 8 นาที 15 วินาที
เป็นซูเปอร์ฮีโรในอุดมคติของโลกและชาวมาร์เวลที่สุดแล้ว สำหรับสตีฟ โรเจอร์สหรือกัปตันอเมริกาคนแรก ที่ถ้าเทียบให้โทนี สตาร์คเป็นฮีโร bad guys พ่อหนุ่มสตีฟก็จะเป็นคู่ตรงข้ามแห่งการเป็น good guys ที่ไม่มีรอยด่างพร้อยอะไรเลย (ขนาดจะให้ร้ายสุดในการช่วยเพื่อนรักอย่างบัคกี้ในภาค Civil War ก็ยังดูร้าย ๆ แบบมีเหตุมีผลเลยพ่อคุณ!) สมกับการเป็นตัวแทน (และก้น) ของอเมริกาที่คงวิถีการเป็นคนดีผู้เสียสละและยึดมั่นในคุณธรรมมาตั้งแต่ภาคแรก The First Avengers (2011) จนจบบทบาทไปใน Endgame (2019)
แม้จะไม่ได้มีซีนเด่นเท่ากับไอรอนแมนที่ก็ขอปิดฉากไปในภาคเดียวกัน แต่ซีนสุดท้ายของ Endgame ก็มอบให้กับเขาที่คู่ควรจะมีความสุขกับแม็กกี้ คาร์เตอร์ (แตกต่างจากโทนีที่ต้องเสียสละชีวิต) Chris Evans จะมีบทบาทนี้เป็นภาพจำและบทที่ดังที่สุด เขาเคยเล่น Fantastic Four (2005-2007) ที่สร้างจากคอมิกของ Marvel เหมือนกัน และหลังจากจบบทบาทกัปตันไปแล้วก็ไปได้สวยกับในหนังแนวอื่นอย่าง Knives Out (2019) เป็นเรื่องแรก
- นักแสดง: Chris Evans (Knives Out, Snowpiercer, Scott Pilgrim vs. the World, Push)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Captain America: The First Avenger (2011)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 11 เรื่อง (Captain America 1-3 (2011-2016), Thor: The Dark World (2014), Ant-Man (2015), Spider-Man: Homecoming (2017), Captain Marvel (2019), Avengers 1-4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 12,293 ล้านเหรียญฯ
อันดับ 1: Iron Man – 5 ชั่วโมง 58 นาที
ตัวละครที่โด่งดังที่สุด แฟน ๆ มาร์เวลและคอหนังทั่วไปรักมากที่สุดหนีไม่พ้นโทนี สตาร์คหรือไอรอนแมน ที่ทำหน้าที่กรุยทางสะดวกให้กับ MCU มาตั้งแต่ภาคแรกปี 2008 ตัวละครตัวนี้ก็เปรียบเสมือนการเดินทางของ MCU ที่ล้มลุกคลุกคลานมาก่อนในยุคต้นปี 2000 ก่อนจะค่อย ๆ สร้างความสำเร็จแบบไม่รีบร้อน และปิดฉากตัวเองรอบแรกแบบสวย ๆ ในเฟส 3 กับ Endgame (2019) และร่องรอยแห่งความสูญเสียที่มีให้เห็นใน Far From Home (2019) ไอรอนแมนก็ช่วยฉุด Robert Downey Jr. ให้กลับมามีชื่อเสียงและงานแสดงอีกครั้ง หลังจากเขาชีวิตตกอับเพราะยาเสพติดไปพักนึง อย่างที่เขาให้สัมภาษณ์บ่อย ๆ ว่า เขาตกเป็นหนี้บุญคุณของบทบาทนี้ไม่ใช่น้อย
แม้จะมีภาค 2 เป็นภาคที่ทำรายได้น้อยสุดและนักวิจารณ์ให้คะแนนน้อยสุด แต่ภาค 3 ปี 2013 ก็ทิ้งทวนหนังเดี่ยวของเขาอย่างได้ใจ หลังจากนั้นก็ยังไปสร้างสีสันให้กัปตันอเมริกาภาค Civil War (2016) แล้วก็ยังไปช่วยเปิดหนัง Homecoming (2017) ของน้อง Tom Holland ให้ฮิตระเบิด ชนิดที่ว่าเรื่องไหนเรื่องนั้นถ้ามีป๋าก็การันตีเลยว่าหนังทำเงินแน่นอน Downey Jr. ยังทำลายสถิตินักแสดงที่ได้ค่าตอบแทนสูงสุดในโลก โดยได้รับจาก Endgame ไป 75 ล้านเหรียญฯ (ใช่, จากเรื่องเดียว!) แบ่งเป็นค่าตัว 20 ล้านเหรียญฯ และที่เหลือเป็นส่วนแบ่งจากรายได้หนัง หลังจากจบบทบาทนี้ เขาเพิ่งจะล้มเหลวไปกับ Dolittle (2020) และยังไม่มีผลงานใหม่ในช่วงนี้ แต่เชื่อว่า Sherlock Holmes 3 ที่จะฉายปี 2021 ถ้าไม่เลื่อนจะกลับมาปังแน่นอน
- นักแสดง: Robert Downey Jr. (Zodiac, Tropic Thunder, Only You, Chaplin, Kiss Kiss Bang Bang)
- ปรากฎตัวครั้งแรก: Iron Man (2008)
- จำนวนเรื่องที่ปรากฎตัว: 10 เรื่อง (Iron Man 1-3 (2008-2013), The Incredible Hulk (2008), Captain America: Civil War (2016), Spider-Man: Homecoming (2017), Avengers 1-4 (2012-2019))
- รายได้รวมทั่วโลกของหนังที่ปรากฎตัว: 12,220 ล้านเหรียญฯ