8 ประโยคจากละครและรายการ ที่ชาวเทยหาใช้หาพูด

8 ประโยคจากละครและรายการ ที่ชาวเทยหาใช้หาพูด

8 ประโยคจากละครและรายการ ที่ชาวเทยหาใช้หาพูด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้วสำหรับการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อสี่เพื่อแปดใดใดก็ตาม ชาวเราชาวท่านทั้งหลายก็คงจะรู้สึกอึดอัด กับการต้องอยู่แต่ในบ้าน หรือคนที่ออกไปทำงาน ก็ต้องพาลพารานอยต์กับการทำ Social Distancing กันไป โอ๊ย โกลาหลกันไปหมดค่ะคุณกิตติ อย่างไรก็ดี เทยก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

บทความกะเทยนิวส์สัปดาห์นี้เทยมาชวนคลายเครียดด้วยประโยคสุดอร่อยที่ชาวเทย นำมาจากละคร แล้วติดปากเปรี้ยว พูดกันสนุกสนานจนเป็นตำนานค่ะเธอ

"แต่ก็มิได้นำพา"

ประโยคสุดโบราณนี้ มาจากละคร นางทาส เวอร์ชั่นปี 2551 ที่นำแสดงโดยคุณแม่กบ สุวนันท์ แต่ประโยคเด็ดดังนี้ไม่ได้มาจากชีกบแต่อย่างใด กลับมาจากตัวละครอีป่วน บ่าวในเรือนที่เป็นสายนิ่ง สายธรรม พูดจาอะไรก็จะลงท้ายด้วยคำว่า แต่ก็มิได้นำพา ไม่ว่าเขาจะตบตีด่ากราดกันแค่ไหน นางก็จะยังคงใช้คำนี้ปิดท้ายสถานการณ์ได้เสมอ ซึ่งคำว่า “แต่ก็มิได้นำพา” เป็นสำนวนที่มีที่มาจากการรวบสองความหมายมารวมคำกัน คือ “ไม่ใส่ใจในคำพูดที่เคยบอกไป” จนเมื่อสถานการณ์มันบานปลายแล้ว ก็ไม่ได้จะเอาสิ่งที่เคยบอกไปเข้าหูเลยซักนิด บวกกับการพูดอันราบเรียบ นิ่งเฉยของอีป่วน มันเหมือนเป็นประโยคที่แทงกลางปล้องขึ้นมาในสถานการณ์ที่ดุเดือดในเรื่อง จนกลายเป็นเอกลักษณ์ เป็นคำจำได้ง่ายๆ

"ดีใจก็หน้าเงี้ย เสียใจก็หน้าเงี้ย / สามีมีเมียน้อย ก็หน้าเงี้ย"

การตอบโต้ เย้ยหยัน กันอย่างถึงพริกถึงขิงนี้ มาจากละคร เมียหลวง เวอร์ชั่นปี 2552 ซึ่งเป็นซีนที่เมียน้อยอย่าง อรอินทร์ ที่แสดงโดยชีอั้ม พัชราภา ได้บุกมาถึงบ้านของ ดร.วิกานดา ที่รับบทโดยชีป๊อก ปิยธิดา ซึ่งไดอาล็อกอันเผ็ชร้อนนี้ เป็นการฟาดฟันกันบนจริตของผู้หญิงสองแบบสองสไตล์ ฝั่งหนึ่ง อรอินทร์ ที่มาในคราบเมียน้อยผู้เผ็ชแสบ มาเพื่อตบ มาเพื่อหาเรื่อง ดูถูกดูแคลนคุณพี่เมียหลวงผู้แสนซื่อ โดนสามีหลอกมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วก็ไม่เข็ด ไม่ว่าจะโดนเขาทำร้ายจิตใจไปเท่าไหร่ วิกานดาก็ไม่แม้แต่จะแสดงความรู้สึกอะไรออกมา อรอินทร์นางเลยเย้ยหยันเข้าให้ แต่ทางวิกานดาก็ไม่ได้ปล่อยให้เมียน้อยได้มาโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เธอก็ได้ตอกกลับไปว่า สามีเมียเมียน้อยทั้งที ก็หน้าเงี้ย โอ้โห… อร่อยแม่

"ฉันจะเอาใบนี้ ใบนี้ ใบนี้ ให้คุณมลไปเอาไปส่งฉันที่บ้านด้วย"

คำพูดที่ควรค่าแก่การใช้ในเวลาออกไปช้อปปิงคำนี้ มาจากละคร “ดอกส้มสีทอง” ซึ่งมาจากตัวละคร “เด่นจันทร์” ที่รับบทโดย ไอซ์ อภิษฎา ที่ถึงแม่ชีจะรับบทเป็นตัวละครที่อายุห่างจากเธอขึ้นไปไกลมากๆ แต่เธอก็ได้ถ่ายทอดบุคลิกของลูกสาวเจ้าพ่อและนักการเมืองรายใหญ่อย่างเด่นจันทร์ ที่ใช้เงินในการแก้ปัญหา และแสดงอำนาจของเธอเพื่อควบคุมคนรอบข้างเอาไว้ได้ และเมื่อ “เรยา” เปิดศึกชิงกระเป๋าใบในร้านของคุณมลที่เธอรู้จัก เพื่อพยายามจะต่อกรว่าโลกไม่ได้หมุนรอบเด่นจันทร์ เธอจึงเอาคืนด้วยการเดินไปรอบร้าน เอามือแตะกระเป๋าไปเรื่อยๆ ว่าจะเอาใบนี้ ใบนี้ ใบนี้ เอาบัตรเธอไปรูด แล้วบอกว่าดูซิว่าคุณมลจะขายให้ใคร รวมถึงให้คุณมลเอากระเป๋าไปส่งเธอที่บ้านด้วย อินเนอร์ของชาวเราชาวชะนีไทยเวลาช็อปปิง ก็ล้วนอยากพูดประโยคนี้ด้วยกันทั้งนั้นด้วยสิ

"เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะมันเป็นดอกไม้สีทองยังไงล่ะ"

อีกประโยคที่ได้จากเด่นจันทร์จาก “ดอกส้มสีทอง” ในตอนสุดท้ายของเรื่อง เมื่อเธอบุกไปหาเรยาถึงคอนโด เพื่อบอกให้เธอเลิกยุ่งกับครอบครัวของเพื่อนเธอเสียที รวมถึงขุดสาแหรกของเรยามาเปรียบเทียบกับคุณดี๋ ลูกสาวทูต ผู้ที่เพรียบพร้อมไปกว่าเธอทุกอย่าง ทั้งเทอกเถาเหล่ากอ การศึกษา เด่นจันทร์ย้ำเตือนเรยาว่า เธอไม่มีอะไรเทียบได้เลย และถึงแม้จะเป็นดอกไม้ มันก็เป็นแค่ดอกไม้ริมทาง ไม่มีใครหยิบเอามาใส่แจกันหรอก เพราะอะไรรู้มั้ย ก็เพราะ… ซึ่งนับว่าคำพูดและอินเนอร์ของชีเด่นจันทร์ในการปิดเรื่องนี้ มันคือการย้อนกลับไปหาคอนเซปต์ที่ใช้อธิบายชื่อเรื่องได้ทั้งหมดเลยทีเดียว

"มุตตาไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป"

ประโยคสุดคลาสสิคจากละครเรื่อง “แรงเงา” ซึ่งปรากฎในทุกเวอร์ชั่นเสียด้วย หลังจากที่มุตตา เหยื่อผู้น่าสงสารจากระบบกดทับในราชการ ถูก ผอ. หลอกลวงเป็นเมียเก็บ ถูกนพนภา เมียหลวงลูกสาวอธิบดีกรมกองตามรังควาญชีวิต เธอจบชีวิตตัวเองอย่างน่าเศร้า พี่สาวฝาแฝดของเธอ มุนินทร์ ได้ปลอมตัวมาเป็นสวมรอยน้องสาวแทน และแก้แค้นกับทุกคนที่เคยทำลายชีวิตของมุตตา เมื่อนพนภา พบว่ามุตตากลับมาแล้ว การบุกไปตบน้อยหน้ากระทรวงของนาง กลับพลิกผัน เมื่อมุนินทร์ลุกขึ้นมาสู้กลับอย่างออกรสออกชาติ และถึงขั้นชีหน้าตะโกนใส่เธอว่า “มุตตา ไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป” ประโยคที่รวบตึง ให้เห็นถึงการไม่ยอมจำนนอีกต่อไป ของคนที่เคยเป็นเหยื่อ กะเทยจึงหยิบจับมาพูดกันสนุกปาก รับบทนางสู้ไปตามๆกัน

"นกอยู่ข้างพี่ตานะคะ"

ต่อเนื่องกันมาอีกประโยค สำหรับเรื่อง “แรงเงา” เพราะตัวละครอีกตัวที่ก็นำซีน ได้ซีนไม่ต่างกัน คือหนูนกผู้แสนซื่อ ซึ่งแน่นอนว่าความโยกย้ายฝั่ง ตีสองหน้าของเธอนั้น ดูเหมือนจะเข้าถึงแฟนละครได้อยู่หมัดในช่วงเวลานั้น ทำให้คำว่า “นกอยู่ข้างพี่ตา” กลายเป็น Meme ในอินเทอร์เน็ตที่ชาวเทยหยิบยกมาใช้กันอย่างละลานตา เพื่อทำที แสร้งว่า ทำมาเป็น ไปคอมเมนต์ตามเพจตั่งต่าง เพื่อออกรส เย้ยหยันกับเนื้อหาใดใด แสดงความเห็นด้วยให้ได้ปลอมที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

"สา สาจ๋า อันนึงมีไว้ใช้ อันนึงมีไว้โชว์"

ประโยคสุดท้ายดันไม่ได้มาจากละคร แต่เอ๊ะ จะถือว่าเป็นละครไหมนะ กับรายการเรียลลิตี้โชว์ที่ออกอากาศออนไลน์อย่าง This is me VATANIKA ที่เป้นรายการไปตามติดชีวิตคุณแพร เจ้าของแบรนด์หรูหราวาทานิกา ล้วงลับด้านต่างๆ ในชีวิตเธอ ทั้งไลฟ์สไตล์ การทำงาน กลุ่มเพื่อน เรื่องส่วนตัวตั่งต่าง รวมถึงความหรูหราใดใดชวนฟุ้งฝันของชี ซึ่งใน EP.1 นั้น คุณแพรที่ค่อนข้าง คอนเซิร์น กับการใช้อ่างล้างหน้าที่เป็นแบรส เพราะกลัวว่ามันจะเป็นสนิม เธอจึงไม่อยากให้ใครมาใช้อ่างมากกว่าหนึ่งอัน คุณแพรจึงเรียกแม่บ้านส่วนตัวอย่าง “สา” ให้เข้ามาในห้องน้ำ ก่อนจะบอกว่าให้ช่วยดูให้หน่อย เพราะอันนี้แพรไว้โชว์ ไม่ได้มีไว้ใช้ โอ๊ย… ความไปเบอร์แรงของชีแพร มันทำกะเทยตาลุกวาว จะต้องขอหยิบมาพูด มาใช้กันให้อร่อยเสีย

"อีกะหรี๊"

คำเรียบง่าย แต่คลาสสิคนี้ อาจจะรู้สึกว่ามันก็แค่คำด่าในหมวดคำหยาบทั่วไป มันจะน่าจดจำได้อย่างไร แต่คงไม่ใช่จากปากของแม่ย้อย ที่รับบทโดยคุณแม่ใหม่ เจริญปุระ ในละครเรื่อง กรงกรรม เพราะเอเนอร์จี้ของอีย้อย ที่ชี้หน้าด่าสะใภ้ไม่ได้รับเชิญอย่าง เรณู ที่รับบทโดยเบลล่า จิกหัว ด่ากราด ไล่ออกจากบ้านเหมือนหมูหมาใน EP แรกนั้น มันเผ็ช มันกระแทกกระทั้น ได้ใจ แถมชีเบลล่าเรณู ก็ไม่ได้ทรุดตัวลงไปร้องไห้ หากแต่ยิ้มรับ ยืดอกภูมิใจว่ามันเป็นอาชีพที่เธอมีความจำเป็นต้องทำกิน และการเป็นกะหรี่ ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของตัวเองเสียไป และการฟาดฟันกันเบอร์นี้ของสองนักแสดง ก็ยิ่งทำให้กะหรี่ตาคลี กลายเป็นแบรนด์ดังของนครสรรค์เฉยเลยแม่ จะหาเอเนอร์จี้แรงๆ แบบนี้ได้อีก คงต้องรอไปอีกนานแสนนานทีเดียว

บทละคร ได้สะท้อนประโยคที่ออกอรรถรสมาให้เราได้สนุกสนาน แต่หากเรามองดูดีดีแล้ว ก็จะเห็นว่าในความเผ็ช มันมีปากมีเสียงของผู้หญิงอยู่แทบจะทุกคำ ภาพจำ คำจำของละคร จึงวนเวียนอยู่กับแนวคิด หรือมุมมองของผู้หญิงต่อสิ่งต่างๆ บวกกับอารมณ์ในสถานการณ์นั้นๆ ด้วยเหมือนกันนะเออ

จะเลือกใช้คำไหน ก็สุดแล้วแต่คุณกิตติเลยเจ้าค่ะ

 

เหยี่ยวเทย รายงาน

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ 8 ประโยคจากละครและรายการ ที่ชาวเทยหาใช้หาพูด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook