5 เหตุผลที่ทำให้ "เพราะเราคู่กัน" (คั่นกู) กลายเป็นปรากฏการณ์

5 เหตุผลที่ทำให้ "เพราะเราคู่กัน" (คั่นกู) กลายเป็นปรากฏการณ์

5 เหตุผลที่ทำให้ "เพราะเราคู่กัน" (คั่นกู) กลายเป็นปรากฏการณ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหตุเกิดเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่หน้า Feed Facebook ของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งโพสต์รูปของตัวละครสารวัตรและไทน์ยืนจ้องหน้ากันด้วยเคมีอะไรบางอย่าง ด้วยความสงสัยว่าทั้งสองคนเป็นใคร การสนทนาผ่าน Messenger จึงเริ่มต้นขึ้น

 

 

ผม: มึงๆ น้องสองคนนี้ใครเหรอ?

เพื่อน: ไปอยู่ไหนมา นี่ไทน์กับสารวัตร จาก เพราะเราคู่กัน 2gether The Series ลองไปดูย้อนหลังดูสิ โคตรน่ารัก

ผม: มันสนุกเหรอ นี่ดูซีรีส์ Y เรื่องสุดท้ายคือ Sotus แล้วหลังจากนั้นก็ทนดูเรื่องไหนไม่ได้อีกเลยเพราะบทมันดูเพ้อเจ้อมาก แถมนักแสดงก็เล่นอะไรกันก็ไม่รู้ สงสัยเราจะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่เขาตั้งใจทำมาให้สาวๆดูมากกว่า

เพื่อน: เออเชื่อกูเหอะ ลองดูก่อนสัก 2 EP

 

สิ้นสุดบทสนทนาดังกล่าวผมจึงเริ่มเปิด เพราะเราคู่กัน เพียงแค่จบ EP แรกเท่านั้นแหละครับ เย็นวันเสาร์ที่แล้วกับการดูซีรีส์เรื่องนี้มาราธอนจึงเริ่มต้นขึ้น และเมื่อดูจบก็ได้แต่ส่งข้อความไปหาเพื่อนว่า

ผม: มึงๆ กูโดนน้องไบร์ทตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ะ 555555

 

ถ้าอย่างนั้นแล้วผมเลยลองมารวบรวมประมวลผลว่า การอินซีรีส์เรื่องนี้มันต้องมีปัจจัยอะไรบางอย่างที่ทำให้ เพราะเราคู่กัน มีความพิเศษกว่าซีรีส์ Y เรื่องอื่นๆที่ผ่านมา

 

 

1.เคมีระหว่างนักแสดง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้าคู่กันระหว่าง สารวัตร (ไบร์ท วชิรวิชญ์) และ ไทน์ (วิน เมธวิน) คือความลงตัวที่กลมกล่อม จนคนดูไม่อาจจะละสายตาเมื่อพวกเขาทั้งสองคนอยู่ร่วมเฟรมเดียวกัน การรับส่งห้วงอารมณ์และความรู้สึกของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการหยิกแกมหยอก กลั่นแกล้ง มาดยียวนกวนประสาท หรือ ออดอ้อนตาแป๋ว พฤติกรรมทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครทั้งสองตัวนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดที่อยู่ใน เพราะเราคู่กัน คงไม่ได้เป็นคำชื่นชมที่ดูเกินเลยไป

 

ท่ามกลางบทละครของซีรีส์ที่อาจจะมีความไม่สมเหตุสมผล (โดยเฉพาะใน EP ที่ 8 โดยเฉพาะการยกพวกมาดักตีหัวของฝั่งคณะสถาปัตย์อันดูไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง) แต่เชื่อว่าผู้ชมร้อยทั้งร้อยก็เลือกที่จะมองข้ามสิ่งดังกล่าว และปล่อยผ่านประเด็นเหล่านี้ไป โดยไม่ถือสาหาความแต่อย่างใด

 

 

2.ช่วงเวลาของการออนแอร์

แม้ว่า เพราะเราคู่กัน จะเริ่มออนแอร์ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ก่อนที่ไวรัสโควิดจะแพร่กระจายจนกลายเป็นวิกฤติระดับประเทศ แม้จะมีกระแสของซีรีส์จากกลุ่มผู้ชมที่เป็นแฟนนิยายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อการถูกพูดถึงแบบปากต่อปาก ยังไม่รวมไปถึงทุกสัปดาห์ที่ออกฉาย # ที่มีความเกี่ยวข้องกับซีรีส์จะกลายเป็นเทรนด์ในทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ประกอบกับการที่ทุกคนต้องอยู่ในที่พักอาศัยมากขึ้น ทำให้คนไทยเข้าถึงสื่อออนไลน์ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามากขึ้น ส่งผลให้คนนอกกลุ่มแฟนซีรีส์เริ่มเข้ามา “ลองดู” ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ ได้ฐานคนดูกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นในทุกสัปดาห์

 

 

3.เนื้อหาใกล้ตัว ยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นมนุษย์

ซีรีส์ในหมวด Y (Yaoi) ซึ่งเริ่มเติบโตและแพร่หลายอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในประเทศไทย แม้กลุ่มเป้าหมายของละครหรือซีรีส์พวกนี้คือบรรดาแฟนนิยาย Y (ซึ่งเป็นกลุ่มเพศหญิง) ที่ตามอ่านมาตั้งแต่งานต้นฉบับแล้วก็ตาม แต่ด้วยความเฉพาะเจาะจงของเนื้อหาเรื่องราว ที่มีความ “แฟนตาซี” ในเชิงการไม่มีอยู่ของเพศสภาพ ทำให้ซีรีส์หลายๆเรื่องดูไกลตัว สำหรับผู้ชมกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มชายรักชายที่มีตัวตนอยู่ในสังคมจริงๆ จะมองว่า สิ่งที่ปรากฏอยู่ในซีรีส์เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องจริงและไม่เคยเกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเขา ทำให้ผู้ชมเกิดอาการ “ไม่อิน” และเลิกดูไปกลางคัน

 

แต่เหตุผลดังกล่าวใช้ไม่ได้กับ เพราะเราคู่กัน เนื่องจากการบทของตัวละครไบร์ทและวิน ให้อารมณ์ความรู้สึก ผู้ชายสองคนที่มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน อยากจะมอบสิ่งดีๆให้อีกฝ่ายโดยไม่สนใจถึงเรื่องเพศสภาพของฝั่งตรงข้าม ทำให้ผู้ชมที่เป็นเกย์หรือเพศไหนๆ มองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตัวละครทั้งสองตัวนี้คือ “ความรัก” ที่ว่าด้วยการมอบความห่วงใยให้แก่กันมากกว่าจะคำนึงถึงเรื่องอื่นๆ ประกอบกับพฤติกรรมที่เทคแคร์ดูแลของสารวัตร ที่เรียกว่าต่อให้เป็นใครหน้าไหนๆ เจอคนแบบนี้ไปก็ต้องใจอ่อนกันทุกรายไป

 

 

4.การสวมทับของบุคลิกนักแสดงและตัวละคร

ในจอเป็นอย่างไร นอกจอคาแรกเตอร์ของนักแสดงอย่าง ไบร์ท วชิรวิชญ์ และวิน เมธวิน ก็แทบจะไม่มีความแตกต่างกับตัวละครที่พวกเขากำลังสวมบทบาท ไม่ว่าจะเป็นนิสัยที่ชอบเล่นกีตาร์ของไบร์ท มาดกวนๆและขี้อ้อนในที หรือความขี้อาย และดูเป็นเด็กที่ยังโตไม่เต็มที่ของวิน จนคนดูสามารถเชื่อมโยง และอินกับคาแรกเตอร์ของตัวละครทั้งสองต่อเนื่องออกมาถึงนอกจอ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Follower ใน Instagram ของทั้งสองคนถึงพุ่งทะยานไปสู่หลักล้านกันอย่างรวดเร็ว เพราะบรรดาผู้ชมรู้สึกอยากจะเฝ้ามองความเคลื่อนไหวของทั้งสอง จนกลายเป็นเครื่องช่วยเยียวยาจิตใจในช่วงเวลาที่สิ่งต่างๆรอบตัวดูเครียดและน่าหดหู่ไปเสียหมด

 

 

5.พูดต่อ แชร์ไป และกลายเป็นไวรัล!

 

อานิสงค์จากเหตุผลทุกประการในข้างต้น ทุกครั้งที่ซีรีส์ออนแอร์จะต้องมีฉากเซอร์วิสแฟนละครให้กรี๊ดเป็นลมคาจอในแทบทุกตอนไป ไม่ว่าจะเป็นฉากสารภาพรักหรือฉากเข้าคู่กันของทั้งสองคน ก็ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาเป็น # หรือคลิป GIF ที่กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล จนทำให้คนที่ไม่ได้ติดตามซีรีส์นี้เกิดความสงสัยและเริ่มหันมาเริ่มชมซีรีส์เรื่องนี้ตามๆกันไป

 

และทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 เหตุผลที่เราสรุปมาจากบริบทรอบตัวของผู้เขียนเอง แน่นอนว่าในลำดับต่อไปคาดการณ์ว่า จะมีงานเขียนที่เกี่ยวกับซีรีส์นี้ในเชิงเจาะลึกถึงสิ่งที่ปรากฏอยู่ในซีรีส์แบบละเอียดตามออกมาอย่างแน่นอนครับ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ

อัลบั้มภาพ 17 ภาพ ของ 5 เหตุผลที่ทำให้ "เพราะเราคู่กัน" (คั่นกู) กลายเป็นปรากฏการณ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook