Sea Fever หนังระบาดวิทยาเรื่องใหม่ ภายใต้คราบสัตว์ประหลาดใต้ทะเล
แม้สถานการณ์โรคระบาดโควิด19 จะยังไม่คลี่คลายในหลายประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนทั่วโลกก็ยังคงมีความหวังจะให้ฝันร้ายครั้งนี้จบลงในเร็ววัน เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ปรากฏการณ์นี้อาจจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (The Great Depression) ครั้งใหม่ ที่ว่ากันว่าหากเกิดขึ้นจริง จะมีความรุนแรงมากกว่าเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในปี 1929-1941 มีจุดเริ่มต้นจากสหรัฐอเมริกาและกระจายตัวออกไปทั่วโลก
ถึงแม้ว่าสังคมโลกตอนนี้กำลังต้องเผชิญหน้ากับความตึงเครียดในทุกองคาพยพ แต่เช่นเดียวกันกับแวดวงภาพยนตร์ก็ดูจะต้องเผชิญหน้ากับการปรับตัวครั้งใหญ่ เมื่อโรงภาพยนตร์ถูกปิดเพื่อควบคุมการระบาดของโรค สตูดิโอทั้งยักษ์ใหญ่ หรือบรรดาค่ายหนังอิสระล้วนต้องหาวิธีจัดสรรบรรดาทรัพย์สิน (ในที่นี้หมายถึงภาพยนตร์ที่ตัวเองถือลิขสิทธิ์อยู่ในมือ) ให้งอกเงยกลายเป็นรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงธุรกิจของตัวเองให้สามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไม่สะดุดลง
เมื่อหนังฟอร์มยักษ์ไม่สามารถฉายในโรงภาพยนตร์ได้ บรรดาหนังฟอร์มเล็กที่ไม่ได้มีนักแสดงแถวหน้า หรือไม่ได้มีโปรดักชั่นในระดับร้อยล้ายเหรียญฯ จึงเริ่มเจาะตลาดสตรีมมิ่งเพื่อหารายได้ ซึ่งวันนี้เรามีหนังระทึกขวัญเรื่องใหม่จากเกาะไอร์แลนด์ อันเป็นหนังร่วมลงทุนกันจาก ไอร์แลนด์ อเมริกา อังกฤษ สวีเดนและเบลเยี่ยม ที่ช่วยกันออกงบ โดยหนังเรื่องนี้มีชื่อว่า Sea Fever ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Gunpowder & Sky สตูดิโอ
Sea Fever เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับของผู้กำกับหญิงชาวไอริช นีอาซา ฮาร์ดิแมน ซึ่งนี่เป็นผลงานหนังขนาดยาวเรื่องแรก โดยตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของฟรีญ่า (เฮอร์ไมโฮนี คอร์ฟีลด์) นักชีววิทยาทางทะเล ที่กำลังศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพื่อนำไปทำวิทยานิพนธ์ เธอตัดสินใจขอติดเรือประมงออกสู่ท้องทะเล แต่เมื่อถึงกลางเส้นทาง เรือประมงลำนี้กลับโดนจู่โจมจากบางสิ่งบางอย่างจากใต้ท้องทะเล
ฟรีญ่าโดนขอร้องแกมบีบบังคับ ให้เธอดำน้ำลงไปสำรวจว่าเกิดอะไรขึ้นกับใต้ท้องเรือ ฟรีญ่าพบว่ามีสายรยางค์เรืองแสงที่ยึดเกาะตัวเรือไว้ เมื่อก้มหน้ามองลงไปเธอพบว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้คล้ายกับดอกไม้ทะเลยักษ์ที่เรืองแสงเป็นสีฟ้า แม้เธอจะไม่รู้ว่า “มัน” คืออะไร แต่นั่นทำให้เจ้าของเรืออย่างเจอราด (ดอจน์เรย์ สก็อตต์) มองว่านี่อาจจะเป็นโอกาสทองในการจับสัตว์ทะเลหายาก เพื่อนำไปขายต่อเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ก้อนโต
แต่ดูเหมือนว่าแผนการจับสัตว์น้ำครั้งนี้จะไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่นานนักเรดาร์ของเรือลำนี้ ตรวจพบเรือประมงที่จอดนิ่งสนิทอยู่ไม่ไกลนัก พวกเขาจึงตัดสินใจนำเรือเล็กออกไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาพบว่าเรือลำนี้ปราศจากผู้คน เรื่องน่าขนลุกเกิดขึ้นเมื่อฟรีญ่าพบกับศพของลูกเรือ อยู่ในสภาพนั่งตายอยู่บนโต๊ะอาหารด้วยสภาพลูกตาระเบิดจมกองเลือด
แม้จะหาคำตอบไม่ได้ว่าลูกเรือของเรือร้างลำนี้เป็นอะไรตาย แต่เจอราด กัปตันเรือตัดสินใจว่าห้ามเอาสิ่งที่พวกเขาเจอบนเรือลำนี้ไปบอกลูกเรือตัวเองเด็ดขาด เพราะเกรงใจว่าบรรดาคนบนเรือตัวเองจะประสาทกินกันเสียก่อน เหมือนโชคเข้าข้างเมื่อสัตว์ทะเลลึกลับได้คลายรยางค์จากตัวเรือออกทำให้เรือลำนี้สามารถแล่นต่อได้อีกครั้ง แต่ความสยองยังไม่จบลง เมื่อลูกเรือคนหนึ่งในเรือลำนี้กลับมีอาการประหลาด จู่ๆดวงตาก็เกิดไม่สามารถมองเห็นอะไร และไม่กี่นาทีถัดมาดวงตาของเขาก็ระเบิดออกไม่ต่างอะไรจากสภาพศพของลูกเรืออีกลำหนึ่ง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นของหายนะครั้งใหม่ ที่ฟรีญ่าเริ่มเข้าใจแล้วว่าบางทีนี่คือภาวะ “ปรสิต” จากสัตว์ประหลาดใต้ทะเล ที่เธอต้องค้นหาคำตอบให้ทันเวลาก่อนที่ลูกเรือทั้งหมดจะตกอยู่ในสภาพ “ติดเชื้อ” กันหมดและหมดหนทางรอดชีวิต
ตัวหนังเล่นกับความตึงเครียดของตัวละครที่เริ่มตกอยู่ในสภาวะวิตกจริต และสภาพสถานที่ปิดตาย (เรือที่ลอยเคว้งอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่) และถึงแม้ว่า “สัตว์ประหลาด” ในเรื่องจะปรากฏตัวอยู่บนจอไม่นานเท่าไหร่ หนังกลับเล่นสนุกถึงการมีตัวตนอยู่ในทุกมุมของเรือลำนี้ ด้วยการแพร่เชื้อโรคผ่านการเป็นปรสิตในการยึดร่างของเหยื่อผู้โชคร้ายแต่ละคน ทำให้ผู้ชมหายใจไม่ทั่วท้องตลอดเวลา
โดย Sea Fever ออกฉายครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์ Toronto International Film Festival ของประเทศแคนนาดา ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนปี 2019 ก่อนที่จะเดินทางเปิดตัวตามเทศกาลหนังอื่นๆอีกหลายงาน และล่าสุดค่ายหนังก็ตัดสินใจฉายหนังเรื่องนี้ทางสตรีมมิ่งต่างๆ อาทิ FANDANGO NOW และ VUDU เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา โดยตัวหนังได้คะแนนจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 85%
สำหรับผู้ชมชาวไทยอาจจะต้องอดใจรอกันสักหน่อยว่าจะมีสตรีมมิ่งเจ้าไหนซื้อมาฉาย หรือว่าค่ายหนังในประเทศเราจะซื้อมาจัดจำหน่าย แต่ในสถานการณ์แบบนี้อาจจะต้องรอนานกันนิดเพราะประเมินสถานการณ์ภาพรวมแล้ว ดูเหมือนว่าต้นเดือนพฤษภาคม โรงภาพยนตร์ในบ้านเราก็อาจจะยังไม่ได้กลับมาเปิดให้บริการ เฉกเช่นอีกหลายๆประเทศทั่วโลก