ถ้าทำได้ให้แสนเหรียญ! ห้ามจูบ ห้ามนัว ห้ามมีเซ็กซ์ กับ Too Hot To Handle
จะมีอะไรเร่าร้อนไปกว่า หนุ่มสาวหน้าตาดี ที่มาพร้อมกับหุ่นและมัดกล้าม ชายหาดทรายและเกลียวคลื่น บิกินี่และกางเกงว่ายน้ำ ทั้งหมดนี้คือรูปแบบรายการของ Too Hot To Handle เรียลลิตี้ความยาว 8 ตอนที่สามารถดูได้รวดเดียวจบทางสตรีมมิ่ง Netflix
รู้จัก Too Hot To Handle
แรงดึงดูดทางเพศถือเป็นแรงขับทางพฤติกรรมของคนหนุ่มสาว แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนที่เซ็กซี่สุดๆ 10 คนมาอยู่ด้วยกัน แถมพร้อมจะกินกันตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นหน้า สบตา แต่พวกเขาดันถูกห้ามไม่ให้มีเซ็กซ์กัน นี่แหละคือโจทย์หลักของรายการ Too Hot To Handle
Too Hot To Handle นำบรรดาผู้เข้าแข่งขันเป็นชายและหญิงอย่างละ 5 คน โดยแต่ละคนมีใบหน้าหล่อเหลา หุ่นเซ็กซี่ และดึงดูดสายตา ซึ่งพวกเขามาจากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลียและไอร์แลนด์ ซึ่งพวกเขาไม่รู้มาก่อนเลยว่าการมาร่วมค่ายครั้งนี้มีอะไรมากกว่าการละลายพฤติกรรมและเล่นสนุกกับบรรดาคนหน้าตาดีคนอื่นๆ
ในตลอด 12 ชั่วโมงแรก พวกเขาสนุกกับการทำความรู้จักกันและดูเหมือนจะอ่อยกันอยู่ในที ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดอยู่ภายใต้การจับตามองของ “ลาน่า” AI อัจฉริยะที่ล่วงรู้การเคลื่อนไหวของผู้เข้าแข่งขันทุกคน โดยที่ตัวผู้เข้าแข่งขันไม่มีใครรู้เลยว่ากำลังจะต้องเจอกับอะไร โดยผู้เข้าแข่งขันประกอบไปด้วย โคลอี้ สาวจากอังกฤษอายุ 20 ที่ดูมึนๆแต่หน้าตาสะสวย ชาร์รอน หนุ่มผิวสีจากนิวเจอร์ซี ตัวเล็กกะทัดรัดแต่ด้วยมัดกล้ามและรอยสักสุดเท่ทำให้สาวๆติดตรึม แถมเขายังเคลมอีกว่าขนาดน้องชายตัวเองไซส์เท่ากระป๋องสเปรย์ เฮลีย์ สาวผมบลอนด์จากฟลอริด้า ผู้ชื่นชอบการไปปาร์ตี้ตามชมรมในมหาวิทยาลัยซึ่งเปิดประเด็นเรื่อง หน้าอกของใครใหญ่กว่ากัน!
ไม่ยังพอ เดวิด เทรนเนอร์หนุ่มหล่อจากอังฤษผู้ชื่นชอบปาร์ตี้และการ์มีเซ็กซ์เป็นชีวิตจิตใจ ตามมาด้วยแฮรี่ หนุ่มออสซี่ตาหวาน ขี้เล่นและเซ็กซี่ ที่กล่าวว่า เขาตามจีบดาราเป็นว่าเล่นแต่ก็ “ตุ้บ” แทบทุกราย ฟรานเชสก้า สาวผิวแทนที่จากบริชทิช โคลัมเบีย แคนนาดา ที่เหมือนส่วนผสมของคิม คาร์ดาเชียนและนิโคล วง The Pussycat Dolls เธอมีไม้ตายอ่อยผู้ชายด้วยการสะบัดผมใส่
ผู้เข้าแข่งขันยังประกอบไปด้วย แมททิว หนุ่มเซอร์ รอยสักที่มาดนิ่ง คิดเยอะ แต่เป็นคนมีเสน่ห์ จนรายการเคลมว่าหนุ่มชิลคนนี้เป็นพระเยซูในร่างนายแบบ! รอนด้า สาวผิวสีสุดเซ็กซี่ที่นอกจากก้นสวย ความคิดความอ่านของเธอก็สวยไม่แพ้กับรูปร่างของเธอ นิโคล สาวผมบลอนด์ผู้เติบโตมาจากโรงเรียนแม่ชี ที่ความคิดซุกซน ชอบแอบออกมาปาร์ตี้ไม่ให้ใครจับได้ ปิดท้ายด้วย เคลซ์ หนุ่มผิวสีร่างใหญ่ กล้ามโตที่บอกว่า เขาคือเจ้าป่า และหนังเรื่องโปรดคือ The Lion King!
เมื่อทำความรู้จักกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 10 คนจึงได้ไปสำรวจห้องพัก ซึ่งเป็นเตียงคิงไซส์ที่มีแค่เพียง 6 เตียงเท่านั้น นั่นหมายความว่าจะต้องมี 4 คนที่ต้องนอนร่วมเตียงกับเพื่อนคนอื่น โดยรีสอร์ทที่ผู้เข้าแข่งขันเข้าพัก จะมีสถานที่หลักๆประกอบไปด้วย ชายหาด บาร์เครื่องดื่ม เตียงอาบแดด ห้องแต่งหน้า ห้องอาบน้ำ ลานทำกิจกรรมกลุ่ม และอีกหนึ่งห้องลับ!
เมื่อตะวันลับฟ้าบรรดาผู้เข้าแข่งขันก็ต้องสะดุ้ง เมื่อ “ลาน่า” เริ่มต้นทำงานและประกาศว่าให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคนไปรวมตัวกันศาลารีสอร์ท เพื่อประกาศเหตุผลสำคัญในการเข้าร่วมรายการ ว่าบรรดาผู้เข้าแข่งขันทุกคนถูกเลือกเข้ามาเพราะเป็นพวก “ชอบหาคู่นอนโดยไร้ความหมายและไม่อยากมีความสัมพันธ์แบบจริงจัง เป้าหมายสำคัญของค่ายนี้คือการทำให้ทุกคนได้มีความสัมพันธ์ทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งในความสัมพันธ์ส่วนตัว” เพื่อให้เป้าหมายสามารถบรรลุได้อย่างสมบรูณ์จะมีเงินรางวัลอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขที่ว่าพวกเขา ห้ามมีเซ็กซ์ในทุกรูปแบบ ประกอบไปด้วย ห้ามจูบ ห้ามจับของสงวน ห้ามสำเร็จความใคร่ให้กับตัวเอง หากพวกเขาละเมิดกฎจะถูกหักเงินรางวัลไปเรื่อยๆ
สนุกเหลือหลายเพราะการตัดต่อ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความบันเทิงขึ้นสุดของ Too Hot To Handle คือการตัดต่อของตัวรายการเองที่ดูเหมือนให้คนดูรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า นี่เป็นสคริปหรือเปล่านะ ทำไมมันถึงดูเป็นละครจัง เพราะหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรายการไม่ว่าจะเป็น การละเมิดกฎแบบตั้งใจ การซ้อนแผนของผู้เข้าแข่งขันที่อยากจะใส่ไฟให้เพื่อนคนอื่น การโกหกหน้าตาย ผู้เข้าแข่งขันที่มีความหลากหลายทั้งตัวจี๊ดจอมก่อเรื่อง หนุ่มที่ไม่สามารถก้าวข้ามความรู้สึกของตัวเอง ฯลฯ เชื่อว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านการวางแผนคร่าวๆของทีมงาน แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้เข้าแข่งขันคือ “ความรู้สึกจริง” (แบบเดียวกับ The Face Thailand หรือหลายเรียลลิตี้ดราม่าจ๋าทั่วโลก)
อีกหนึ่งความสนุกของ Too Hot To Handle คือเสียงบรรยายรายการของดีไซรี เบิร์ช นักแสดงตลกและนักเดี่ยวไมโครโฟนมากอารมณ์ขันที่ได้รับรางวัลมามากมาย ซึ่งเราอาจจะกล่าวได้ว่าเธอเป็นตัวชงและตัวเชื่อมระหว่างคนดูและตัวรายการให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น แถมบรรดามุกแซว มุกจิกกัดของเธอนั้น เรียกได้ว่าโดนทุกเม็ด!
Too Hot To Handle อาจจะเป็นเรียลลิตี้ที่ดูเปลือกนอกค่อนข้างเปล่ากลวงและไร้สาระ แต่มันกลับกลายเป็นรายการที่ดูแล้วช่วยคลายเครียดในช่วงวิกฤติโควิด19 ได้เป็นอย่างดี เพราะบางครั้งมนุษย์เราก็ไม่ต้องการจะเสพย์อะไรที่มันหนักหน่วงกันอยู่ตลอดเวลา บางทีการสำรวจความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์อย่างเรื่อง “เซ็กซ์และความรัก” อาจจะเป็นสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด ณ เวลานี้ก็เป็นได้