[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Resident Evil จากเกมในตำนานของ Play Station สู่หนังสุดระทึก แน่นอนนักวิจารณ์จวก

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Resident Evil จากเกมในตำนานของ Play Station สู่หนังสุดระทึก แน่นอนนักวิจารณ์จวก

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Resident Evil จากเกมในตำนานของ Play Station สู่หนังสุดระทึก แน่นอนนักวิจารณ์จวก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พาไปย้อนวันวานกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ถึงคิวของ Resident Evil หนังเรื่องดังที่ออกฉายในปี 2002 ดัดแปลงมาจากวิดีโอเกมชื่อดัง อย่าง Resident Evil หรือ Biohazard โดยเวอร์ชั่นหนังเป็นผลงานการกำกับของ พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน แต่สิ่งที่คอหนังทั่วไปอาจจะยังไม่รู้คือ Resident Evil ภาคแรกเป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศอังกฤษและเยอรมัน ไม่ใช่ประเทศอเมริกา (Screen Gems จากอเมริกาเป็นประเทศผู้จัดจำหน่ายเท่านั้น)

 

ตอนที่หนังเข้าฉาย หนังเปิดตัวด้วยรายได้ 17 ล้านเหรียญฯ ในอเมริกา ก่อนที่จะสิ้นสุดการฉายทั่วโลก Resident Evil ทำเงินไปทั้งสิ้น 102 ล้านเหรียญฯ จากต้นทุนในการสร้างเพียง 33 ล้านเหรียญฯ แม้คำวิจารณ์ของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างก้ำกึ่งและเทไปในทางลบมากกว่าก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าความระทึกตื่นเต้น และบรรยากาศของหนังสยองขวัญยังคงอัดแน่นเต็มเปี่ยมอย่างไม่อาจปฏิเสธ  

 

Resident Evil บอกเล่าเรื่องราวของ “ไฮฟ์” (The Hive) ศูนย์วิจัยทางพันธุกรรม ซึ่งดำเนินการโดย อัมเบรลล่า คอปปอเรชั่น องค์กรลึกลับทางด้านวิศวพันธุกรรม ซึ่งอยู่ใต้เมืองแร็คคูนซิตี้ แต่ได้เกิดเหตุการณ์ไวรัสรั่วไหลในสถานที่แห่งนี้ เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ อลิซ (มิลล่า โจโววิช) จะตื่นขึ้นมาในสภาพไร้ความทรงจำในคฤหาสน์ที่อาจจะเป็นบ้านของตัวเอง ไม่นานนักมีหน่วยคอมมานโด ได้บุกเข้ามาจับอลิซและพาเธอเดินทางด้วยรถไฟจากคฤหาสน์เพื่อไปยังไฮฟ์ เพื่อค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าฝันร้ายเกินจินตนาการเฝ้ารอพวกเขาอยู่

 

ถึงแม้ว่าจะเป็นภาคที่ดัดแปลงมาจากเกม แต่หนังก็ไม่มีตัวละครจากเกมปรากฏตัวในหนังภาคนี้สักคน แต่เรียกได้ว่าหนังหยิบเอาจุดเด่นของเกมมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรชั่วร้ายอย่างอัมเบรลล่า คอปปอเรชั่น เมืองแร็คคูนซิตี้ที่เป็นฉากหลังของเกมภาคที่ 2 และ 3 และสัตว์ประหลาดชีวภาพ หรือสถานที่สำคัญในเกมไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์ (ที่น่าจะได้แรงบันดาลใจจากเกมภาคแรก) รถไฟใต้ดิน (ฉากไคลแม็กซ์ในเกมภาค 2) เป็นต้น

จุดเด่นประการสำคัญของ Resident Evil คือส่วนผสมระหว่างหนังวิทยาศาสตร์กับหนังสยองขวัญที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ชนิดที่คนไม่ได้เล่นเกมมาก่อนก็จะยังคงสนุกและทำความเข้าใจกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคือหนังใช้ตัวละครอย่าง “อลิซ” เป็นตัวเชื่อมโยงคนดูกับหนัง เพราะสภาพสูญเสียความทรงจำของตัวละครนี้ไม่ต่างอะไรจากผู้ชมที่รอคอยคำตอบว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับศูนย์วิจัยแห่งนี้ แล้วอลิซเป็นใคร มาจากไหนและทำไมเธอถึงเสียความทรงจำไป

 

เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ถ้าคนชอบหนังสไตล์วิทยาศาสตร์ เมื่อคุณย้อนกลับมาดู Resident Evil ถือเป็นภาคที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์นี้ จนกระทั่งหนังสร้างภาคต่อตามออกมาอีก 5 ภาค ซึ่งระดับความออกทะเลก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหนังแอ็คชั่นแฟนตาซีไปในที่สุด

ถ้าคุณยังอยากสัมผัสความตื่นเต้นแบบที่ไม่ได้สัมผัสมานานแล้ว ลองหา Resident Evil ภาคแรกกลับมาดูอีกสักครั้งนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook