ถอดเพลง "ปลอม" กับบทสรุป "เนื้อใน" เข็มเพชรและชะตากรรมอันแสนเศร้า
บทเพลงประกอบละคร “เนื้อใน” อย่างเพลง “ปลอม” ซึ่งเป็นผลงานการขับร้องโดย แก้ม วิชญาณี และเป็นผลงานการแต่งเนื้อร้องของ ณรงค์ วงศ์พัฒนเดช คือบทบรรยายชีวิตของตัวละคร “เข็มเพชร” ที่ชัดเจนตั้งแต่แรงจูงใจ วิถีในการดำเนินชีวิต พฤติกรรม ไปจนถึงบทสรุปของตัวละครนี้ ดังนั้นบทความนี้เราจะมาร่วมถอดเนื้อเพลงไปพร้อมๆกับ สิ่งที่ปรากฏอยู่ในเรื่องราวในละครเรื่องนี้
ทำไมมีคนที่เขาดีกว่า ได้ยินแต่คำนั้น
การที่เข็มเพชร (คริส หอวัง) เติบโตมาด้วยความรักลูกไม่เท่ากันภายใต้ครอบครัวเชื้อสายจีน ทำให้เธอต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่าคนอื่นๆ จนเราอาจจะกล่าวได้ว่าความทะเยอทะยานของเธอมีสูงมาก และเข็มเพชรไม่เคยรู้สึก “พอใจ” กับชีวิตเลยสักวัน
ตั้งแต่เริ่มต้นละคร เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในวันที่เธอได้รับรางวัลแห่งความสำเร็จทางธุรกิจ เธอรู้สึก “ชนะ” ได้เพียงไม่กี่วินาที แต่เมื่อมีคนอื่นที่ได้รางวัลเช่นกัน เธอกลับเลือกที่จะมองว่า ไฟสปอร์ตไลท์นั้นได้จากเธอไปแล้ว เข็มเพชรจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองได้รับการยอมรับชื่นชมตลอดไป แต่ความเป็นจริงแล้วไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถโอบอุ้มความสำเร็จได้ตลอดกาล
อันที่จริง เข็มเพชรมีหน้าที่การงานที่ราบรื่น มีความสุข เธอมีสามีที่ดีอย่างสกุล (กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ซึ่งพร้อมจะสนับสนุนทุกการกระทำของภรรยาโดยไม่สนใจสายตาที่คนอื่นมองเลยด้วยซ้ำไปว่า “เป็นช้างเท้าหลัง” หรือ “เมียเลี้ยง” สกุลถือเป็นผัวอันแสนประเสริฐโดยแท้ แต่เข็มเพชรกลับมองแต่ว่าเธอมีผัวไม่เอาถ่านและไม่ทะเยอทะยานเอาซะเลย
เข็มเพชรจึงไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่และต้องการสิ่งที่ดีกว่าอยู่ร่ำไป
แสดงให้ดูว่ามีเพียบพร้อม ถึงแม้มันปลอมก็ตามแต่
ด้วยอาชีพการงานในสายวิชาชีพเจ้าของร้านขายอัญมณี เข็มเพชรถึงถือว่าเป็นคนรวย เป็นเจ้าของธุรกิจที่มีหน้ามีตาในสังคม ดังนั้นเธอจำเป็นต้อง “ปั้นหน้า” และแสดงออกให้คนอื่นรับรู้ว่าเธอเพียบพร้อม สมบูรณ์ ไม่มีรอยด่างพร้อย แต่สิ่งที่ “แสดง” ออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นความปลอมที่เธอพยายามเที่ยวบอกคนอื่นว่าตัวเองมีความสุข กำลังทำดีเพื่อช่วยเหลือคนอื่น แต่ในใจของเข็มเพชรกลับคิดลบและพยายามทำลายชีวิตคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ราวกับเธอทนไม่ได้ที่เห็นคนอื่นในชีวิตได้ดีกว่าตัวเอง
ความจอมปลอมที่เกิดขึ้นกับตัวเข็มเพชรเอง เธอกระทำมันซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่าจนกลายเป็น “สันดาน” จนตัวเองก็ฉุกคิดไม่ทันด้วยซ้ำไปว่า เธอเองกำลังโกหกความรู้สึกของตัวเองอยู่
คนอย่างฉันฆ่าได้ ไม่ยอมให้หยาม ผิดอย่างไรจะทำ ไม่กลัวสิ่งไหน
ด้วยนิสัยไม่ยอมคนและไม่ยอมใคร จนหลายครั้งการกระทำของเข็มเพชรเองคือการแกว่งเท้าหาเสี้ยน ไม่ว่าความพยายามจะเอาชนะราเชน (กอล์ฟ-อนุวัฒน์ ชูเชิดรัตนา) ในสมัยฝึกงานจนลุกลามบานปลายกลายเป็นคู่อาฆาตตลอดกาลตั้งแต่เริ่มละครยันละครใกล้ปิดฉาก
ว่ากันว่า “คนผิด” ที่ไม่ยอมกลับตัวนั้น ส่วนมากแล้วเริ่มต้นจากการที่พวกเขาโกหกตัวเองอยู่ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ไม่ใช่ความผิด เข็มเพชรคือคนประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เธอเผลอผลักพี่ชายของตัวเองจนโดนรถชนจนถึงแก่ชีวิต แต่เธอก็ไม่ยอมรับผิดและเลือกที่จะโกหกตำรวจจนให้เรื่องราวเงียบและซาไป
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เข็มเพขรถลำลึกไปกว่านั้น คือหลังจากที่เธอพลั้งมือฆ่าราเชนตายคาบ้าน เธอเลือกที่จะไม่ยอมรับความผิด และยังกลบเกลื่อนหลักฐานด้วยการแสร้งทำเป็นว่า คู่กรณีได้ฆ่าตัวตาย แถมอำพรางคดีอย่างเลือดเย็นราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เพราะคนอย่างเข็มเพชรนั้นฆ่าได้ แต่อย่าให้ใครมาหยาม ....
ฉันต้องการแค่ตอนสุดท้าย เห็นบางคนไม่เหลือสิ่งใด...เท่านั้นพอ
เข็มเพชรอยากจะเห็นคนที่เธอเกลียดได้รับแต่ความเลวร้ายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นราเชนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด เธอแค่อยากเห็นผู้ชายคนนี้กลายเป็นคนที่ต้องก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้ แต่ชีวิตของมนุษย์ทุกคนก็ต้องสู้ปากกัดตีนถีบ ต่อให้จะดีจะเลวอย่างไรก็ตาม ความพยายามต่อสู้ของราเชนจึงเป็นเหมือนเชื้อไฟที่ทำให้เข็มเพชร อยากจะเห็นความฉิบหายย่อยยับของราเชน โดยไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าการกระทำของเธอนั้นอาจจะสร้างรอยแผลให้กับคนใกล้ตัวที่ดีกับเช็มเพชรมาตลอดชีวิตอย่างปลี (รถเมล์-คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) ต้องรับชะตากรรมทางอ้อมก็ตาม
กระทั่งเฮียจือ (เอ็ม-อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) พี่ชายของตัวเข็มเพชรเองก็ยังถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นคนอื่น กัญญา (แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์) เจ้านายของสกุลที่พยายามเข้ามาวุ่นวายกับเข็มเพชรก็ยังโดนลูกหลงความริษยา ลิลลี่ (กระติ๊บ-ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) คู่แข่งทางธุรกิจอัญมณีก็เล่นสงครามประสาทกันไม่ว่างเว้น พวกเขาเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเป้าหมายที่เข็มเพชรอยากจะให้ “จุดจบ” ของพวกเขาประสบความล้มเหลวในชีวิตและพังพินาศไปในเร็ววัน
เพิ่งเข้าใจเมื่อตอนสุดท้าย ว่ามีคนไม่เหลือสิ่งใด...แค่ฉันเอง
ความริษยา อาฆาตและไม่เคยรู้จักปล่อยวางของเช็มเพชรเองนั่นแหละที่เผาใจของเธอให้กลายเป็นคนที่ไม่สนใจความผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป ยิ่งเธอถลำลึกมากแค่ไหน เธอก็ยิ่งกู่ไม่กลับ ในตอนสุดท้ายของละครแผนการที่เข็มเพชรตัดสินใจเอาลูกของตัวเองเป็นตัวประกันเพื่อประวิงเวลาในการหลบหนีจากการจับกุมตัว ได้พิสูจน์แล้วว่าสุดท้ายทรัพย์สิน ความสุข ครอบครัว หรือสิ่งที่เธอสร้างมากับมือ ล้วนพังทลายลงในพริบตาจากน้ำมือและการกระทำของตัวเอง
ไม่ว่าเข็มเพชรจะเข้าใจหรือไม่ก็ตาม แต่ท้ายที่สุด ผลกรรมที่ตัวละครนี้ได้รับอาจจะไม่ได้หมายถึงการถูกกฎหมายลงโทษติดคุก หรือโดนวิสามัญฆาตกรรมให้ตายตามแบบฉบับตอนจบที่แฟนละครชาวไทยมักโหยหา อันว่าด้วยคนผิดจะต้องได้รับวิบากกรรมขั้นสุด
“ภาพสุดท้าย” ที่เราได้เห็นเข็มเพชรบนจอ เป็นภาพที่น่าเศร้ายิ่งกว่า เมื่อเธอเองพบว่าตัวเองต้องจมอยู่กับความรู้สึกอันแสนเลวร้ายที่ตัวเองไม่มีวันลบล้างหรือแก้ไขไปตลอดชีวิต ความหวาดระแวงในทุกฝีเก้า สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นบทลงโทษของตัวละครที่เหมือน “ตายทั้งเป็น” ซึ่งเจ็บปวดกว่าความตายหลายเท่านัก
คนที่ไม่เหลืออะไรจึงไม่ใช่ใคร แต่เป็นตัวของเข็มเพชรเองนั่นแหละที่ไม่เหลือกระทั่ง “ความสุข” ในการมีลมหายใจต่อในชีวิตนี้
สามารถฟังเพลงประกอบละครได้ที่