[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Torque เท่สุดใจ หนังบิ๊กไบค์สุดระห่ำ ที่ไม่มีใครจดจำ

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Torque เท่สุดใจ หนังบิ๊กไบค์สุดระห่ำ ที่ไม่มีใครจดจำ

[ขุดหนังเก่ามารีวิว] Torque เท่สุดใจ หนังบิ๊กไบค์สุดระห่ำ ที่ไม่มีใครจดจำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าเรามักจะได้ยินข่าว “อุบัติเหตุ” เกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์แทบทุกเดือน ประเภทของบิ๊กไบค์ที่เกิดอุบัติเหตุนั้นมักจะอยู่ในหมวด “สปอร์ต” (Sport) ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้มีสมรรถนะสูง โครงสร้างกะทัดรัด ลู่ลม น้ำหนักเบา จุดประสงค์หลักเพื่อความคล่องตัว และทำความเร็วสูง จึงมักจะถูกนำไปดัดแปลงเป็นรถแข่งในสนามแข่งทางเรียบ

กระแสความเฟื่องฟูของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ในประเทศไทยที่นับวันก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ  เมื่อย้อนกลับไปมองในช่วงปีพ.ศ.2555 ผลการสำรวจความนิยมของผู้บริโภคในประเทศไทย พบว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้รับความสนใจซื้ออย่างรวดเร็ว จนเราสามารถเห็นรถประเภทนี้หลากหลายยี่ห้อ ออกมาสู่ท้องตลาดและกลายมาเป็นยวดยานพาหนะที่วิ่งกันอย่างแพร่หลายบนท้องถนนบ้านเราในทุกวันนี้

 

หลังจากที่ The Fast and the Furious ภาคแรก ได้สร้างกระแสนิยมให้กับหนังในกลุ่ม “ยวดยานพาหนะ” กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ทำให้ในปี พ.ศ.2547 สตูดิโออย่างวอร์เนอร์บราเธอร์ หยิบเอารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มาขึ้นจอใหญ่บ้าง ภายใต้ชื่อเรื่อง Torque หรือชื่อไทยว่า ทอร์ค บิดทะลวง นำแสดงโดยพระเอกหนุ่มหล่อมาแรง (ในช่วงเวลานั้น) อย่างมาร์ติน เฮนเดอสัน และแรปเปอร์ดาวรุ่ง ไอซ์ คิวบ์

Torque เล่าเรื่องราวของ แครี่ ฟอร์ด (มาร์ติน เฮนเดอสัน) ที่เดินทางกลับบ้านเกิดพร้อมกับแฟนสาวสุดแซ่บเชน (โมเน็ต มาเซอร์) เพื่อมาจัดการธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ โดยที่ไม่รู้เลยว่ารถบางคันถูกซุกยาเสพย์ติดเอาไว้โดยเจ้าพ่อค้ายาอย่างเฮนรี่ (แมทซ์ ชูลซ์)

 

เฮนรี่เลยหาวิธีป้ายสีให้กับฟอร์ดด้วยการใส่ความว่าเขามีส่วนรู้เห็นกับการฆาตกรรมจูเนียร์ น้องชายของเทรย์ (ไอซ์ คิวบ์) หัวหน้าแกงค์ซิ่งรถ ฟอร์ดจึงต้องหาทางเอาตัวรอดจาก เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ (อดัม สก็อต) หนีการตามล่าจากเทรย์ที่มุ่งหมายจะล้างแค้น ฟอร์ดจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองและเอาชีวิตรอด

น่าเศร้าที่ตอน Torque เข้าฉายในอเมริกา หนังล้มเหลวทางด้านรายได้พอสมควรเพราะทำเงินไปแค่เพียง 21 ล้านเหรียญฯ ในอเมริกาเหนือ ก่อนไปจะทำรายได้นอกประเทศอีกนิดหน่อย เมื่อรวมรายรับทั่วโลกแล้วหนังจึงทำรายได้เพียง 46 ล้านเหรียญ จากต้นทุนในการสร้าง 40 ล้านเหรียญฯ (หักค่าประชาสัมพันธ์และงบการตลาดน่าจะถือว่าเท่าทุนหรือขาดทุน) ประกอบกับคำวิจารณ์กลางๆค่อนไปทางลบ เนื่องจากพล็อตเรื่องซ้ำซาก นักแสดงเล่นแข็งเป็นท่อนไม้

 

ทว่าสิ่งที่โดดเด่นที่สุดในหนังเรื่องนี้คือบรรดาฉากตื่นเต้นบนท้องถนนที่ดูสนุก เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นฉากแข่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ตื่นตาตื่นใจ ฉากไคลแม็กซ์การไล่ล่าบนหลังคารถไฟ หรือฉากที่สองสาวคู่ปรับในเรื่องกลายเป็นตัวแทนของยี่ห้อน้ำอัดลมสองเจ้าดังในอเมริกาต้องขับบิ๊กไบค์มาฟาดฟันกัน ก็เป็นฉากหนึ่งในความทรงจำทีเดียว (ใครชนะไปลุ้นกันเอาเองในหนัง)

Torque อาจจะเป็นหนังที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าหากคุณต้องการดูหนังฆ่าเวลา เน้นความตื่นเต้น หนังเรื่องนี้มีสิ่งเหล่านั้นที่คุณมองหา และหยิบมาดูในปี 2563 ก็ยังถือว่าไม่ได้ “เก่าและตกยุค” แต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook