4 ภาคต่อ Avatar ใช้ทุนสร้างมหาศาลถึง 1,000 ล้านเหรียญฯ และจะกลับมาถ่ายต่อแล้วหลังหยุด Covid
อีกหนึ่งหนังที่แฟน ๆ รอคอยจะได้ชมภาคต่อกันมายาวนานอย่าง Avatar ที่นับมาจนถึงตอนนี้ก็ 11 ปีเข้าไปแล้ว และยังคงจะต้องรอต่อไปจนถึงปลายปีหน้าที่ภาค 2 จะเข้าฉาย (และเรียงต่อเนื่องกันปีภาคละ 2 ปี จนถึงภาค 5 ในปี 2027 หนังยังคงกลับมารับบทโดยทีมนักแสดงเบอร์ใหญ่ชุดเดิม ทั้ง Sam Worthington (Crash of the Titans), Zoe Saldana (Avengers: Endgame), Sigourney Weaver (Aliens) และ Steven Lang (Don’t Breathe) สมทบด้วยทีมนักแสดงชุดใหม่ Kate Winslet (Titanic), Vin Diesel (The Fast Saga) , Michelle Yeoh (007: Tomorrow Never Dies) และ Edie Falco (ซีรีส์ The Sopranos)
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า ภาคต่อ Avatar ต้องพักกองถ่ายทำที่นิวซีแลนด์ชั่วคราวเพราะเกิดการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 แต่ในตอนนี้จากรายงานของ Deadline ได้เปิดเผยประกาศของคณะกรรมการภาพยนตร์ของประเทศนิวซีแลนด์ได้เตรียมให้กองถ่ายหนังต่าง ๆ กลับมาทำงานได้อีกครั้ง หลังจากสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดเป็นผลและสถานการณ์โดยรวมเริ่มดีขึ้น
ในรายงานชิ้นนี้ยังเปิดเผยถึงทุนสร้างของหนังทั้ง 4 ภาคด้วย โดยบอกว่า ทั้ง 4 ภาคใช้ทุนสร้างร่วมกัน 1,000 ล้านเหรียญฯ หรือตกเฉลี่ยต่อภาคที่ 250 ล้านเหรียญฯ ซึ่งสูงกว่าภาคแรกที่มีทุนสร้าง 237 ล้านเหรียญฯ แม้ว่าจะดูสูงกว่าภาคแรกไม่มาก แต่ก็เป็นทุนสร้างที่เยอะเอาการสำหรับหนังฟอร์มใหญ่ และเป็นความเสี่ยงอยู่เหมือนกันถ้าภาคใดภาคหนึ่งเกิดไม่ได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ และทำให้หนังภาคต่อ ๆ ไปไม่มีคนดู ผู้กำกับ James Cameron นั้นคุ้นเคยกับการทำหนังทุนเยอะสุดในแต่ละยุคสมัยพอสมควร เพราะตอน Titanic (1997) นั้นก็ใช้ทุนสร้างถึง 200 ล้านเหรียญฯ ติดอันดับ 8 หนังที่ใช้ทุนสร้างสูงสุดตลอดกาล (หลังปรับค่าเงินแล้ว)
โดยอันดับ 1 ตกเป็นของ Pirates of the Caribbean: On Stranger Tides (2011) ที่ 397 ล้านเหรียญฯ อันดับ 2 คือ Waterworld (1995) นำแสดงโดย Kevin Costner ซึ่งสุดท้ายหนังเจ๊ง ลงทุนไป 271 ล้านเหรียญฯ และอันดับ 3 คือ John Carter (2012) ของ Disney ซึ่งก็เจ๊งอีกเหมือนกัน ลงทุนไป 263 ล้านเหรียญฯ