“เจ๊เพียง” นำทัพความรักสมัยใหม่ใน “อุ้มรักเกมลวง” โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์
คุณกิตติคะ คุณกิตติขา รู้ไหมว่าเดือนนี้เดือนอะไรค๊า เดือนนี้ไม่ใช่เดือนมิถุนายนธรรมดา แต่เป็นเดือนที่ทั่วโลกกำหนดให้เป็นเดือนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเพศหลากหลาย หรือ Pride Month นั่นเองค่ะ ว้าวว้าว แน่นอน เหยี่ยวเทยก็ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิและความหลากหลายทางเพศต่อไป จนกว่าเหล่าเทยจะเกรียงไกรในแผ่นดินค่ะ
และวันนี้เทยขอส่งหนึ่งเจ๊นำทัพ กับละครที่เพิ่งจบไปอย่าง อุ้มรักเกมลวง กับหนึ่งตัวละครเพศหลากหลายที่อยู่ในเรื่องนี้อย่าง “เจ๊เพียง”
อุ้มรักเกมลวง เป็นบทประพันธ์ของ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ โดยเป็นเรื่องราวแนวดราม่า-โรแมนติก ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคนสมัยใหม่อันชุลมุนคนของ “เกี้ยว” ผู้จัดละครสุดเหวี่ยงวีน ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุ้มท้องกับ “เพียงพันแสง” หรือ “เจ๊เพียง” เพื่อนรักเพื่อนเกย์ของนาง ซึ่งใช้วิธีผสมเทียมอสุจิของเจ๊เข้ากับไข่ของเกี้ยว คือแบบ ทันโลกทันสมัยมากแม่ แต่ทว่าบุญบาปค่ะเธอ คลินิกที่ทั้งคู่ไปทำผสมเทียม ดันอ๊อง สลับตัวอ่อนของชีเกี้ยวกับ “ปิ่น” ภรรยาของแฟนเก่าของชีอย่าง “สิบทิศ” ซะงั้น
ก็คือว่า ชีต้องมาอุ้มลูกให้แฟนเก่ากับเมียคนปัจจุบันของเค้า แถมความผิดพลาดของคลินิก ก็ต้องบีบให้สองครอบครัว สี่ตัวละครต้องผันผ่านกลับมาเจอกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็กำลังอุ้มบุญลูกของอีกฝ่ายอยู่
เอ๊าว่าบาป อีกก้าวของละครไทยเว่อร์
แน่นอนว่าความซับซ้อนของตัวละครและความสัมพันธ์ นำไปสู่การไม่ลงรอยกัน ไม่ไว้ใจกัน ใครยังหลงเหลือเยื่อใย ใครยังไม่ก้าวต่อไป ใครยังรักคนเก่า ใครยังไม่พร้อมจะมีคนใหม่ ก็ยิ่งทำให้ละครเรื่องนี้มีสีสันสุดอรรถรสมากแม่
ซึ่งหากจะมองกันในเลนส์ของชาวเรา เพศหลากหลายแล้ว ตัวละคร “เพียงพันแสง” หรือ “เจ๊เพียง” ของเราเนี่ย น่าสนใจเอามากๆ เลยนะคะ เพราะเจ๊เพียง ได้ทลายกรอบของภาพจำตัวละครชาวเกย์ไปสู่อีกขั้นของสื่อละครไทยแล้วค่ะ
“เจ๊เพียง” เป็นเพื่อนสนิทของเกี้ยว แม้ว่าเจ๊จะเป็นเกย์ แต่บทของเรื่องนี้ ก็ไม่ได้บีบให้เจ๊ต้องเป็นตัวตลก ออกมาวี๊ดว้าย ออกมาด่าๆ แล้วก็จากไป แต่เจ๊เพียง ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวละครหลัก เจ๊มีงานมีการทำ แถมเป็นมนุษย์ทำงานที่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเกี้ยว ตัวเอกของเรื่องเสียด้วย และเธอลองคิดดูสิคะ เจ๊เพียงก็ต้องมีข้อตกลงที่แฟร์ประมาณนึงเลยนะเธอ ถึงจะตอบตกลงมอบสเปิร์มของตัวเอง เพื่อไปทำผสมเทียมกับไข่ของเพื่อนสนิทได้ และวางแผนที่จะสร้างครอบครัวในแบบฉบับของตัวเอง
รูปแบบครอบครัวสมัยใหม่ ที่ไม่ยึดอยู่กับกรอบเพศ นับเป็นสิ่งใหม่ในสังคมไทย มีเพียงละครไม่กี่เรื่องเท่านั้น ที่จะพาคนดูไปสำรวจการกระทำของตัวละครที่ไม่ใช่ชายหญิง ไม่ได้อยู่ในกรอบของคู่ผัวตัวเมีย หรือผัวมีชู้ ส่วนเมียแบ่งลำดับขั้นเมียหลวงเมียน้อย แต่ความสัมพันธ์ของเกี้ยวและเจ๊เพียง เป็นความสัมพันธ์ที่เรียกได้ว่าเป็น “Partnership” หรือ “คู่ชีวิต” ที่ตกลงจะออกแบบความสัมพันธ์และครอบครัวกันเอง
แม้ว่าชีเกี้ยว จะกลับไปอ่อนไหวกับ สิบทิศ แฟนเก่าของตัวเธออีก เพราะดันไปอุ้มท้องให้ลูกของเขา แต่เจ๊เพียง ก็ปล่อยให้มันเป็นการัดสินใจของเพื่อน ว่าจะตัดใจหรือไม่ตัดใจ แถมนางก็ยังวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ต้องแอ๊บแมนเพื่อรักษาความลับก็คือแอ๊บเพราะจะรักษาความสัมพันธ์ไว้ และเมื่อถึงจุดที่จะไม่แอ๊บ ก็คือไม่แอ๊บ และที่สำคัญ เจ๊เพียงยังพยายามทำให้ทุกๆ ตัวละครรอบตัวเธอลงตัวไปทีละนิดด้วย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เอาตัวเองออกจากปัญหาที่ซับซ้อนให้น้อยที่สุด
เกย์วัยทำงานในโลกแห่งความจริง มีอะไรต้องทำ ต้องจัดการเยอะเหมือนกันนะคุณขา และเจ๊เพียงของเรา ก็สะท้อนให้เห็นความเป็นมนุษย์เพศหลากหลายที่ลงตัวมากเสียด้วย และบทเจ๊ของเราจะปิ๊งเข้ากับหมอเจษ ก็คือปิ๊ง และชื่นชมในความจริงจังของคุณหมอในการดูแลเกี้ยว ไม่ใช่ออกอาการหื่นกระหายกับผู้ชาย ชนิดที่ว่าประหนึ่งจะกลืนกินอะไรเขาไปทั้งตัวเสียอย่างนั้น
คือเจ๊เพียง เป็นเกย์ที่เป็นมนุษย์ ที่มีความคิด มีสิทธิที่จะออกแบบครอบครัว เป็นคนทำงาน และไม่ใช่เครื่องจักรหื่นกามผู้ชาย
นี่เป็นก้าวสำคัญมากๆ เลยนะเออ
เอาล่ะ ตัดมาที่ความสัมพันธ์ของคู่ชายหญิงกันบ้าง การชิงรัก ชิงความสัมพันธ์ และค้นหาความหมายของการมีครอบครัว ทางฝั่งสี่เศร้าเขาก็จัดการกันไป ควาน่าสนใจก็คือละครเรื่องนี้ไม่มีตำแหน่งตัวอิจฉา ที่ออกมาแย่งผัวแล้ววี๊ดๆๆๆ แต่นี่คือความสัมพันธ์ที่เดิมพันกับความความรู้สึกอันซับซ้อนของผู้หญิงที่กำลังจะกลายเป็นแม่ และไม่ใช่แม่ธรรมดา แต่เป็นแม่ของลูกที่ไม่ใช่ไข่ของตัวเอง ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข แต่เป็นลูกที่อุ้มบุญมาเกิดเท่านั้น เพียงแต่ความสัมพันธ์ที่เหนือกว่าตัวอ่อนที่ฝากอยู่ในท้องต่างหาก ที่มันดราม่า
แม้แต่ในเลนส์ของคู่ชายหญิง การตั้งคำถามกับกรอบความเชื่อเรื่องครอบครัวแบบไทย ที่ว่าเมื่อชายหญิงมีอายุถึงประมาณหนึ่ง ต่างฝ่ายก็ต่างต้องหาผู้หญิงหรือผู้ชายดีดีซักคน แต่งงาน มีลูก ถือครองครอบครัวอันมีความสุขไปชั่วชีวิต แต่อุ้มรักเกมลวง พาเราไปเจออะไรที่ทันสมัยกว่านั้น ครอบครัวของสิบทิศและปิ่น ยังคงเป็นภาพแทนของครอบครัวอุดมคติที่คนไทยคุ้นชินอยู่เดิมแล้ว ซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามกับคู่ของเกี้ยวและเจ๊เพียง ที่กลายเป็นคนสมัยใหม่สุดขั้ว ทำงานทำงานทำงาน และเลือกจะใช้ชีวิตที่ออกแบบเองได้
และแน่นอนค่ะ เราไม่พูดถึงตัวละครนี้กันไม่ได้เลย “หมอเจษ” กับความหล่อที่ทะลุจอเหลือร้าย ทำเอาเยอ่อนระทวย เลือกไม่ถูกเลยระหว่างพี่ป้องสิบทิศกับหมอ บิดม้วนต้วนเป็นเลขแปดทุกครั้ง ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเจ๊เพียงเสียเอง แล่นเรือหมอเจษ-เจ๊เพียง อย่างรุนแรง แต่ก็มาตายสนิทกับประโยค “ขอให้ผมอยู่กินกาแฟด้วยทุกเช้าได้ไหม”
ประโยคนี้บอกอะไรเราหลายอย่างเลยนะคะคุณขา
เพราะนี่คือประโยคที่เป็นตัวแทนของผู้ชายที่เหมาะกับเกี้ยวที่สุดแล้ว เธอเป็น Working Woman ไม่ใช่แบบปิ่นที่กำลังรับบทเป็นภรรยา เธออยากจะได้ผู้ชายที่ร่วมออกแบบชีวิตที่เหมาะสมไปกับเธอ เจ๊เพียงเคยทำสิ่งนั้นมาแล้ว ในขณะที่หมอเจษที่ก็มีตารางชีวิตแน่นของความเป็นหมอ และไม่ขออะไรไปมากกว่าอยู่กินกาแฟด้วยกันตอนเช้าและออกไปทำงาน
เพราะในโลกปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างกัน มันก็ต้องการแค่นี้เองแหละเธอ
ช่างเป็นละครที่เหมาะกับการหาดูหาชมย้อนหลังในเดือน Pride Month ที่ว่ากันด้วยความหลากหลายทางเพศเหลือเกินนะเธอเอ็ย นี่แหละ โลกที่หมุนไปข้างหน้าของมนุษย์เรา ความรักความสัมพันธ์มันก็มีการปรับตัวตามเช่นกัน
เหยี่ยวเทย รายงาน
อัลบั้มภาพ 41 ภาพ