[รีวิว] Guns Akimbo โทษที..มือพี่ไม่ว่าง - กาวเต็มขั้น มันส์เต็มสูบ

[รีวิว] Guns Akimbo โทษที..มือพี่ไม่ว่าง - กาวเต็มขั้น มันส์เต็มสูบ

[รีวิว] Guns Akimbo โทษที..มือพี่ไม่ว่าง - กาวเต็มขั้น มันส์เต็มสูบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลัง Harry Potter หนทางการแสดงของ แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงค้นหาตัวตนในฐานะนักแสดงคุณภาพโดยไร้เงาพ่อมดน้อยของ เจ เค โรลลิง เป็นเครื่องการันตีความดังเหมือนเคยทั้งหนังสยองขวัญอย่าง The Woman in Black (2011) แนวดรามาเข้ม ๆ อย่าง Imperium (2016) แต่บทที่สร้างความฮือฮาที่แท้จริงกลับเป็นบทประหลาด ๆ อย่างเด็กหนุ่มมีเขาสุดอำมหิตใน Horn (2013) และซอมบี้จอมตดใน Swiss Army Man (2016) และหากใครคิดถึงเขาในบทประหลาด ๆ ล่ะก็ Guns Akimbo คือโปรแกรมที่ไม่ควรพลาด

Daniel Radcliffe as Miles

โดยหนังเปิดเรื่องมาด้วยฉากบู๊ระห่ำ ยิงกันหูดับตับไหม้ เพื่อแนะนำให้เรารู้จักกับตัวละคร นิกซ์ (ซามารา วีฟวิง) นักฆ่าสาวสุดเฉี่ยว โหด และโรคจิตแบบศรีธันยาคงเอาไม่อยู่ เธอกลายเป็นเบอร์หนึ่งของหมากในเกมสุดโหดที่จับคนมาฆ่ากันถ่ายทอดสดในนาม สกิสซึม โดยเหตุการณ์ข้างต้นบอกเล่าผ่าน ไมล์ส (แดเนียล แรดคลิฟฟ์) พนักงานบริษัทไอทีชีวิตบัดซบที่หาความตื่นเต้นจากเกมอำมหิตดัวกล่าว

จนกระทั่งความมือบอนของเขาทำให้เหล่าอาชญากรตัวเอ้แห่งสกิสซึมบุกมาถึงห้องแล้วตอกตะปูมือทั้งสองข้างของเขาเข้ากับปืนพร้อมกระสุนข้างละ 50 นัดโดย ไมล์ส ต้องตามฆ่า นิกซ์ ให้ได้ก่อนพวกมันจะกลับมาเจาะกระโหลกเขาแทน แถมความซวยยังมาเยือนเมื่อเขาต้องไปตามนัดกับ โนวา (นาตาชา หลิว บอร์ดิซโซ) หวานใจสุดสวยแถมยังต้องหลบห่ากระสุนจาก นิกซ์ ที่ได้ภารกิจให้ฆ่าเขาเพื่อแลกกับอิสรภาพเช่นกัน

จากตัวอย่างหนังเราคงพอเดา ๆ ได้แหละว่าผู้กำกับจะต้องผ่านงานสายสเปเชียล เอฟเฟกต์มาก่อน และก็จริงดังว่า เพราะ เจสัน เล โฮว์เดน เคยอยู่เบื้อหลังงานวิช่วลเอฟเฟกต์หนังดัง ๆ ทั้งหนังมาร์เวลอย่าง The Avengers (2012) หรือหนังชุด The Hobbit และด้วยความขยันทำหนังสั้นออกมาเพื่อลับฝีมืออยู่เนือง ๆ จนกระทั่งได้ทำหนังยาวเรื่องแรกอย่าง Deathgasm (2015) หนังร็อกเกอร์ปะทะปีศาจที่บ้าและกาวได้ใจคอหนังคัลต์ และนั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเล่าเรื่องราวใน Guns Akimbo ได้บ้าระห่ำขนาดนี้

Samara Weaving as Nix

เอาเข้าจริงตัวพลอตเรื่องว่าด้วยการจับคนมาฆ่ากันก็ไม่ใช่ของใหม่ อย่างหนังสร้างชื่ออาร์โนลด์ ชวาร์ตเซเนกเกอร์ อย่าง Running Man ที่มีมาแต่ปี 1987 ก็ใช้พลอตดังกล่าวมาแล้วร่วม 30 ปีและมีหนังในแนวเดียวกันเดินตามมานับไม่ถ้วน ดังนั้นสิ่งที่เป็นไม้เด็ดจริง ๆ คือการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครและการกำกับให้หนังออกมาน่าตื่นเต้นและสดใหม่ของ เจสัน เล โฮว์เดน ที่คิดพลอตออกมากระเทาะเปลือกโลกโซเชียลที่เสพย์ติดความรุนแรงกันอย่างบ้าคลั่ง

ดังนั้นการที่หนังสร้างตัวละครไมลส์ให้กลายเป็นหนุ่มออฟฟิศขี้แพ้และใช้สกิสซึมเพื่อหลบหนีชีวิตเส็งเคร็งของตัวเองเลยเป็นการสร้างตัวละครที่คนส่วนใหญ่เชื่อมโยงได้ไม่ยาก และยิ่งหนังดำเนินเรื่องไปก็ยิ่งทำให้เห็นว่าบรรดาคนที่ติดตาม สกิสซึม มีทุกระดับอาชีพและเป็นกระแสที่ใคร ๆ ก็พูดถึง ซึ่งเท่ากับว่าบทหนังได้ชี้ชวนให้เรามองคอนเทนต์ไวรอลเน้นขายความรุนแรงก็ไม่ต่างจากเชื้อโรคร้ายที่แพร่กระจายในอินเตอร์เน็ตไปโดยปริยาย และผู้คนในโลกความเป็นจริงก็ชอบเสพย์ความรุนแรงไม่ต่างจากสกิสซึมเสียด้วยสิ

แต่ก็ใช่ว่าหนังจะพาเราไปวิพากษ์ความรุนแรงในโซเชียลกันอย่างเอาจริงเอาจังนะครับ ตรงกันข้ามกว่า 80% ของหนังคือการอัดฉากแอ็คชั่นและมุกตลกเสียดสีเข้ามาเย้ยหยันชีวิตพระเอกเต็มที่ เพราะลำพังแค่จะใส่กางเกงยังลำบากเพื่อไม่ให้ปืนเป่ากบาลดับอนาถแล้ว ยังต้องมาหนีการตามล่าจากมือปืนสาวบ้าดีเดือด และโรคจิตแบบไม่บันยะบังยังอีกต่างหาก แถมดู ๆ ไปทั้งคู่ดั๊นมีเคมีบางอย่างที่เข้ากันเสียอีก จนทำให้ฉากการตามล่า เอาตายของทั้งคู่เต็มไปด้วยความบันเทิงจากบทพูดสุดแสบและการแสดงที่เปี่ยมสีสัน

ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยว่าทั้ง แดเนียล แรดคลิฟฟ์ และ ซามารา วีฟวิง รับส่งบทและเปล่งประกายเสน่ห์กันได้ดีเหลือเกิน ในรายแรกคงไม่ต้องบอกอยู่แล้วว่างานนี้ แรดคลิฟฟ์ บ้าและเมากาวไปกับหนังแค่ไหน แต่สำหรับซามารา วีฟวิง ลูกสาวคนสวยของ ฮิวโก วีฟวิง หรือเอเจนต์สมิธแห่ง The Matrix ที่งานนี้แปลงโฉมจนจำแทบไม่ได้ แต่ต่อให้ลดความสวยลงแต่เสน่ห์เธอก็ยังเปล่งประกายทั้งความคลั่งและความเดือดของฉากบู๊ต่าง ๆ ที่เล่นได้น่าจดจำไม่น้อยเลย

Natasha Liu Bordizzo as Nova

และสำหรับหนุ่ม ๆ ต้องบอกว่าในเรื่องนี้ไม่ได้มีสาวสวยแค่คนเดียว แต่การปรากฎกายของ นาตาชา หลิว บอร์ดิซโซ สาวลูกครึ่งจีน อิตาเลียน (แต่ถือสัญชาติ ออสเตรเลีย) ยังมาทำให้หัวใจหวั่นไหวกันต่อเนื่องหลังปรากฎตัวในซีรีส์ Society ของ Netflix มาแล้ว ซึ่งบทของเธอแม้จะเป็นนางเอกหวาน ๆ แต่ก็แอบซ่าด้วยสีผมสุดแสบสันต์เข้ากับใบหน้าเก๋ ๆ ของเธอได้เป็นอย่างดี

แต่ก็ใช่ว่าหนังจะไม่มีข้อบกพร่องเสียเลย ในเมื่อหนังเลือกจะเล่าโดยยึดคอนเซปต์ของเกมเป็นหลัก ดังนั้นคาแรกเตอร์ของตัวละครทุกตัวก็จะแบน ๆ ไปหมด แม้แต่ ไมลส์ กับ นิกซ์ ที่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่องก็จะคงคาแรกเตอร์เดิมตลอด แม้ว่าจะมีการใส่จุดหักมุมเข้ามาช่วงท้ายเรื่องแต่ก็ดูจับยัดมากกว่าจะสมเหตุสมผล และแทบไม่มีผลต่อการเล่าเรื่องเท่าใดนัก ยังดีที่หนังเองก็รู้ตัวและเลือกเอ็นเตอร์เทนคนดูด้วยฉากแอ็คชั่นมุกตลกกาว ๆ มากกว่าจะไปเน้นดราม่า ซึ่งก็ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีเลยครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook