Bad Boys: Ride or Die การกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรี ของ "วิลล์ สมิธ"
กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ "วิลล์ สมิธ" Bad Boys: Ride or Die ขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา
แท็ก
กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ "วิลล์ สมิธ" Bad Boys: Ride or Die ขึ้นแท่นหนังทำเงินอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา
เปิดภาพเบื้องหลัง Bad Boys: Ride or Die คู่หูขวางนรก : ลุยต่อให้โลกจำ เทคนิคการถ่ายทำฉากของ วิลล์ สมิธ โดยใช้ Snorricam สร้างภาพจากมุมมองของบุคคลที่หนึ่งคล้ายกับการเล่นวิดีโอเกมยิงปืน
วิลล์ สมิธ ฝากถึงแฟนๆ ว่า เขายอมรับถ้าแฟนๆ จะไม่ดูหนังของเขาอีกแล้ว แต่อยากให้นึกถึงนักแสดงท่านอื่นที่ร่วมงานกับเขาที่อาจได้รับผลกระทบไปด้วย
คนวงในเผยว่า Chris Rock ไม่คิดที่จะติดต่อกลับไปหา Will Smith เลย แม้จะได้รับการขอโทษแล้วก็ตาม
ตั้งแต่มีคดีหมิ่นประมาทของ จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) กับ แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) อดีตคู่สามี-ภรรยาที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาอย่างยาวนานนั้น ดาราส่วนใหญ่มักจะเลือกไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ เพราะกลัวว่าจะโดนกระแสโจมตีจากประเด็นที่อ่อนไหว และทุกคนก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรกับมัน ยกเว้นก็เสียแต่ คริส ร็อก (Chris Rock) เดี่ยวไม่โครโฟนฝีปากกล้าผู้ท้าแซวทุกคน
โรส ร็อก (Rose Rock) แม่ของ คริส ร็อก (Chris Rock) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่ วิลล์ สมิธ (Will Smith) ตบหน้าคริสกลางเวทีออสการ์ จนถึงทุกวันนี้วิลล์ก็ไม่เคยโทรมาหรือส่งข้อความมาขอโทษลูกชายของเธอเลยสักครั้ง
จากเหตุการณ์ที่เป็นที่พูดถึงกันทั่วโลกที่ วิลล์ สมิธ (Will Smith) นักแสดงนำยอดเยี่ยมจากเรื่อง 'King Richard' ได้ลุกขึ้นไปตบ คริส ร็อก (Chris Rock) พิธีกรบนเวทีออสการ์ครั้งที่ 94 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา วันนี้ทางสถาบัน Academy of Motion Picture Arts and Sciences ได้ตัดสินบทลงโทษแล้ว ที่จะแบนสมิธจากการร่วมงานไปอีก 10 ปี
วิลล์ สมิธ ได้ออกมาขอโทษต่อคณะกรรมการของสถาบัน Academy of Motion Picture Arts and Sciences ซึ่งเป็นผู้จัดงานประกาศรางวัล 'Academy Award' หรือออสการ์ (Oscar) อย่างจริงใจ พร้อมกับประกาศลาออกจากความเป็นสมาชิกของสถาบัน และจะยอมรับผลที่ตามมาทั้งหมดตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
โปรเจ็กต์ 'Bad Boys 4' ได้ถูกระงับลงชั่วคราว ซึ่งเป็นผลมาจากที่ วิลล์ สมิธ (Will Smith) ได้ตบหน้า คริส ร็อก (Chris Rock) บนเวทีงานประกาศรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 94
งานประกาศผลรางวัลออสการ์ผ่านพ้นไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย แม้ดราม่าบนเวทีจะกลบ “ชัยชนะ” ของเหล่าภาพยนตร์คุณภาพไปบ้างก็ตาม แต่เราไม่อยากให้คุณพลาดชมบรรดาหนังดีๆที่คว้ารางวัลไป มาลองดูกันว่าคุณจะหาภาพยนตร์ที่ได้รางวัลในสาขาต่างๆชมได้ทางช่องทางใดกันบ้าง
เหตุการณ์ “วิลล์ สมิธ ตบหน้า คริส ร็อก” กลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกโซเชียลไปทั่วโลก ตามมาด้วยข้อถกเถียงว่าใครกันแน่ที่ผิด ใครกันแน่ที่ถูก หรือใครกันแน่ที่ผิดกว่า
หลังเหตุการณ์สุดช็อกบนเวทีออสการ์ 2022 ล่าสุด วิลล์ สมิธ (Will Smith) ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษ คริส ร็อก (Chris Rock) แล้ว สมิธ โพสต์ภาพข้อความลงบนอินสตาแกรมส่วนตัวแล้ว
งานประกาศรางวัลที่หนังเรื่องไหนก็ไม่อยากได้ กลับมาอีกครั้ง โดยในปีนี้การประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลนั้น ถูกจัดขึ้นทางออนไลน์เป็นคลิปวิดีโอความยาว 6 นาที ในออฟฟิเชียล ชาร์แนลของ Razzie Channel ในสไตล์ยียวนกวนประสาท โดย Sanook เราแปะวีดีโอประกาศรางวัลไว้ในตอนท้ายของบทความนี้แล้วนะ
แม้ว่างานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 จะน่าเบื่อแค่ไหนก็ตาม แต่โมเมนต์ช็อกโลกประจำปีนี้คงหนีไม่พ้น ห้วงจังหวะที่วิลล์ สมิธลุกขึ้นไปตบหน้าคริส ร็อก หลังยิงไม่ตลกไม่ชวนขำเกี่ยวกับเจดา พิงคิตต์ สมิธ ภรรยาของวิลล์ ก่อนที่ไม่กี่ช่วงการประกาศรางวัลในสาขาถัดมา สาขานักแสดงนำชายตกเป็นของวิลล์ สมิธ จนกลายเป็นว่าคนแทบจะไม่โฟกัสกับผลรางวัลของปีนี้แล้วด้วยซ้ำไป จนมัวสนใจกับข่าว “ตบหน้า” ทั้งที่จริง หนังที่วิลล์ได้รางวัลมาก็เป็นหนังเกี่ยวกับ “ลูกตบ” เช่นกัน
คริส ร็อก ล้อทรงผม เจดา พิงคิตต์ สมิธ ว่าเหมือนหนัง G.I. Jane 2 วิลล์ สมิธจึงเดินขึ้นไปตบหน้าจังๆ เสียงดังสนั่น ท่ามกลางความงุนงงของคนทั้งฮอลล์
สรุปผลรางวัลออสการ์ 2022 ใครจะคว้ารางวัลกลับไปนอนกอดที่บ้านบ้าง ไปดูกัน!
ประกาศล่าช้า แต่ก็ยังประกาศนะ สำหรับเวที Razzie Award ครั้งที่ 40 ในปีนี้ผลรางวัลออกล่าช้าไปเกือบ 1 เดือนเต็ม เพราะปกติแล้วเวทีนี้มักจะประกาศผลรางวัลก่อนเวทีออสการ์ 1 วัน แต่ปีนี้ออสการ์ประกาศกันจบไปแล้วเกือบเดือน (ประกาศ Razzie Award ล่าช้าไป 16 วัน) ซึ่งในปีนี้เดิมทีมีพิธีประกาศรางวัลที่โรงละคร บาร์ดัลในลอสแองเจอลิส แต่จำเป็นต้องยกเลิกไปเนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้เหลือแค่การประกาศผลทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
เริ่มต้นเดือนมกราคมด้วยหลากหลายหนังฟอร์มยักษ์ที่คุณต้องไม่พลาด และนี่คือ 5 เรื่องเด็ดที่คุณต้องชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น!
Will Smith คือเจ้าพ่อหนังทำเงินที่สุดคนหนึ่งโดยเฉพาะในยุค 90 ต่อเนื่องมาถึงยุคก่อนปี 2010 เรื่องไหนเรื่องนั้น มักจะดังและได้ชื่อของเขา ไปพ่ะยี่ห้อการันตีความสนุกของหนังจนคนดูเชื่อใจ ตีตั๋วเข้าโรงเสมอ จนกระทั่งมาหลังๆ นี่เอง ที่เขาไปรับงานหนังที่ไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้มากขึ้น ส่งผลให้บารมีของการเป็นดาราค่าตัวแพงลดลงไปบ้าง แต่ถ้าไม่มองแง่ร้ายเกินไป หนังที่ไม่ค่อยได้เงินของ Smith ของแค่หนังที่สนุกน้อย ไม่ใช่ไม่สนุกเลย
เล่นก็ไม่ยาก แถมชื่อที่ออกมายังเท่ไม่เหมือนใครอีกด้วย