สุดยอดเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยที่พาหนังดังไปด้วย | Sanook Music

สุดยอดเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยที่พาหนังดังไปด้วย

สุดยอดเพลงประกอบภาพยนตร์ไทยที่พาหนังดังไปด้วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพลงประกอบภาพยนตร์เป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมหนังให้น่าสนใจขึ้น ดูดีขึ้น และบางคนรักหนังบางเรื่องเพราะเพลงประกอบภาพยนตร์ของหนังเลยก็มี

หนังไทยเอง ก็มีหนังหลายเรื่องที่มีเพลงประกอบภาพยนตร์ที่โดดเด่น บางเพลงแต่งขึ้นมาใหม่ บางเพลงเป็นเพลงเก่าที่เอามาทำใหม่บ้าง ใช้ต้นฉบับเลยบ้าง หลายๆ เพลงก็ไม่ใช่เพลงที่ดัง แต่พอมาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์กลับดังระเบิดไปเลยก็มีเช่นกัน

เราลองมาทบทวนกันดูครับ ว่ามีเพลงอะไรบ้างที่ใช้ประกอบภาพยนตร์แล้วส่งเสริมภาพยนตร์ได้ดีมาก

ภาพยนตร์เรื่อง “เพื่อนสนิท

เพลง “ช่างไม่รู้เลย

ต้นฉบับโดย ตั้ม สมประสงค์

ร้องใหม่โดย  บอย พีชเมคเกอร์

"ช่างไม่รู้เลย" / บอย พีซเมคเกอร์

ด้วยเนื้อหาของหนังที่แอบรักเพื่อนสนิทที่เรียนในห้องเดียวกัน แต่ก็ได้แต่เก็บไว้คนเดียว ไม่เคยบอกใคร ซึ่งเข้ากับเนื้อหาของเพลงมากๆ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงของ ตั้ม สมประสงค์ และเวอร์ชั่นที่ประกอบภาพยนตร์มีการนำมาร้องใหม่โดย บอย พีชเมคเกอร์

 

ภาพยนตร์เรื่อง “กวน มึน โฮ

เพลง “ยินดีที่ไม่รู้จัก” โดย 25Hours

"ยินดีที่ไม่รู้จัก" / 25Hours

ในเนื้อหาของหนังเป็นเรื่องของชายหนุ่มและหญิงสาวที่ไปเจอกันที่ประเทศเกาหลี ทั้งสองคนตกลงกันว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้จักชื่อกัน ทั้งสองจึงใช้เวลาอยู่ด้วยกันในเกาหลีโดยไม่รู้จักชื่อกันเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์โดยวง 25Hours ชื่อเพลงว่า “ยินดีที่ไม่รู้จัก” แค่ชื่อเพลงก็ตรงกับเนื้อหาเป๊ะๆ แล้ว

 

ภาพยนตร์เรื่อง “Suck Seed ห่วยขั้นเทพ

เพลง “ทุ้มอยู่ในใจ” โดย Big Ass

"ทุ้มอยู่ในใจ" / Big Ass

เด็กนักเรียนเกรียนๆ สามคนกับความห่วยด้านดนตรีที่ไม่มีใครเทียบเทียม ได้ตั้งวงดนตรีขึ้นเพื่อประกวดวงดนตรี แต่หนทางที่เป็นอุปสรรคคืออีกวงที่เข้าแข่งด้วยเช่นกันที่มีฝีมือสูงส่งกว่ากันมาก สำหรับเพลงประกอบที่ชื่อ “ทุ้มอยู่ในใจ” ก็เพราะว่าพระเอกมีตำแหน่งในวงคือเล่น Bass ที่มีเสียงทุ้มนั่นเอง

"เพลงที่ฉันไม่ได้แต่ง" / No More Tear

และภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็มีอีกเพลงที่ดังไม่แพ้กัน คือ “เพลงที่ฉันไม่ได้แต่ง” โดยวง “No More Tear”  ในเนื้อเรื่องนั้น เป็นเพลงที่พระเอกแต่งขึ้นมา โดยมีโจทย์ว่า เป็นเพลงรัก ที่ห้ามมีคำว่า “รัก” จึงได้เพลงนี้มา แต่มีเหตุบางอย่าง ทำให้เพลงนี้ไปอยู่กับวงของคู่แข่ง ซึ่งนางเอกเป็นมือกีต้าร์และนำร้องนำอยู่นั่นเอง

 

ภาพยนตร์เรื่อง “พี่มาก..พระโขนง”

เพลง “อยากหยุดเวลา

ต้นฉบับ ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์

ร้องใหม่โดย อีฟ ปานเจริญ (ปาล์มมี่)

"อยากหยุดเวลา" / ปาล์มมี่

เรื่องราวของแม่นาก (ในหนังใช้ ก.ไก่ ต่างจากเวอร์ชั่นอื่นที่เป็น ค.ควาย) และพี่มาก เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีถึงความรักที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม แต่อยู่คนละภพ จึงเกิดเรื่องราวกล่าวขานมากมาย สำหรับเพลง “อยากหยุดเวลา” ความหมายก็คือ อยากจะหยุดเวลาที่มีความสุขที่ได้อยู่ด้วยกันเอาไว้ตรงนี้ ไม่อยากให้เวลามันผ่านไป

เพลงต้นฉบับร้องโดย ศรัณย่า ส่งเสริมสวัสดิ์นั้น เป็นเพลงที่เพราะมากๆ อยู่แล้ว และเมื่อเอามาทำใหม่และร้องโดยปาล์มมี่ก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ดูหลอนๆ เข้ากับธีมหนังที่เป็นหนังผีได้เป็นอย่างดี

 

ภาพยนตร์เรื่อง “รถไฟฟ้า มาหานะเธอ

เพลง “โปรดส่งใครมารักฉันที

โดยวง Instinct

"โปรดส่งใครมารักฉันที" / Instinct

หญิงสาวออฟฟิซที่เพื่อนๆ ต่างทยอยแต่งงานกันไปหมดแล้ว มีแต่ตัวเองที่แม้แต่แฟนก็ยังไม่มี จนมาพบกับวิศวกรรถไฟฟ้า  ซึ่งเพลงประกอบภาพยนตร์นี้จะต่างจากเรื่องอื่นๆ คือไม่ได้ใช้ในภาพยนตร์ แต่ใช้ในหนังตัวอย่างเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เพลงที่ตอนเปิดตัวมา มีคนรู้จักไม่มาก ก็กลายเป็นเพลงที่ทุกคนรู้จักและร้องตามกันได้ ก็คงเพราะการตัดต่อในหนังตัวอย่าง มันเหมาะเจาะมากๆ และเคมีของหนังเข้ากับภาพยนตร์มากสุดๆ นั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook