The Voice วันแรกรอบ Blind Audition ก็มันหยดติ๋งแล้ว

เปิด Season ใหม่ของ The Voice Thailand Season 4 ที่เป็นการประเดิมโค้ชครั้งแรกของ “สิงโต นำโชค” ซึ่งเพลงเปิดตัวรายการครั้งนี้ เป็นเพลง “ต้องดีกว่าเก่า” ของ ตั้ม สมประสงค์ ซึ่งกรรมการแต่ละท่านต่างก็วาดลวดลายตามสไตล์ตัวเองบวกความร็อกเข้าไปอีกนิดหน่อย ก็เป็นเพลงที่สนุกดีเลยเชียว

และเมื่อเริ่มการประกวดรอบ Blind Audition ผู้ประกวดท่านแรกคือสาวสวย “ปลาทอง ธัญนันท์” ซึ่งได้หยิบเพลง “รักคือ” ของวงร็อกชั้นนำ “Blackhead” มาประกวด แต่เป็นอีกไตล์ ซึ่งฟังแล้วเหงาๆ เศร้าๆ และปรากฏว่ากรรมการทั้ง 4 ต่างกดปุ่มหมดทุกคนเลย และแต่ละคนก็ออกลีลาช่วงชิงนักร้องอย่างสนุกสนาน และผู้ที่ได้ “ปลาทอง” เข้าทีม คือ “โค้ชก้อง” นั่นเอง

ผู้ประกวดท่านที่ 2 คือ “น้ำเพชร อัญมณี” มาในเพลง “พรุ่งนี้ไม่สาย” ซึ่งน้ำเพชรได้เข้าประกวด The Voice ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว นับว่ามีน้ำอดน้ำทนมาก ซึ่งกรรมการก็ได้กดปุ่มเลือก 1 ท่าน คือ โค้ชคิ้ม

 

ผู้ประกวดท่านที่ 3 คือ “ฝน น้ำฝน” ซึ่งมากับเพลง “อีกสักครั้ง” ของ “มาลีวัลย์” ซึ่งมีโค้ชกดปุ่ม 3 ท่านคือ โค้ชโจอี้, โค้ชก้อง และ โค้ชสิงโต ซึ่ง “ฝน” ได้เลือกเข้าทีมของ “โค้ชสิงโต” 

ผู้ประกวดท่านที่ 4 คือ “มีนตรา อินทิรา” มากับเพลง “กระแซะเข้ามาซิ” ของ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ซึ่งโค้ชที่กดเลือกเข้าทีมีเพียงหนึ่งเดียวคือ โค้ชโจอี้ แต่หลังจากพูดคุยกัน มีนตราได้โชว์ร้องเพลงสากล ปรากฏว่าโค้ชท่านอื่นๆ เสียดายกันที่ไม่กดเลือก

ผู้ประกวดท่านที่ 5 มาแบบไม่เปิดเผยตัว ซึ่งมากับเพลง “ยังจำได้ไหม” ของ “รวงทอง ทองลั่นทม” ที่ร้องได้สไตล์เก่ามากๆ จนโค้ชคิ้ม และ โค้ชก้อง อดใจไม่ไหว ต้องกดปุ่มเลือก เข้าทีม ซึ่งเมื่อเปิดเผยใบหน้า ทุกคนก็ตกใจกัน เพราะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชายต่างหาก ที่ร้อง .. แต่ .. เดี๋ยวก่อน! “เธอ”เป็นผู้ชายที่ร้องเสียงผู้หญิงได้เพราะมากต่างหาก ซึ่งตัวเต็งที่จะได้ “โอ พรบัญชา” เข้าทีม คือ โค้ชก้อง เพราะปูทางมาดีมาก และเข้าทางสุดๆ แต่ก็ต้องพลิกโผ เมื่อสุดท้ายแล้ว “โอ” กลับเลือก “โค้ชคิ้ม” แทน โดยให้เหตุผลว่า “ผู้หญิงจะเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน” (ฮา)

ผู้ประกวดท่านที่ 6 มาจากจังหวัดสุรินทร์ “หนึ่ง มหาโยธี” ซึ่งเคยเล่นตลกมาก่อน เล่น Copy Show ของ “เสก โลโซ” และก็ได้หันมาร้องเพลงเป็นอาชีพในตอนหลัง ซึ่งได้เลือกเพลง “ยาม” ของวง “ลาบานูน” มาทำเป็นร็อกมากขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็ไม่มีกรรมการท่านไหนกดเลือกเข้าทีม โดย “โค้ชคิ้ม” ได้ให้เหตุผลว่า “ยังหาลายเซ็นตัวเองยังไม่เจอ”

ผู้ประกวดท่านที่ 7 คือ “ปืน เนติ” มาจากจังหวัด นครนายก โดยได้เลือกเพลง “รักเธอเสมอ” ของ “อัสนี วสันต์” มาร้อง โดยที่ในขณะที่ร้องนั้น “โค้ชคิ้ม” ได้กระซิบบอก “โค้ชก้อง” ว่าร้องโน้ตตรงๆ มากๆ สุดท้ายแล้ว “โค้ชก้อง” เป็นคนที่กดเลือก “ปืน” เข้าทีม

ผู้ประกวดท่านที่ 8 คือ “ไก่ อัญชุลีอร” ซึ่งเป็นผู้ประกวดที่มีอายุ 49 ปี และได้ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นครูสอนร้องเพลง และตอนมาประกวดก็ไม่แน่ใจเพราะมีแต่เด็กๆ ทั้งนั้น จะกลับบ้านดีไหม ดีทีคุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่า “อย่ากลับนะเจ๊!” ก็เลยอยู่ประกวดต่อ เพลงที่ใช้ประกวดคือเพลง Summertime ซึ่งชาว Jazz รู้จักกันดี ซึ่ง “โค้ชก้อง” และ “โค้ชโจอี้” ได้กดเลือกเข้าทีม และเมื่อหันมาแล้วนั้น “โค้ชคิ้ม” ได้พูดขึ้นมาทันทีเลยว่า นี่คือผู้ชนะการประกวดร้องเพลงของสยามกลการ ปี 2532 เลยนะ ซึ่งสุดท้ายแล้ว “ไก่ อัญชุลีอร” ได้เลือกเข้าทีม “โค้ชก้อง”

ผู้ประกวดท่านที่ 9 คือ “อาร์ อารียา” ได้ร้องเพลง “ไว้ใจได้ก๋า” ของ “ลานนา คัมมินส์” แต่ไม่มีกรรมการท่านใดกดเลือกเข้าทีม ซึ่งตอนหลัง “โค้ชสิงโต” ได้บอกว่า ร้องดีนะ ร้องเพลงเพราะ แต่มันเหมือนขาดอะไรไปอีกนิดนึง

ผู้ประกวดท่านที่ 10 คือ “เปอติ๊ด ญาดา” ซึ่งได้ตามหาความฝันไปถึงอเมริกา ทำอะไรหลายอย่างเพื่อหาความฝัน แล้วก็พบเจอว่าชอบการร้องเพลงคือสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด “เปอติ๊ด” ได้บอกว่าตนเองร้องเพลงห่วยที่สุดในรุ่น อยากไปเรียนเพิ่ม แต่ก็กลับไปเรียนไม่ได้แล้ว จึงอยากมาเรียนที่รายการ “The Voice” แทน ซึ่งเพลงที่เลือกมาร้องคือเพลง Good Times ของ Edie Brickell ซึ่งเป็นเพลงที่มี groove ที่โยกๆ กำลังสนุกเลย สุดท้ายแล้ว โค้ชทั้ง 4 ก็หันมา แล้ว “โค้ชสิงโต” ก็อดใจไม่ไหว ขอขึ้นมาแจมกีต้าร์ด้วยเลย ซึ่งสุดท้ายแล้ว “เปอติ๊ด” ก็เลือก “โค้ชโจอี้” ที่ไม่มีวี่แววว่าจะได้เข้าร่วมทีม แต่พลิกโผมาก เพราะ”เปอติ๊ด” บอกว่า เลือกมาจากบ้านแล้ว

ผลสรุปในรอบ Blind Audition วันแรกคือ โค้ชก้อง มี 3 คน (ไก่ , ปืน, ปลาทอง) , โค้ชคิ้ม มี 2 คน (โอ, น้ำเพชร) , โค้ชโจอี้ มี 2 คน (เปอติ๊ด, มีนตรา) และ โค้ชสิงโต มี 1 คน (ฝน)

ขอบคุณรูปภาพจาก Facebook The Voice Thailand