เดอะวอยซ์ รอบแสดงสด 2 ทีมคิ้ม-โจอี้ โชว์พลังเสียงกันสุดพลัง!
เดอะวอยซ์ ซีซั่น 4 รอบการแสดงสดคราวนี้ เป็นทีของทีมคิ้ม และทีมโจอี้ ที่จะส่งลูกทีมมาโชว์พลังเสียง เรียกคะแนนโหวตจากทางบ้านกันอย่างดุเดือด ชนิดที่ไม่มีใครยอมใครกันอีกครั้ง
โดยสัปดาห์นี้เปิดตัวกันด้วยเพลง “ของขวัญจากก้อนดิน” ของทีมเดอะวอยซ์ทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2558
จากนั้นก็เปิดตัว The Voice Hall of Fame ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นศิลปินแห่งชาติ ชาย เมืองสิงห์ นั่นเอง ที่ขึ้นเวทีร้องเมดเลย์เพลงฮิตของตัวเอง ที่ใครๆ ก็ร้องตามได้อย่าง “มาลัยน้ำใจ” “บ้านใกล้เรือนเคียง” “เมียพี่มีชู้” จบเพลงแล้ว ชาย เมืองสิงห์ ยังประทับใจที่ได้ขึ้นเวที เดอะวอยซ์ และยังทิ้งท้ายอีกว่า อยากจะลองแข่งแล้วขอเข้าทีมโจอี้บอย เพื่อจะได้พิสูจน์ว่า ระหว่าง “แหล่” กับ “แร๊ป” อะไรจะแซ่บกว่ากันอีกต่างหาก อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่า แก่แต่เก๋าของจริง!
เมื่อเริ่มเข้าสู่การแข่งขัน โชว์แรกเป็นโชว์จากทีมโค้ชคิ้ม หน่อยแน่-ณรัชต์หทัย ที่มากับเพลงซึ้งๆ อย่าง “ยินยอม” เสียงใส มีพลัง ผ่อนหนักเบาได้กำลังดี และส่งอารมณ์ถึงคนฟังได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้สาวหน่อยแน่ยังสวยขึ้นมาก ขนาดโค้ชก้องยังชมออกหน้าออกตาเลยล่ะ
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : หน่อยแน่ ณรัชต์หทัย – ยินยอม
คนต่อไป ปาร์ค-วัชรพงษ์ ที่มากับเพลง “เสียใจได้ยินไหม” ที่วันนี้มาในมาดหนุ่มเท่ ใส่สูทผูกไทด์ และกลิ่นอายของดนตรีแจ๊ส เสียงของหนุ่มปาร์คก็นุ่ม เต็มไปด้วยอินเนอร์ และมีพลังตามสไตล์ของลูกทีมโค้ชคิ้ม เรียกเสียงกริ๊ดและเสียงปรบมือจากคนในห้องส่งได้มากมาย โค้ชโจอี้ยังชมไม่ขาดว่าเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ “ครบเครื่อง” มากๆ
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : ปาร์ค วัชรพงษ์ – เสียใจได้ยินไหม
มาต่อกันที่ นุก-สมัชญ์ กับเพลงหล่อๆ เท่ๆ อย่าง “คนของเธอ” ที่หนุ่มนุกกล่าวว่า ขอเอามาทำในแบบของเขาเอง และเราจะได้เห็นนุกในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ จากหนุ่มฮาๆ ซื่อๆ วันนี้เขากลายเป็นหนุ่มร็อคเกอร์มาดเท่ เสียงนุ่ม เสียงต่ำก็เท่ เสียงสูงก็ถึง พร้อมกับโชว์ลากเสียงทรงพลังให้สาวๆ ในห้องส่งกริ๊ดสลบ เพราะมีช็อตเซอร์ไพรส์กอดแดนเซอร์สาวสุดสวยเสียด้วย
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : นุก สมัชญ์ – คนของเธอ
ในที่สุดก็มาถึงตัวแม่ของทีมโค้ชคิ้ม คือ อันฉี-มนัสนันท์ นักร้องสายโอเปร่า ที่ไปร่ำเรียนการร้องเพลงโอเปร่าไกลถึงเวียนนา วันนี้มากับเพลงสุดอลังการที่คุ้นเคยกันดีอย่าง “บัลลังก์เมฆ” ที่ทำเอาขนลุกเกรียวตั้งแต่ท่อนแรก ยันท่อนสุดท้าย เสียงสวยใสไร้ที่ติ เหมือนดึงคนดูเข้าไปอยู่ในละครเพลงบรอดเวย์ดีๆ สักเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ที่เซอร์ไพรสคือแนวดนตรีที่ใส่ความเป็นร็อคขึ้น บวกกับเสียงใส และไต่ระดับจนกลายเป็นโอเปร่า ที่ฟังแล้วนึงถึงวงร็อคเมทัลต่างประเทศอย่าง Evanescence หรือ Within Temptation เรียกได้ว่าสะกดคนดูได้ทุกวินาทีจริงๆ จนโค้ชโจอี้บอกได้คำเดียวว่าเป็น “เวิร์ลคลาส มิวสิคัล”
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : อันฉี มนัสนันท์ – บัลลังก์เมฆ
คั่นเวลารอโหวตด้วยการแสดงของทีมคิ้ม ด้วยเพลงเมดเลย์ “กินตับ” “แว่นฟ้อหล่อเฟี้ยว” “สาวเลยยังรอ” ที่เราได้เห็นเจนนิเฟอร์ คิ้ม ร้องเพลงลูกทุ่งสุดมัน เต้นกันสะบัด ทั้งน่ารักและสนุกกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก
ในที่สุด หลังจากเปิดโหวตให้คนที่มีคะแนนสูงสุดได้ผ่านเข้าสู่รอบไฟนอล เราก็ได้ผู้ชนะ นั่นคือ นุก-สมัชญ์ ด้วยน้ำเสียงคุณภาพระดับนักร้องมืออาชีพ บวกกับความสามารถที่โด่ดเด่นโดนใจคนดู จึงทำให้ชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ อย่างท้วมท้นไปด้วยคะแนน 46%
และแล้วก็มาถึงคราวของทีมโจอี้ เริ่มด้วยการแสดงของทีม ที่พาเราไปดูหนังจีนสุดคลาสสิกอย่าง “ชอลิ้วเฮียง” ที่ลูกทีม รวมถึงโค้ชโจอี้โชว์สกิลร้องเพลงภาษาจีน แถมยังห้อยโหนโยนสลิงกันสนุกสนาน เรียกเสียงกริ๊ดและรอยยิ้มให้กับคนดูกันถ้วนหน้า
เริ่มต้นการแข่งขันด้วยลูกทีมคนแรก ไข่มุก-รุ่งรัตน์ กับเพลง “Loving You” ที่นำมาเรียบเรียงใหม่เป็นทำนอง และเทคนิคการร้องแบบลูกทุ่ง แปลกหูแต่ไม่แปลกใจ เพราะไข่มุกทำได้ดี เฉียบคาด เก็บทุกรายละเอียด และท่อนหวีดเสียงสูงก็ทำได้ดีพอเหมาะพอเจาะ ได้ทั้งอารมณ์ลูกทุ่ง ตะวันตก และละครเพลงไปในคราวเดียวกัน
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : ไข่มุก รุ่งรัตน์ – Loving You
มาต่อกันที่สาวน้อยเปอติ๊ด-ญาดา ที่มากับเพลงเท่ๆ อย่าง “แล้วเธอ” ของวงอรอรีย์ ที่เป็นเพลงไทยเพลงแรกที่เปอติ๊ดร้องในเดอะวอยซ์ด้วย นอกจากจะเป็นเพลงไทยเพลงแรก ยังได้เห็นเปอติ๊ดร็อคอีกต่างหาก ด้วยน้ำเสียงอันมีเอกลักษณ์ และเสียงแหบต่ำเท่ทรงเสน่ห์ของเธอ ทำให้แฟนเพลงประทับใจในมุมใหม่ๆ ของสาวน้อยร่างเล็กคนนี้กันอย่างท่วมท้น
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : เปอติ๊ด ญาดา – แล้วเธอ
ถัดมาเป็น หมูแฮม-นราพงษ์ ที่มาพร้อมกับเพลง “คนกับหมา” ที่นำมาเรียบเรียงเป็นดนตรีแจ๊สย้อนยุค ที่หนุ่มหมูแฮมใส่เต็มไม่ยั้ง โชว์สกิลการเล่นเปียโน ร้องชัดถ้อยชัดคำ เร่งจังหวะให้เร็วขึ้น พีคขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การแสดงนี้สนุกจนลืมเวลาไปเลย
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : หมูแฮม นราพงษ์ – คนกับหมา
สุดท้าย ปิดการแข่งขันในรอบนี้ด้วย เบสท์-ทิฏฐินันท์ กับเพลง “ใจจะขาด” ลูกทุ่งคลาสสิก ที่ร้องได้ใจจะขาดจริงๆ ที่นำมาเรียบเรียงใหม่ เมดเล่ย์คู่กับเพลง “ตรงนู้น ตรงนั้น ตรงนี้” นอกจากเสียงทรงพลัง สะกดคนดูได้อยู่หมัด ยังมีโค้ชทั้ง 4 ร่วมแสดงในโชว์ด้วย เป้นเซอร์ไพรส์ที่ไม่มีใครละสายตาได้เลย
คลิกชม The Voice Thailand รอบ Live : เบสท์ ทิฏฐินันท์ – ใจจะขาด+ตรงนู้น ตรงนั้น ตรงนี้
หลังจากปิดโหวต ในที่สุดเราก็ได้ตัวแทนจากทีมโค้ชโจอี้ เป็น เบสท์-ทิฏฐินันท์ นั่นเอง ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ การแสดงสดที่ถึงใจ ถึงอารมณ์ และคุณภาพคับแน่นอย่างเหลือล้น จึงให้ชนะผู้เข้าแข่งขันคนอื่นไปได้ด้วยคะแนนโหวตถึง 42%
เราได้ตัวแทนจากทุกทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 4 คนสุดท้ายที่จะเข้าไปสู่รอบไฟนอล นั่นคือ ไก่-อัญชุลีอร จากทีมโค้ชก้อง, เดย์-พงศ์ธร จากทีมโค้ชสิงโต, นุก-สมัชญ์ จากทีมโค้ชคิ้ม และ เบสท์ ทิฏฐินันท์ จากทีมโค้ชโจอี้ หนึ่งในนี้จะมีเพียงผู้เดียวที่จะเป็นผู้ชนะ ได้เป็นเดอะวอยซ์ ตัวจริง เสียงจริง ประจำซีซั่นที่ 4 สัปดาห์เกาะติดบทสรุปทุกรายละเอียดกับ Sanook! Music กันได้เช่นเคย ห้ามพลาดนะคะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุ๊ค The Voice Thailand
อัลบั้มภาพ 10 ภาพ