ฝันเป็นจริง! ในที่สุดก็เอื้อมถึงของ “เด่นคุณ งามเนตร”

พระเอกหนุ่มได้มีโอกาสมาจับไมค์โชว์เพลงครั้งแรกในละคร “ดอกไม้ใต้เมฆ” เด่นคุณ งามเนตร แสดงอาการดีใจไม่น้อย แถมยังอ้อน ผู้จัด “นพพล โกมารชุน” ขอร้องเพลงประกอบละครอีกด้วย งานนี้ ก็สมใจหนุ่มหล่อกล้ามโตกันไปเด่นคุณ เล่าให้ฟังว่า.....เริ่มจากคุณพ่อเป็นครูสอนดนตรีครับ เราก็เลยมีความฝันอยากเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก ตอนเช้าเวลาไปโรงเรียนก็ยกมือไหว้ศาลพระภูมิ บอกว่า “ขอให้ได้เป็นนักร้องทีเถิด” (หัวเราะ)

พอโตมาก็เริ่มเล่นดนตรีอยากทำเพลงของตัวเองไปเสนอตามค่ายเพลงต่างๆ แต่ได้มาเป็นนักแสดงก่อน และเป็นความโชคดีที่ได้มาแสดงเรื่อง “ดอกไม้ใต้เมฆ” ซึ่งในบทต้องเล่นเป็นนักร้องด้วย “อาตู่” (นพพล โกมารชุน) ก็ส่งไปเรียนร้องเพลง เรียนเต้น เลยถือโอกาสนี้ขอร้องเพลงประกอบละคร แต่ยังไม่กล้าขอ พี่หนึ่ง (ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์)โดยตรงก็เลยขอผ่านกองละครก่อน จังหวะดีที่พี่หนึ่งกำลังคัดเลือกนักร้องพอดี ก็เลยให้ผมไปลองร้องดูก่อนปรากฏว่าได้ร้องจริง ดีใจมากเลยครับในที่สุดฝันก็เป็นจริงครับ

คลิกชมคลิปสัมภาษณ์พิเศษ "เด่นคุณ งามเนตร" ฝันอยากเป็นนักร้องแต่ชีวิตพลิกผันได้มาเป็นนักแสดง

ความหมายเพลง " เอื้อมไม่ถึง"

คือเราเป็นเจ้าชาย ทำอะไรก็ได้ เชิดสิงโต ทุกอย่างอะไร คว้าอะไรก็ถึง ก้อนเมฆก็ถึง แต่ทำไมคนรักของเราใกล้ตัวหัวใจของเธอเรายังเอื้อมไม่ถึงสักที

การร้องเพลงครั้งนี้ยากไหม

มันเป็นเพลงที่ยากมากครับ มันเป็นเพลงที่ยาก เพราะเพลงนี้เสียงสูงมาก จำไม่ได้ว่าอ็อคเทฟเท่าไหร่ คีย์เราก็ไม่ถึง ต้องตะเบ็งให้เสียงถึง ร้องนุ่มๆคือไม่ถึงแน่ คือถ้าหลบเสียงคือพอได้ คือเข้ากับคอนเซ็ปเอื้อมไม่ถึงเลย เพราะร้องเพลงก็แทบไม่ถึง

คลิกฟังเพลง เอื้อมไม่ถึง (Ost.ดอกไม้ใต้เมฆ) - เด่นคุณ งามเนตร

การแสดงและการร้องเพลงยากง่ายต่างกันไหม

คือต่างตรงที่ การแสดงใช้เครื่องมือเยอะ ใช้จิตวิญญาณ ใช้จินตนาการ ใช้ความรู้สึก ออกไม้ออกมือ ท่าทาง แต่การร้องเพลงใช้จินตนาการ แต่จะใช้พลัง ใช้เสียง ใช้ลูกคอในการควบคุมเสียงที่ออกมา จริงๆ พูดถึงมันก็มีมุมที่คล้ายกันนะครับ เรื่องการใช้จินตนาการ

ได้ยินว่าตอนแรกเด่นคุณ อยากเป็นศิลปินมานานแล้ว

คือตัวผมอยากเป็นศิลปินมาแต่ไหนแต่ไร แต่คือชีวิตตอนแรกเปลี่ยนไปเป็นนักกีฬา เป็นนักแสดง พอมาเป็นนักแสดงก็เริ่มเรียนร้องเพลง เลยเริ่มกลับมาชอบ ก็เลยเตรียมที่จะเรียนร้องเพลงเหมือนกัน

เคยคิดว่าอยากเอาเพลงไปยื่นตามค่าย
จริงๆ เป็นคนในวงนะครับ ตัวเองอยากทำแต่ได้แค่เกือบทำ เพื่อนก็เขียนเพลง ผมเองก็เขียนด้วยเขียนไปเรื่อยๆ คือเรียกได้ว่ารอบเตียงจะมีเครื่องดนตรีหมดเลย กีต้าร์ , เปียโน , เบส ตัวผมคือไม่เคยห่างเครื่องดนตรีเลย ตั้งแต่เกิดมาก็นอนกอดเครื่องดนตรีเลย

ทำไมถึงอยากเป็นนักร้อง
เมื่อก่อนไม่ได้อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นนักดนตรี แต่เริ่มมาชอบตอนเรียนการแสดง คือมันทำให้เราได้แสดงความรู้สึก คือการร้องเพลงทำให้เราร้องไห้ได้ การแสดงก็เหมือนกัน แล้วคือรู้สึกว่ามันเป็นตัวเรา ตอนนี้คือยังทำไม่ดี ในอนาคตผมจะเรียนและจะพัฒนาเรื่อยๆ

ใน IG จะอัพ คลิปเล่นกีต้าร์ , ร้องเพลง บ่อย

กีต้าร์เป็นสิ่งที่ผมถนัดอยู่แล้ว แล้วคือเล่นมานาน และผมคือมีพื้นฐานว่าถ้าผมอัพลง จะต้องไม่มีนักดนตรีว่าผมได้ และผมเล่นไปมา ล่าสุดเพื่อนก็บอกว่าก็มีศิลปินมาชมในไอจีว่าเล่นเก่ง ผมก็เลยอัพลงบ่อยๆ คือผมจะไม่ทำแค่ถ่ายรูปกับกีต้าร์แล้วอัพลง แต่ถ้าเป็นเปียโนผมเล่นได้ แต่แค่พอได้เลยไม่อัพลง จริงๆผมชอบหมดไม่แบ่งเลย แต่ถ้าผมจะโชว์ คือผมต้องเก่งจริงๆครับ

มีศิลปินที่ชื่นชอบไหม

ผมชอบเพลงร็อคนะครับ ชอบ Bring Me The Horizon ผมชอบคาแร็คเตอร์เขา การแต่งตัว เพลงที่หนัก มีอีเล็คทรอนิคมาผสม คือจริงๆฟังได้หมดทั้งแจ๊สทั้งร็อก แต่ผมมาสะดุดตากับวง Bring Me The Horizon แบบมีอีเล็คทรอนิคเข้ามา แต่ไม่เว่อร์เกินไป คือยังอยู่กับความเป็นร็อกอยู่ เป็นออกแนวประมาณ Post hard core

 

ถ้าสมมุติว่ามีซิงเกิ้ลเป็นของตัวเอง จะอยากทำเพลงแนวร็อกเลยหรือเปล่าครับ

คือผมชอบหลายๆแนว ไม่ได้ชอบเพลงแนวเดียวแต่ถนัดแนวร็อก คือถ้ามีโปรดิวเซอร์ก็อยากให้แนะนำว่าควรไปแนวทางไหนดี เพราะผมเล่นได้แต่ไม่มีทิศทางอยากหาคาแร็คเตอร์และผมเป็นนักแสดงด้วยคือมันต้องมีภาพลักษณ์อบอุ่น คือแนวเพลงอาจจะไม่เหมาะกับร็อก คืออาจจะต้องผสมผสานหรือเป็นร็อกแบบอบอุ่นหน่อย

ในตอนนี้ ถ้าให้เลือกระหว่างการเป็นนักแสดงหรือนักร้อง

ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเป็นศิลปิน แต่เดี๋ยวนี้คือขอเลือกเป็นนักแสดงเพราะผมว่ามันดีเหมือนกัน ตอนนี้ผมชอบการแสดง คือเป็นศิลปินเป็นมาตั้งแต่เด็กแต่มันไม่หลากหลาย การเป็นนักแสดงทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง เช่น การชอบการร้องเพลง การวางตัว การปรับบุคลิก เหมือนเป็นโรงเรียนที่ทำให้ผมได้โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

ผมขอฝากละคร ดอกไม้ใต้เมฆ เป็นละครที่ผมตั้งใจมาก ดราม่าโรแมนติกครบรสชาติ ตอนนี้ก็กำลังเข้มข้นเพราะช่วงความขัดแย้งครั้งที่สองที่นางเอกรู้แล้วว่าเราเป็นเจ้าชายด้วย และนางเอกก็เจอปัญหา ซึ่งเราต้องแสดงความรักออกมา  ฝากเพลง เอื้อมไม่ถึง ด้วยครับ เป็นเพลงประกอบละครที่ผมร้องเองเป็นครั้งแรกในชีวิตครับ