นี่ไง! Jess Glynne เจ้าของเพลงโฆษณา JOOX กับชีวิตศิลปินที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
หลังจากที่โฆษณา JOOX Free Music Application ฉายตามสื่อต่างๆ ก็มีคนถามหากันเข้ามากมายตามบทความรีวิวแอพ และเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Pantip ซึ่งเพลงนั้นก็มาจากศิลปินชื่อ Jess Glynne กับเพลง "Hold My Hand" นั่นเอง Sanook! Music เลยถือโอกาสนี้แนะนำให้รู้จักกับสาวเสียงดีคนนี้กันค่ะ
Jess Glynne
เจส กลีนน์ นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ มีชื่อเสียงจากเพลงดังที่ร่วมงานกับวงอิเล็คทรอนิกร่วมชาติอย่าง Clean Bandit อย่าง “Rather Be” ร่วมงานกับ Route 94 ดีเจและโปรดิวเซอร์แนวดีฟเฮาส์ชาวอังกฤษอีกเช่นเดียวกัน ในเพลง “My Love” และเพลง “Not Letting Go” กับแร๊พเปอร์ชาวอังกฤษอย่าง Tinie Tempah ซึ่งเป็นการแจ้งเกิดที่ไม่ธรรมดา เพราะทั้ง 3 เพลงขึ้นอันดับ 1 บน UK Chart ทั้งคู่ และเพลง “Rather Be” ได้รางวัล Best Dance Recording จากเวที Grammy Awards เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ อีกด้วย
คลิกฟัง Clean Bandit (Feat. Jess Glynne) - Rather Be
มาถึงงานเดี่ยวของเธอกันบ้าง หลังจากเปิดตัวซิงเกิล “Home” และ “Right Here” ก็ถือว่ากระแสตอบรับดี แต่ที่ปังที่สุดคือ “Hold My Hand” ที่เป็นเพลงประกอบโฆษณา JOOX นั่นแหละ ครองอันดับ 1 บน UK Chart ถึง 6 สัปดาห์ติดเลยทีเดียว นอกจากประกอบโฆษณา JOOX แล้ว ยังถูกใช้ประกอบโฆษณาของ Coca-Cola อีกด้วยนะ
คลิกฟัง Jess Glynne - Hold My Hand
นอกจาก “Hold My Hand” แล้ว อีกเพลงที่ยังคงความรู้สึกในแง่บวก สดใสร่าเริง ฟังแล้วรู้สึกสนุกสนานมีกำลังใจอีกเพลงคือ “Don’t Be So Hard on Yourself” ที่แน่นอนว่าขึ้นอันดับ 1 บน UK Chart ได้อีกเช่นกัน สุดท้ายอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกในชีวิต “I Cry When I Laugh” ก็ขึ้นอันดับ 1 บน UK Album Chart ได้เป็นผลสำเร็จ และซิงเกิล “Hold My Hand” ก็ได้เข้าชิง British Single of the Year ของ Brit Awards 2016 อีกด้วย
คลิกฟัง Jess Glynne - อัลบั้ม I Cry When I Laugh
กว่าจะเป็นนักร้อง...ไม่ง่าย ไม่ได้มาแค่เพราะโชคช่วย
เห็นแบบนี้ ตอนอายุ 15 ปี เธอเคยเข้าประกวดรายการเรียลลิตี้ค้นหาศิลปินหน้าใหม่ชื่อดังอย่าง The X Factor มาแล้ว แต่สุดท้ายเธอก็คิดว่าเธอไม่ได้อยากมาทางนี้ เพราะเธอคิดว่าหนทางในการเป็นศิลปินของเธอ คือเธออยากแต่งเพลง ทำเพลงเอง แต่เธอยังคงไม่ลดละความพยายามในการเป็นศิลปิน หลังจบไฮสคูล เธอก็ทำงานตามสถานที่ธรรมดาๆ อย่างฟิตเนส หรือแม้กระทั่งร้านตัดผม และออกท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ สักพัก (ตัวอย่างของเด็กฝรั่งที่ขอเที่ยวก่อนเริ่มทำงานจริงจังจริงๆ) จากนั้นก็ได้ทำงานในปริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับดนตรี จนได้รู้จักกับนักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ต่างๆ จนต่างคนต่างเห็นความสามารถของเธอ และคอยขัดเกลาฝีมือการร้องของเธอต่ออีก 4 ปี
นอกจากนี้เธอยังเข้าเรียนคอร์สดนตรีอย่างจริงจังที่ East London College อีกปีเต็มๆ เพื่อพัฒนาความรู้ด้านดนตรีให้แน่นปึ้กมากขึ้น จนสุดท้ายเธอก็ได้ทำงานเพลงอย่างที่เธอฝัน ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง Atlantic Records ในปี 2013 และตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ที่เกี่ยวกับบริหารแบรนด์สินค้าของบริษัทเครื่องดื่ม
จะเห็นได้ว่าชีวิตในการศิลปินของเธอไม่ได้ง่ายเหมือนใครหลายๆ คน ไม่ได้เป็นผู้ชนะรายการแข่งขันร้องเพลง ไม่ได้หน้าตาดีจนแมวมองมาจีบให้เข้าวงการบันเทิง ถึงแม้แม่ของเธอจะทำงานในบริษัทธุรกิจดนตรี แต่เธอก็ไม่ได้ใช้วิธีนั้นในการเดินเข้าสู่เส้นทางสายดนตรี ทั้งหมดทั้งมวลมาจากความพยายามไขว่คว้าหาโอกาสมาด้วยตัวของเธอเอง เป็นแบบอย่างให้กับใครก็ตามที่ฝันอยากเป็นศิลปินได้ดีเลยทีเดียว
____________________
Story : Jurairat N.
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ