เซอร์ไพรส์! “โรส ศิรินทิพย์” ตื้นตัน ได้ร้องเพลงต่อหน้า “David Foster”

สมกับฉายา Master of Surprises จริงๆ สำหรับ David Foster โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักดนตรี นักบรรเลงเปียโนที่มีชื่อเสียงระดับโลก เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดถึง 15 ตัว นอกจากจะได้ฟังเพลงเพราะๆ สุดคลาสสิก ชนิดที่แค่ขึ้นอินโทรด้วยเปียโน 2 วินาที คนก็ร้องอ๋อกันทั้งฮอลแล้ว friends ที่โปรดิวเซอร์อัจฉริยะคนนี้เลือกมาทัวร์ด้วยก็เจ๋งมากเสียจนไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบเลยจริงๆ

 

 

 

เปิดโชว์ด้วยสาวเสียงใส หนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลแบนด์ระดับโลกที่ไม่มีใครบนโลกนี้ไม่รู้จักอย่าง “Spice Girls” สาวเสียงดีมีเอกลักษณ์อย่าง “Melanie C” ขนเพลงเพราะของตัวเอง และของวง Spice Girls มาฝากคนไทยเพียบ ทั้ง “I Turn To You”, “2 Become 1”, “Too Much” และ “Tell Me What You Want” จากนั้นก็ผลัดเปลี่ยนอารมณ์มาที่สาวเสียงใสระดับAsia's Golden Girl อย่าง  Gerphil Forest ที่โชว์พลังเสียงโอเปร่าทั้งเพลงเดี่ยวใน “The Impossible Dream” และเพลงที่ร้องกับ “กิตตินันท์ ชินสำราญ”  หรือ กิต เดอะวอยซ์ 2 ในเพลง “The Prayer” ทำเอาคนดูตะลึงกับพลังเสียงของทั้งคู่ ตั้งแต่ต้นยันจบเพลงเลยทีเดียว

 

มาถึงช่วงฮาๆ กับเพื่อนสนิทของ David Foster อย่าง Peter Cetera ที่ขึ้นมาโชว์เพลงรักสุดหวาน ที่ใครๆ ก็ร้องตามได้อย่าง “Glory of Love” “You’re the Inspiration” “If You Leave Me Now” “Hard to Say I’m Sorry” และ “25 or 6 to 4” เสียงคนในฮอลร้องเพลงตามไปด้วย เป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ทั้งกับคนดูด้วยกันเอง และตัวศิลปินด้วยจริงๆ

 

คลิกเพื่อชม "โรส ศิรินทิพย์" ร้องเพลง Goodbye ของ Air Supply ต่อหน้า David Foster ด้านล่างเลยค่ะ

 

เหมือนอย่างที่หลายๆ คนที่เป็นแฟน David Foster จะทราบดีว่า เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ชอบเสาะหาเสียงร้อง นักร้องดีๆ เก่งๆ เขาพร้อมจะปั้นศิลปินที่เขาคิดว่ามีศักยภาพพอ ดังนั้นเขาจึงเดินฝ่าฝูงชน ยื่นไมค์ให้ร้องเพลงด้วยตัวเองกันเลยทีเดียว หนึ่งในนั้นมีนักร้องสาวเสียงแหบต่ำทรงเสน่ห์ของบ้านเราอย่าง “โรส ศิรินทิพย์” ที่ร้องเพลง “Goodbye” ของ Air Supply ได้ออกมาอย่างไพเราะจน David Foster ต้องร้องว้าว ชมว่า “Good job” เสียงดัง เรียกเสียงกรี๊ดให้คนดูทั้งไทยและต่างชาติมากมายเลยทีเดียว

 

 

จากนั้นก็ถึงทีของสาวสวยมากความสามารถ Natalie Imbruglia ที่ขึ้นไปร้องเพลง “Instant Crush” ผลงานคัฟเวอร์จาก Daft Punk feat. Julian Casablancas ก่อนที่ David จะเริ่มโยนลูก “เซอร์ไพรส์” ให้ Natalie ด้วยเพลง “Because You Love Me”ผลงานจาก Celine Dion ที่สาว Natalie ร้องได้เพราะในแบบฉบับของตัวเองมากๆ จากนั้นก็ไม่ต้องให้คนไทยร้องขอ จัดเพลงฮิตยุค 90s’ อย่าง “Torn” ให้คนดูร้องตามกันอย่างสนุกสนาน

 

 

ถ้าจะ 90s’ แล้วก็ต้อง 90s’ ให้สุด เจ้าพ่อเพลงบัลลาดร็อคสุดซึ้งอย่าง Richard Marx ขึ้นมา สาวๆ กรี๊ดเสียงดังไม่หยุด เริ่มต้นที่เพลงมันๆ อย่าง “Endless Summer Night” จากนั้นก็เปลี่ยนจากกีต้าร์ไฟฟ้ามาเป็นกีต้าร์โปร่ง เอาใจแฟนเพลงชาวไทยผู้ชื่นชอบในเพลงป็อบบัลลาดซึ้งด้วย “Now and Forever” ที่เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เวอร์ชั่นสด เพราะกว่าที่เราฟังในซีดีอีกร้อยเท่า ยังไม่พอ พี่ Richard จัดร็อคให้อีกนิดด้วย “Should have Known better” และปิดท้ายด้วยเพลงชาติที่คนในฮอลร้องตามได้ตั้งแต่ท่อนแรก ยันท่อนสุดท้ายอย่าง “Right Here Waiting” แฟนเพลงปลื้มปริ่มจนถึงขีดสุดจริงๆ

 

 

 

ปิดท้ายด้วย “Earth Song” ของราชาเพลงป็อป Michael Jackson ที่เหล่านักร้องทุกคนมาร่วมร้องด้วยกัน ทั้งเนื้อเพลง ดนตรี และเสียงร้องของแต่ละคนไพเราะ ทรงพลัง จนอยากจะฟังต่อไปเรื่อยๆ ยังไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบ แต่ความเซอร์ไพรส์ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ ถึงแม้ในฮอลจะเปิดไฟแล้ว รายชื่อสปอนเซอร์ขึ้นจอมอนิเตอร์แล้ว แต่ David Foster เดินออกมาเล่นเพลงเปียโน พากย์ฉากของหนังแต่ละฉาก เป็นของแถมเหมือนของหวานตบท้ายอาหารเลิศรสที่อยากจะทานต่อเรื่อยๆ จริงๆ

เรียกได้ว่าเพลิดเพลินทั้งเพลงเพราะ บทสนทนาที่ลื่นไหลราวกับทีวีโชว์ เซอร์ไพรส์ที่ทำให้แปลกใจตลอดช่วง และฝีมือในการรังสรรค์ดนตรีที่เขาแสดงออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แฟนเพลงยุค 80s' 90s' ไปจนถึง 2000 ต้นๆ เหมือนได้ย้อนไปสู่ช่วงที่วิทยุเปิดเพลงไหนก็เพราะไปหมด แทบจะไม่ต้องกดเปลี่ยนคลื่นเลย คนไทยโชคดีมากที่ได้ดูคอนเสิร์ตดีๆ เจ๋งๆ แบบนี้ถึง 3 ครั้ง และหวังว่าจะยังมีครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5 และครั้งต่อๆ ไปอีกนะคะ ใครอยากรู้ว่าบรรยากาศในคอนเสิร์ตจะฟินขนาดไหน ลองคลิกฟังเพลย์ลิส Song From David Foster กันได้เลย รับรองว่าคุณจะต้องรู้สึกแบบเดียวกันกับเราแน่นอน

 

 

ขอบคุณ Independent Communication Network และ Universal Music Thailand

 

____________________

Story : Jurairat N.