10 เพลงที่ “เจ๋ง” ที่สุดของ Justin Timberlake ศิลปินอัจฉริยะรอบด้าน

หากคุณเรียกตัวเองว่าเป็นเด็กยุค 90s’ และอยู่สายป็อปฝั่งอเมริกัน ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้จัก NSYNC บอยแบนด์วัยรุ่นที่มีแฟนคลับหนาแน่นมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก และแน่นอนว่าสมาชิกที่ร้องนำของวงอย่าง Justin Timberlake ก็คงเป็นหนึ่งในไม่กี่ชื่อที่คุณจะจำได้ เพราะนอกจากเขาจะมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ และทรงผมก็มีเอกลักษณ์ (แฟนคลับบ้านเราเรียก “หยอย”) เขายังเป็นอดีตไอดอลที่เคยเป็นแฟนกับ Princess of Pop อย่าง Britney Spears ด้วยยังไงล่ะ

แต่ปัจจุบันทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกัน ฝ่าย Justin Timberlake แต่งงานมีลูก มีครอบครัวที่เพอร์เฟ็คกับ Jessica Biel ดาราฮอลลีวูด และเอาดีทางด้านการแสดงไปหลายเรื่อง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่เคยลืมวงการเพลง เรียกได้ว่าเขาเป็นศิลปินอันดับต้นๆ ในลิสของอดีตสมาชิกบอยแบนด์ที่ประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินเดี่ยวเลยทีเดียว เพลงอะไรบ้างที่แจ้งเกิดให้กับเขาอย่างน่าภาคภูมิใจสุดๆ ไปดูกันเลย

 

1. What Goes Around… Comes Around

นอกจากเนื้อเพลงดี เมโลดี้เยี่ยม ดนตรีอารืแอนด์บีที่ผสมผสานกันอย่างดีระหว่างเสียงสังเคราะห์กับเครื่องสายระดับออเครสต้าย่อมๆ พร้อมด้วย กลิ่นอายละตินนิดๆ แถมความยาวของแทร็คอลังการงานสร้าง มีตั้งแต่ 5 นาทีกว่า ไปจนถึงเวอร์ชั่น 7 นาที ดังนั้นซิงเกิลนี้เราพร้อมจะขึ้นหิ้งให้เป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ดีที่สุดของหนุ่มคนนี้ไปเลย อ้อ ลืมบอกไป เอ็มวีก็ทุ่มทุนส้รางมากๆ เป็นมินิมูฟวี่ที่ได้สาว Scarlett Johansson มาเล่นให้ด้วยนะ ถึงพริกถึงขิงสุดๆ

 

2. Mirrors

นอกจากเพลงอาร์แอนด์บีจังหวะ midtempo แบบนี้จะเป็นจังหวะที่หลายคนชอบใจกันแล้ว หากได้รู้ว่าหนุ่มจัสตินร้องเพลงนี้ให้กับภรรยาสาวสุดสวย Jessica Biel ด้วย คุณจะยิ่งอิจฉาไหม? นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเพลงนี้พิเศษสำหรับคนทั้งคู่มากๆ และด้วยเนื้อเพลงที่กล่าวถึงคนรักอย่างตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย จึงเป็นเพลงบอกรักเท่ๆ ที่หนุ่มเอาไปลองใช้ดูได้เลย

 

3. Cry Me A River

ครั้งแรกที่ได้ฟังเพลงนี้ ก็รู้สึกถึงความล้ำ ความเท่ของเพลงนี้ได้ทันที นอกจากเทคนิคการร้องที่น้อยคนจะทำได้ดีเท่าหนุ่มจัสตินแล้ว จังหวะจะโคนที่ชัดเจน เสียงเอฟเฟกต์ที่เล่นเป็นแบคกราวนด์ตลอดทั้งเพลงก็ยิ่งทำให้เพลงนี้ยิ่งเท่ ไม่เหมือนใครเข้าไปกันใหญ่ เอาจริงๆ แล้วเพลงนี้ใช้ดนตรีน้อยมาก บางท่อนเราได้ยินแค่เสียงดนตรีอยางเดียว บวกกับเสียงของจัสติน และคอรัส เป็นเพลงที่ “น้อยแต่มาก” จริงๆ

 

4. Senorita

ป็อปละตินมาเต็มแบบนี้ บวกกับเสียงหอนโหนสูง ที่เป็นความสามารถพิเศษของหนุ่มจัสตินด้วยแล้ว ทำให้เพลงนี้สนุกทุกครั้งที่ร้องสดในคอนเสิร์ต แถมยังมีท่อนเบร็คดาวน์ ที่เรียกให้หนุ่มๆ สาวๆ มาร้องตามกันได้ด้วย เพราะฉะนั้นท่อนนี้ตึงกลายเป็นท่อนพีค ที่หลายๆ คนจำได้ และพร้อมจะรอร้องตามทุกครั้งที่จีสตินร้องเพลงนี้ในคอนเสิร์ต

 

5. Like I Love You

เพลงเท่ๆ เปิดตัว Justin Timberlake ในฐานะศิลปินเดี่ยว หายคนถึงกับร้องว้าว อาร์แอนด์บีเท่ๆ ที่เด่นตรงจังหวะกลอง เสียงกีต้าร์ที่คอร์ดเฉพาะของเพลงนี้ เครื่องดนตรีน้องชิ้นมากๆ แต่ทำให้เพลงนี้โชว์ศักยภาพเสียงของจัสตินได้มาก แถมยังได้ท่อนแร๊พเท่ๆ จาก Clipse ที่หลายคนแอบท่องตามได้ทั้งเพลงตอนที่เพลงนี้ออกมาใหม่ๆ แถมท่อนท้ายของเพลงยังมีเบรคดาวน์เท่ๆ อีก ลืมเพลงป็อบแมสของ NSYNC ไปได้เลยทีเดียว

 

6. Suit & Tie (Feat. Jay-Z)

Justin Timberlake สร้างความแปลกใหม่ และน่าตื่นเต้น ประหลาดใจให้กับแฟนเพลงของเขาอยู่เรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเขาจะยืนพื้นอยู่ที่อาร์แอนด์บี แต่เพลงนี้กลิ่นอายของความเป็นเรโทร จากคณะเครื่องเป่าที่มาเป็นจังหวะๆ อย่างลงตัว ใครที่ไม่ชินกับสไตล์ล้ำๆ ของเขา อาจจะรู้แปลกๆ แต่ขอบอกเลยว่าเพลงนี้งานละเอียด นอกจากสนุกสนานในช่วงต้น ยังมาสโลวดาวน์จังหวะพร้อมดับสเต็ปเอาตอนท้ายเพลง และกลับมาเป็นจังหวะเดิมได้อีก ลูกเล่นเยอะจนตามไม่ถูกเลยจริงๆ

 

7. My Love (Feat. T.I.)

ดับสเต็ปล้ำๆ มาตั้งแต่เพลงเริ่ม บวกบีทบ็อกซ์เท่ๆ แถมหนุ่มจัสตินใช้เสียงสูงที่ตัวเองถนัดได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เพลงนี้ฟังอย่างไรก็ไม่เบื่อ เขายังคงมาคอนเซ็ปต์เดิม คือเครื่องดนตรีน้อยชิ้น โชว์พลังเสียงเด่นชัด ทำให้เราเข้าใจได้ว่าเพลงที่สร้างมาจากเสียงสังเคราะห์จากในคอมพิวเตอร์ (หรือเผลอๆ Garage Band ก็ทำได้) สามารถทำเพลงเจ๋งๆ ออกมาได้เหมือนกัน

 

8. Not A Bad Thing

เห็นมีแต่อาร์แอนด์บีเท่ๆ แร๊พๆ ดับสเต็ปรัวๆ มาถึงเพลงนี้กลับกลายเป็นอาร์แอนด์บีบัลลาดที่แฟนเก่าของ NSYNC ฟังแล้วคงทำให้นึกอารมณ์เพลงเก่าๆ อย่าง “I Drive Myself Crazy” หรือ “God Must Have Spent A Little More Time On You” ขึ้นมาบ้าง แต่เป็นเวอร์ชั่นโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย ไม่เข้มไม่หวานจนเกินไป เปิดฟังได้ทั้งชายหญิงแบบไม่ต้องเขินอาย

 

9. LoveStoned/I Think She Knows

เมื่ออาร์แอนด์บีมาบวกกับจังหวะกลิ่นอายของดิสโก้เล็กๆ ทำให้ได้เพลงเก๋ๆ ที่ดูร่วมสมัยในแบบที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีการผสานเสียงกลองเหมือนชนเผ่า และเพิ่มความบัลลาดกับเสียงเปียโน และความเท่ของกีต้าร์ไฟฟ้า ทำให้ซาวนด์ดูล้ำไปอีก ยิ่งถ้าได้ฟังเวอร์ชั่น interlude นาทีกว่า จะยิ่งฟินเข้าไปอีก

 

10. Take Back The Night

หากอัลบั้ม The 20/20 Experience เป็นอัลบั้มที่หลายคนคิดว่าดูจะย้อนยุคนิดๆ เราก็ขอบอกว่าเพลงนี้เป็นหนึ่งในบรรดาเพลงที่ดูจะเรโทรที่สุด แต่ในความเรโทรก็ยังผสมผสานกับจังหวะเก๋ๆ ที่ทำให้เพลงนี้มีความ “เก๋า” ที่ยากที่จะเลียนแบบ เป็นหนึ่งในเพลงที่เรามองว่าเป็นเพลงดีที่หลายคนแอบมองข้าม (เพราะอัลบั้มนี้เพลงก็เยอะเหลือเกิน)

 

มีเพลงไหนที่คุณชอบ แต่ไม่ติด Top 10 ของเราบ้างหรือเปล่าเอ่ย? ถ้าอยากฟังต่อกันยาวๆ คลิกที่เพลย์ลิส Best of Justin Timberlake ได้เลยค่ะ รับรองว่าขนเพลงฮิตๆ มาหมดแน่นอน

 

 

____________________

Story : Jurairat N.