ทำความรู้จัก เจ้าพ่อเพลงเหงา “Damien Rice” ศิลปินไอริชโฟล์คอินดี้ขวัญใจคนทั่วโลก | Sanook Music

ทำความรู้จัก เจ้าพ่อเพลงเหงา “Damien Rice” ศิลปินไอริชโฟล์คอินดี้ขวัญใจคนทั่วโลก

ทำความรู้จัก เจ้าพ่อเพลงเหงา “Damien Rice” ศิลปินไอริชโฟล์คอินดี้ขวัญใจคนทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับคอเพลงเหงา เศร้า บาดอารมณ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ “เดเมี่ยน ไรซ์” (Damien Rice) ศิลปินไอริชโฟล์คอินดี้ ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นกวีแห่งความเหงา ขวัญใจคนทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่แฟนเพลงชาวไทย เพราะหลังจากโปรโมเตอร์ VIJI Corp” เปิดขายบัตร “Damien Rice Live in Bangkok 2016” คอนเสิร์ตสุดเอ็กคลูซีฟในรูปแบบอะคูสติกโชว์ครั้งแรกในเมืองไทย ก็ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย ตั๋วถูกขายเกลี้ยงภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

 

"เดเมี่ยน ไรซ์” (Damien Rice) ศิลปินโฟล์คมากความสามารถชาวไอริชวัย 42 ปี ที่เป็นทั้งนักร้อง นักดนตรี นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ปี 1973 ในเมือง Kildare ประเทศไอร์แลนด์ เริ่มต้นเส้นทางสายดนตรี ด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Juniper วงดนตรีร็อคชื่อดังในยุค 90 ก่อนจะผันตัวมาเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัว เปิดตัวผลงานชุดแรก “0” ในปี 2002 ด้วยดนตรีแนวไอริชโฟล์ค     ที่เต็มไปด้วยความเหงา แต่อัดแน่นไปด้วยความไพเราะ จนทำให้ซิงเกิ้ลเปิดตัว The Blower’s Daughter โด่งดังนานข้ามปี และหลังจากเพลงนี้ถูกนำไปเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์โรแมนติกดราม่าชื่อดัง Closer  ก็ทำให้ “ไรซ์” กลายเป็นขวัญใจของคอเพลงเหงาทั่วโลก และหลังจากปล่อยซิงเกิ้ลที่สอง Cannonball ก็ทำให้อัลบั้ม 0” กลายเป็นอัลบั้มสามัญประจำบ้านสำหรับคนที่เสพย์ติดความเศร้าอย่างขาดไม่ได้ ทำยอดขายได้ถึง 2.5 ล้านแผ่นทั่วโลก คว้ารางวัล Shortlist Prize ติดชาร์ต Billboard 200 ได้ยาวนาน10 สัปดาห์ และยาวนานถึง 80 สัปดาห์บน U.K. chart แถมการันตีด้วยยอดขาย 10 แพลตินัมในบ้านเกิด และ 4 แพลตินัมในอังกฤษ ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยมีศิลปินแนวนี้ทำได้มาก่อน นอกจากนี้ยังตามมาด้วยความสำเร็จกับผลงานลำดับที่ 2 ‘9’ ที่ทำยอดขายได้ทะลุหลักล้าน และยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Brit Awards อีกด้วย

 

ต่อมาในปี 2009 “เดเมี่ยน ไรซ์” (Damien Rice) ได้ออกอัลบั้ม “9” เป็นอัลบั้มที่สอง ซึ่งยังคงความเป็นบทเพลงแห่งโลกสีเทา และได้รับการตอบรับไม่ต่างจากอัลบั้มแรก ก่อนที่เขาจะเบรคงานดนตรี   ออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ถึง 8 ปี จนคลอดมาเป็นอัลบั้มสุด “My Favourite Faded Fantasy”   ซึ่งเขาได้เดินทางตั้งแต่ลอสแอนเจลิส ไปจนถึงไอซ์แลนด์ เพื่อรวบรวมเพื่อศิลปินมาร่วมสร้างความสมบูรณ์แบบให้กับผลงานชุดนี้ และหนึ่งในนั้นก็คือโปรดิวเซอร์มือทอง Rick Rubin ที่มาร่วมเรียงร้อยความเหงาผ่านเสียงดนตรีให้ออกมาเป็นมหากาพย์แห่งน้ำตา

       

"ผมรู้สึกโปรดปรานเขาทันทีเลย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ดูเลยทีเดียว" คำชื่นชมจาก Rick Rubin

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเสียงคำชื่นชม จากสื่อสำนักใหญ่ๆ ทั่วโลก

 

ตลอด 12 ปี บนเส้นทางการเป็นศิลปินเดี่ยวของเขา กับกระแสตอบรับอันน่าทึ่งจากหลายสำนัก

"Rice เป็นนักแต่งเพลงที่เล็กพริกขี้หนูมากๆ" – Newsweek

 

"Rice แตกต่างด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง ที่ทั้งแข็งกร้าวและงดงาม ท่วงทำนองที่ทั้งหดหู่และฮึกเหิม"   - The New York Times

 

Damien Rice มีผลงานอัลบั้มมาแล้วทั้งหมด 3 ชุด "O"(2002), "9"(2009) และ "My Favourite Faded Fantasy"(2014) มีซิงเกิ้ลฮิตอีกมายมาย ไม่ว่าจะเป็น "The Blower's Daughter", "Cannonball", "Volcano", "9 Crimes" และล่าสุดกับ "I Don't Want To Change You" ซึ่งแต่ละเพลง ก็ยังความเป็น Damien Rice ด้วยดนตรีที่บางเบา น้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาอยู่เสมอ Damien Rice เดินสายทัวร์มาแล้วทั่วโลก รวมถึงการได้ขึ้นเล่นในเทศกาลดนตรีใหญ่ๆของโลกอย่าง Glastonbury Festival, Rock Werchter Festival และอีกมากมาย

 

แน่นอนว่าในคอนเสิร์ต “Damien Rice Live in Bangkok 2016” แฟนๆ ชาวไทยจะได้ดำดิ่งไปกับห้วงอารมณ์เหงาเศร้าบาดลึก พร้อมกับดนตรีหม่นๆ และน้ำเสียงนุ่มๆ จากบทเพลงฮิตทั้ง 3 อัลบั้ม ที่มาพร้อมดนตรีที่บางเบา กับกีต้าร์โปร่งเพียงหนึ่งตัว แบบที่ไม่เคยจัดที่ประเทศอื่นมาก่อน เพราะฉะนั้น ใครมีตั๋วแล้วก็เตรียมพกผ้าเช็ดหน้าไปเหงา เศร้า กันได้ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2559 เวลา 20.00 น.    ณ บีซีซีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/vijicorp และ http://vijicorp.com/upcoming/66

 

 

____________________

Story : Jurairat N.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook