เปิดโปรไฟล์ 6 ดีเจไทยสู่เวทีระดับโลก "Red Bull Thre3Style Thailand 2016" | Sanook Music

เปิดโปรไฟล์ 6 ดีเจไทยสู่เวทีระดับโลก "Red Bull Thre3Style Thailand 2016"

เปิดโปรไฟล์ 6 ดีเจไทยสู่เวทีระดับโลก "Red Bull Thre3Style Thailand 2016"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จุดมุ่งหมายที่นำพาให้ทุกคนมารวมตัวกันก็คือ ใจที่รักในเสียงเพลงและความสุขที่ได้เห็นผู้คนขยับตัวไปตามจังหวะดนตรีที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้น นี่จึงเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Red Bull Thre3Style Thailand 2016 การแข่งขันเพื่อเฟ้นหาสุดยอดดีเจ

ที่จัดโดย ยูโรเปี้ยน เรดบูล ซึ่งเป็นมากกว่าการสร้างความสนุกให้คนดูเพียงชั่วข้ามคืน แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ดีเจสัญชาติไทยได้บินไกลไปโชว์สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองบนเวทีการแข่งขันระดับโลกอีกด้วย ซึ่งปีนี้ผู้ชนะจะไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศชิลี ในเดือนธันวาคม

Red Bull Thre3Style คือการแข่งขันที่จัดขึ้นมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เพื่อเฟ้นหาสุดยอดดีเจที่ทำให้ผู้ชมมีความสนุก พร้อมทั้งต้องทำให้กรรมการประทับใจ เพราะไม่ใช่แค่เทคนิคเท่านั้นที่เป็นตัวตัดสิน แต่สิ่งที่น่าติดตามยังอยู่ที่การเลือกเพลง การทำเพลงออกมาไม่ซ้ำใคร และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด

( ดีเจ Shintaro แชมป์โลกปี 2013 )

( ดีเจ Byte แชมป์โลก 2015 )

และที่ขาดไม่ได้คือความท้าทายที่จะต้องทำให้ผู้ชมได้ตื่นเต้นกันอย่างเต็มที่ โดยดีเจแต่ละคนจะต้องใช้เพลงอย่างน้อย 3 สไตล์มามิกซ์ให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียวภายในเวลาเพียง 15 นาที เรียกได้ว่าเวทีนี้เป็นเวทีเฟ้นหา DJ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ และความหลงใหลในเสียงเพลงหลากหลายสไตล์ เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้คนที่รักการปาร์ตี้ในแบบที่ไม่จำเจอย่างแท้จริง

ทำความรู้จัก ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้ง 6 ท่าน

1.Bomber Selecta

“Red Bull Thre3Style คืออิสระ ที่จะ connect กับคนฟังด้วยเสียงเพลง”

เป็นตัวแทนแชมป์ประเทศไทยไปแข่ง Red Bull Thre3Style World DJ Championship ที่ญี่ปุ่นมาเมื่อปีที่แล้ว และในปีนี้ ถือว่าเป็นอีกครั้ง ของ Bomber Selecta 1 ใน 6 ดีเจตัวแทนประเทศไทย กลับมาคราวนี้ แน่นอนว่า ประสบการณ์ที่มากขึ้น และความสนุกที่เต็มเปี่ยม นี่แหละ ที่จะเป็นหมัดเด็ดชนะใจกรรมการ และผู้ชม

เล่าประสบการณ์ 1 ปีหลังชนะการประกวด Red Bull Thre3Style
เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่มากครับ ผมไม่คิดว่าจะได้ไปเจอเวทีที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเรา จากที่เราคิดว่าเรารู้อะไรระดับนึง แต่เราเป็นแค่ส่วนนึง มีคนที่เก่งอีกเยอะ เราคิดว่าเราฟังเพลงเยอะ มีคนที่ฟังมากกว่าอีก การแข่งขันที่ญี่ปุ่น เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมครับ

2.WHATDATFROG

"Red Bull Thre3Style คือพื้นที่ที่ให้ดีเจได้แสดงตัวตนของตัวเอง"

WHATDATFROG หรือ คุณกบ หนึ่งในผู้แข่งขัน Red Bull Thre3Style ที่มีโอกาสได้ลองสนาม มาเมื่อปีที่แล้ว แม้จะพลาดโอกาสไป แต่ในการแข่งขันครั้งนี้ เขาคือ 1 ใน 6 ตัวแทนดีเจ ที่พร้อมจะมาคว้าชัยในการแข่งขันครั้งนี้ ปัจจุบันนอกจากคุณกบ จะเป็นดีเจ แล้ว เขายังเป็นผู้จัดการร้าน Tha Beatlounge และโรงเรียนสอนดีเจที่ RCA Block D อีกด้วย และไม่น่าเชื่อว่า จุดเริ่มต้นการเป็นดีเจของเขา มาจากการที่ได้ดูโชว์ของ ดีเจSpydaMonkee จนกระทั่งได้ลงสนามแรก กับการแข่งขัน DMC (Disco Mix Club) ประเภททีม (ออนไลน์) ได้อันดับ 4 ของโลก

....จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจ จำได้ว่าตอนนั้น พี่เต้ง SpydaMonkee มาเล่นที่โรงเรียนราชวินิตบางเขนครับ เป็นอะไรที่ใหม่มาก เพราะส่วนตัวเรารู้แต่เบส กีตาร์ กลอง ตอนนั้นเตะบอลอยู่เพื่อนก็วิ่งมาชวน วันนี้มีดีเจมาสแครชแผ่น เราก็งงว่ามันคืออะไรก็ขึ้นไปดูเท่านั้นแหละ มันคือสิ่งที่เราอยากทำ แรกเริ่มเลย ผมฟังเพลง Hardcore ครับ มันคนละแนวเลย จากนั้นก็เริ่มฟังเพลงหลากหลายแนวมากขึ้น

3. BUTUNG


"ผมคือ Turntablist"

BUTUNG อีกหนึ่งผู้แข่งขัน Red Bull Thre3Style ที่มีดีกรีแชมป์ Denon Dj Rookie of the year 2008 กับการแข่งขันที่เวทีนี้ เขาบอกว่าไม้ตายคือโชว์ ไม่ใช่แนวเพลง ผมคิดว่า การแข่งขัน Red Bull Thre3Style ไม้ตายของผมคือ energy ตอนโชว์เพราะว่าอันนี้ผมว่าสำคัญพอๆกับเซตเพลงเลย เพราะมันคือการใช้หลายอย่างอะครับ มันคือตัวตน อย่างเวลาที่เปิดเพลงธรรมดาเล่นแข่ง เล่นโชว์ event มันก็เล่นคนละแบบเปิดเพลงแข่งก็เป็นอีกคนนึงเปิดเพลงธรรมดาก็เป็นอีกคนนึงอีกอารมณ์นึง

...ผมเริ่มสนใจ คลับดีเจ ตั้งแต่ ม.1ครับ แต่เริ่มเล่นจริงๆ ตอน ม.4 ครับ ก็คือเห็นพี่เต้งสแครชอยากเล่นสแครช ไปบอกที่บ้านเขาไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ เขาก็ให้เรียนดนตรีไปก่อนพอถึง ม.3-4 ก็เริ่มบอกแม่ได้ถูกแล้วว่าที่เราอยากเล่นจริงๆคืออะไรแล้วสุดท้ายก็ได้เล่น มีเครื่องดีเจที่บ้านคุณแม่ซื้อให้มาเล่นที่บ้านเขาก็ซื้อผิดๆถูกๆ มีTurntable ต้องมี Mixer ด้วยนะ เครื่องเล่นดีเจประกอบไปด้วย Section ต่างๆ Section เครื่องเล่น หรือเครื่องผสม ผมได้แต่เครื่องเล่นมา แต่ไม่รู้ว่าต้องมี Mixer

...ถ้าให้เรียกสไตล์เรียกว่า Turntablist เป็นดีเจที่ใช้อุปกรณ์เป็น Turntable การเล่นลักษณะจะแตกต่างกันกับดีเจ EDM คือ วิธีการต่อเพลงคือถ้าอย่างแบบ EDM จะเป็นการเล่นที่แบบสมูทเป็นอย่างมากการต่อเพลงเนียนเน้นอารมณ์ค่อยๆบิ้วท์อารมณ์เยอะ Turntablist เนี่ยจะใช้วิธีการต่อเพลงโดยใช้ทักษะเทคนิคที่ออกมาจากร่างกายของเราคือ การโชว์การ Scratch เพื่อต่อเพลง หรือว่าใช้มีทั้งการต่อเพลงแบบรวดเร็วจะเน้นไปทางโชว์ทักษะการต่อเพลงมากกว่าเอาทักษะมาดึงดูดความสนใจแทนที่จะไล่ฟิลต่อเพลง

4. Nutty

“ทีนทอล์ก เปิดโลกทัศน์การเป็นดีเจของผม”

Nutty อีกหนึ่งดีเจ ที่ติด 1 ใน 6 ตัวแทนประเทศไทย จากการแข่งขัน Red Bull Thre3Style เป็นอีกคนที่มีคาแรคเตอร์และสไตล์ที่ชัดเจน ด้วยการใช้เพลงการ์ตูนญี่ปุ่น แถมจุดเริ่มต้นของเขาก็ไม่ธรรมดา เพราะแรงบันดาลใจที่ทำให้เขาก้าวเข้ามาในวงการดีเจ เป็นเพราะได้ดูรายการ ทีนทอล์ก แล้วเห็นกลุ่มคนที่ชื่อว่า SpydaMonkee กำลังพูดคุยถึงการได้แชมป์ DMC ประเทศไทยและกำลังไปแข่ง World DMC (Disco Mix Club)

....จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสนใจการเป็นคลับดีเจ เริ่มจากการดูรายการ ทีนทอล์ก แล้วผมเจอคนกลุ่มนึง ตอนนั้นพี่ชาคริตเค้าประกาศว่า มันมีคนไทยคนนึงนะที่ไปอยู่ระดับโลก ชื่อว่า SpydaMonkee กำลังพูดคุยถึงการได้แชมป์ DMC ประเทศไทยและกำลังไปแข่ง World DMC (Disco Mix Club) ผมก็อะไรอะ เค้าบอกว่ามีคนๆนึงอยู่ในคลับแล้วก็มีดีเจทำอะไรไม่รู้ถูกขึ้นถูกลงฟังไม่รู้เรื่องเลย ตอนนั้นก็แบบเค้าทำอะไรวะ แต่หลังจากนั้นครับเริ่มโตขึ้น ผมเริ่มไปเที่ยว RCA ก็เลยอ่อ มันคือดีเจนนี่เอง จากนั้นพี่ชายผมก็กลับมาจากออสเตเรียเค้าก็ถามผมว่า อยากเป็นอะไร คำตอบคือ อยากเป็นดีเจ พี่เค้าก็พาผมไปเรียนกับน้องชายเพื่อนเค้า" ....ผมว่า เพลงการ์ตูนมันไม่ใช่แค่เพลงการ์ตูน มันคือเพลงจริงๆ

5. ISTYLE

“10 กว่าปีที่ผ่านมา การฝึกฝน Scractching คืองานอดิเรกที่มีความสุขที่สุด”

เจน หญิงสาวที่รักในดนตรีทุกแขนง ทั้งยังเป็นมือแซคโซโฟนประจำวงโยทวาทิต สมัยยังเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ทำให้เจนฟังเพลงหลากหลาย แต่ที่สนใจเป็นพิเศษจะเป็น House’90 จนวันนึงได้รู้จักกับการเป็นดีเจจากการไปเที่ยวบ้านรุ่นพี่ ดีเจสลัม (เจ้าจองร้าน DJ Slum LTD.)

และถูกชักชวนให้ลองสัมผัสแผ่นไวนิลโดยเริ่มจากการทำถ้าพื้นฐาน ซึ่งที่ทำให้ประหลาดใจคือสามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติและรู้สึกหลงเสน่ห์ทันที และสิ่งนี้ก็กลายเป็นงานอดิเรกที่เจน ทำมาตลอดเกือบ10 ปี มีลงแข่งบ้าง ภายใต้ชื่อ Isytle ที่มีรุ่นพี่ตั้งให้หลังจากการลงแข่ง DMC THAILAND 2006 แต่กลับได้ลองทำเป็นอาชีพตอนตามแฟนหนุ่มไปทำงานที่ประเทศเวียดนาม จึงได้เริ่มทำการแสดงที่นั่นอยู่ 2 ปี

ทั้งนี้ I STYLE หรือ เจน อาจจะห่างหายจากสนามแข่งมาสักพัก แต่การแข่งขัน Red Bull Thre3Style ในครั้งนี้ เธอเองก็มั่นใจเต็มร้อย ที่จะสร้างความสนุกตลอดโชว์ ด้วยเทคนิคที่เธอจะงัดมาใช้ตลอดการฝึกซ้อมมาหลายปี เรื่อง Technical ในการสแครชคิดว่า 90% คนไทยไม่ค่อยรู้จักอะไรกับมันเท่าไหร่หรือบางคนฟังแล้วคุณทำอะไรฟังไม่รู้เรื่องเลย คุณจะได้เข้าใจว่าทำให้การเปิดเพลงดูน่าสนใจขึ้นดูเท่ค่ะ

6. PAKA

“เมื่อสิ่งที่ชอบ กลายมาเป็นสิ่งที่ใช่”

PAKA สาวสถาปัตย์ วัย 26 ปี จากรั้วศิลปากร ที่การันตีความสามารถด้วยรางวัล Pioneer Lady DJ 2015 สู่การเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย ที่จะร่วมแข่งขัน Red Bull Thre3Style งานนี้สาวสายตื๊ด ถึงกับอึ้ง และทำการบ้านหนักมาก ทั้งเรื่องโชว์ สไตล์เพลง รวมไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือ เรียกได้ว่า ท้าทายสุดๆ

ช็อคค่ะ อึ้งเหมือนกัน เพราะพี่ๆ ที่ผ่านเข้ามารอบนี้ก็สายแข็งทั้งนั้น คือหนูมาจากการแข่งขันสายตื๊ด พอมาเป็น Red Bull Thre3Style ก็ต้องทำการบ้านหนักมาก ตั้งแต่การใช้เครื่อง ศึกษาแนวเพลง คือต้องกว้างกว่า EDM เลยค่ะ หลังจากทราบผล อย่างแรกเลยหนูก็ต้องไปศึกษาเพลงมาก่อนก็คือเอาเท่าที่เราอยากเล่นด้วย แล้วก็เพิ่มพวกเพลงเก่าๆเข้ามา ช่วงหลังๆหนูเริ่มฟังเพลงเก่าๆมากขึ้น คือเคยได้ยินแหละแต่ไม่เคยไปศึกษาว่ายุคนี้มีเพลงไหนดังๆก็เลยกลับไปฟัง เพราะว่าต้องการหยิบเพลงพวกนี้มาใส่ในเซตด้วยก็คือศึกษาจากทางนี้ เอาที่ตัวเองถนัดพวกกดๆ สแครชนิดหน่อย และที่สำคัญ ตอนนี้หนูกำลังหัดเล่น Turntable อยู่ค่ะ

ความแตกต่าง ระหว่าง เครื่อง Turntable กับ เครื่อง CDJ ....เล่นได้เหมือนกันค่ะแค่ไม่ได้ใช้แผ่นไวนิล คือถ้าเป็นเทิร์นเทเบิ้ล ก็ต้องใช้แผ่นไวนิล อันนี้เป็นดิจิตอลค่ะใช้ usb หมุนๆหาเพลงแล้วก็เล่นได้เลย คือเป็นดิจิตอลมากขึ้น ตอนแข่ง Pioneer หนูใช้ซีดีเจประมาณ 4 เครื่อง และก็ เอฟเฟ็คอีกเครื่องนึง ถึงจะถนัด CDJ มากกว่า แต่หนูก็จะฝึกสแครชกับเทิร์นเทเบิ้ล เวลาหนูไปทำงานก็จะสแครชกับ CDJ เลย มันไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเทิร์นก็คือใช้เทคนิคของมันโดยไม่ต้องใช้ไวนิล เอาจริงๆ หนูอยากเล่นเทินนะคะ

แค่ยังไม่เคยเล่นแบบจริงๆจังๆแต่ว่าสแครช ที่บ้านมีเครื่องอยู่แต่ว่าฝึกสแครชกับเครื่องเทิน แต่ว่ายังไม่เคยกับเซตเต็มๆกับเทินเทเบิ้ลจริงๆ ก็ตอนนี้เตรียมตัวอยู่ เล่นกับ Turntable ถ้าไม่ถนัดเราก็จะเล่นกับ CDJ เพราะว่า เราชินมือมากกว่าทำงานก็เล่น CDJ สแครชเราก้ได้ด้วยความที่ใจอยากเล่นเทินเทเบิ้ลรุ้สึกว่ามันดูเหมาะกับการเล่นเลยอยากเล่น Turntable มากกว่า "progressive house กับ trap twerk ตอนแรกคิดว่าคนจะมองว่า มันจะเข้าได้ยังไง แต่ว่าเราชอบ หนูอยากนำเสนอ จะเอาให้ได้ แล้วก็ใส่การสแครชเข้าไปด้วย

และใครจะเป็นผู้ชนะ ดีเจสัญชาติไทยสู่เวทีระดับโลกต้องติดตาม งานดีๆแบบนี้ Sanook!Music ไม่พลาดแน่!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook