4 ศิลปินรายได้พุ่งเพราะ "น้ำหอม"
นับตั้งแต่ปี 2002 ที่ขุ่นแม่เจโล Jennifer Lopez แนะนำน้ำหอม Glow by JLo ให้เราได้รู้จัก จนถึงทุกวันนี้เรายังจำกลิ่นนั้นได้อยู่เลย เพราะว่ามัน “หอม” จริง และติดทนจริง ไม่ใช่แค่น้ำหอมที่คนดังผลิตออกมาหลอกขายแฟนเพลงเล่นๆ เพราะถึงเราจะไม่ใช่แฟนเพลงชนิดเดนตายของขุ่นแม่ ยังเคยครอบครองน้ำหอมของนางมาแล้ว 1 ขวดใหญ่ ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดญาติมาแล้วด้วย
ที่เล่ามานี่คืออยากจะบอกว่า ศิลปิน กับน้ำหอม เป็นของคู่กันมาตั้งแต่เมื่อหลาย 10 ปีมาแล้ว บางคนก็รุ่ง บางคนก็ร่วง แน่นอนว่ากลุ่มแรกๆ ที่แห่ซื้อมาลองดมกันอย่างสนุกสนานก็หนีไม่พ้น “แฟนคลับ” แม้กระทั่งศิลปินผู้ชาย ที่ทำน้ำหอมสำหรับผู้หญิงออกมาอย่างหนุ่ม Justin Bieber หรือบอยแบนด์ One Direction ก็กอบโกยรายได้จากผลิตภัณฑ์นี้ปได้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ทำไมถึงต้องเป็น “น้ำหอม”
หากจะต่อยอดสินค้าจากศิลปินคนใดคนหนึ่ง แล้วมาจบลงที่เสื้อยืด ผ้าพันคอ หลายคนที่ไม่ใช่แฟนคลับอาจจะไม่สนใจ เพราะคงไม่มีใครอยากใส่เสื้อยืดปริ๊นท์ลายวงที่ตัวเองไม่ได้ฟัง แต่หากลองเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามอย่างน้ำหอม หรือแม้กระทั่งการ collaborate กันระหว่างศิลปิน และแบรนด์ใดแบรด์หนึ่ง เท่านี้นอกจากคุณจะได้เงินจากแฟนคลับแล้ว หากดีไซน์ดี กลิ่นดี ใช้งานได้จริง ไม่มีหน้า หรือชื่อศิลปินมาแปะไว้ใหญ่โตมากเกินไป คนที่ไม่ใช่แฟนคลับก็พร้อมที่จะเข้ามาลองได้โดยไม่ขัดเขิน เหมือนที่เราติดใจกลิ่นน้ำหอมของ JLo ชอบดีไซน์ขวดน้ำหอมของ Katy Perry และแอบพรีออเดอร์น้ำหอมของแม่บริท Britney Spears
แต่ถึงกระนั้น ไม่ใช่ทุกศิลปินชื่อดังระดับโลกที่จะประสบความสำเร็จกับการก้าวเท้าเข้ามาในสนามประลองศึก “น้ำหอม” เพราะรายได้จากผลิตภัณฑ์น้ำหอมของเหล่าเซเล็บลดฮวบฮาบ จาก 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงเหลือ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ในเวลาแค่ 3 ปี อาจเป็นเพราะผู้บริโภคอย่างเราๆ มองน้ำหอมว่าเป็นสินค้าที่ “ไม่ชัวร์” เพราะเราไม่แน่ใจในกลิ่นว่ามันจะหอมถูกใจเราจริงหรือไม่ ดังนั้นศิลปินหญิงหลายคนเลยเบนเขมมาทางเครื่องสำอาง หรือเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ที่เห็นจากภาพแลเวจัดสินใจซื้อได้ง่ายๆ มากกว่า
4 ศิลปินรายได้พุ่งเพราะ "น้ำหอม"
1. Jennifer Lopez : Glow by JLo
ตั้งแต่คอลเล็คชั่นแรกที่ออกมา น้ำหอมของเจโลก็กวาดรายได้ไปถึง 120 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4.2 พันล้านบาท ภายใน 9 เดือน
2. Beyoncé : Heat
แค่เดือนแรกก็โกยไป 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 105 ล้านบาท ปี 2010-2013 เลยกวาดรายได้รวมไปทั้งหมด 403 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 14,000 ล้านบาท
3. Lady Gaga : Fame
ขวดดีไซน์สวยจนต้องร้องขอชีวิต น้ำหอมของขุ่นแม่รับรายได้ไปเหนาะๆ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1 พันล้านบาท ภายใน 6 เดือน ตั้งแต่เริ่มวางขายครั้งแรกเมื่อปี 2012
4. Justin Bieber : Someday
เคยมีคนพูดว่าอย่าง JB กระดาษทิชชู่ใช้แล้วก็น่าจะขายได้ สงสัยจะเป็นเรื่องจริง เพราะขนาดตัวเองเป็นผู้ชาย ยังขายน้ำหอมผู้หญิงได้ แถมยังขายดีมากจนติดอันดับน้ำหอมผู้หญิงที่ขายดีที่สุดที่อเมริกาในปี 2011 เสียด้วย รับรายได้ไป 39 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.36 ล้านบาท
เห็นอย่างนี้แล้ว รู้ได้เลยว่สเป็นแฟนคลับต้องอดทน ต้องเก็บเงินซื้อซีดี ตั๋วคอนเสิร์ต และยังต้องตามสินค้าของศิลปินที่ขยันออกมาล่อตาล่อใจเราอีกด้วย แต่ถึงอย่างไร หากสินค้าดีจริง ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับหรือไม่ก็ตาม คนก็ยอมเสียทรัพย์ให้อยู่ดี ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับ “สไตล์” ว่าป่ะ?
____________________
Story : Jurairat N.
Source : Billboard.com