3 ปีที่รอคอย! TWO DOOR CINEMA CLUB ระเบิดความมันสมใจแฟนชาวไทย
“คอนเสิร์ต TWO DOOR CINEMA CLUB ยกเลิก” คำนี้ทุกคนเคยได้เห็นกันมาแล้วเมื่อปี 2556 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว หลังจากที่ Alex Trimble นักร้องนำป่วยกะทันหันจนต้องยกเลิกคอนเสิร์ตในประเทศไทยไปอย่างน่าเสียดาย เราคนหนึ่งที่จำใจต้องเดินไปขอเงินค่าบัตรคืนทั้งๆ ที่หมายมั่นปั้นมืออย่างดีว่าเราจะได้มีโอกาสชมคอนเสิร์ตของวงดนตรีที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “1 ใน 100 วงดนตรีที่ต้องดูคอนเสิร์ตก่อนตาย" แล้วตอนนั้นก็แอบคิดว่า คงไม่มีหวังแล้วล่ะแกเอ๊ย
แต่ฟ้าก็ประทาน OD มาให้เรา เพราะครั้งนี้เขาเป็นผู้จัดที่พาวงอินดี้ร็อคสุดเก๋าจากไอร์แลนด์เหนือกลับมาให้เราได้ลุ้นตัวโก่งกันอีกครั้งว่า “หนนี้ไม่ล่มแล้วนะพี่นะ” จนกระทั่งวันงานคอนเสิร์ตก็มาถึง หลังจากคราวที่แล้วเตรียมเล่นที่ไบเทคบางนา หนนี้มาจัดเอากลางกรุง ประเดิมสถานที่จัดงานใหม่ SHOW DC OASIS ARENA ข้าง RCA ระยะเดินได้
สถานที่จัดงานน่ารักอบอุ่นในบรรยากาศตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นที่นั่ง ร้านอาหาร พร้อม food truck อร่อยๆ มากมาย และห้องน้ำติดแอร์ การเลือกจัดงานกลางแจ้งในฤดูฝนเป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ เราก็ได้แต่คิดว่าขออย่าให้ฝนตกเลย และแล้วในที่สุดฟ้าฝนก็เป็นใจ ใครปักตะไคร้ให้ก็ขอขอบคุณงามๆ ไว้ตรงนี้ด้วย
เสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสได้ดู Tabasco และ Tattoo Colour วงเปิดที่ขึ้นด้วยตัว T เหมือนกันกับศิลปินหลัก เพราะเป็นช่วงที่เรานั่งหลบอยู่หลังเวที รอคอยการมาของ 3 หนุ่มสุดอินดี้ TWO DOOR CINEMA CLUB เพื่อสัมภาษณ์เจาะลึกถึงผลงานเพลงล้วนๆ (หากถามอะไร nonsense ทีมงานเตือนมาว่าอาจมีเดินออก) เข้าใจความอินดี้ความติสต์ของศิลปินวงนี้ก็คราวนี้แหละ (เล่าคร่าวๆ เท่านี้ เดี๋ยวมี interview แยกต่างหากอีกบทความหนึ่ง)
หลังจาก Tattoo Colour ลงจากเวทีไป ก็รีบทานข้าวทานน้ำ แล้วบุกเข้าไปจับจองพื้นที่ที่พอจะแทรกตัวเข้าไปได้ และไม่ถูกหนุ่มๆ ร่างสูงใหญ่บัง เพราะแน่นอนงานนี้ร้อยละ 60 เป็นผู้ชายแมนๆ ที่อาจมากับแก๊งเพื่อน แฟน และแฟนเพื่อน หรืออาจจะเพื่อนแฟนด้วย วัยรุ่น วัยทำงาน ไปจนถึงวัยคุณพ่อหัวใจยังวัยรุ่นที่พาลูกมาดูวงดนตรีคุณภาพอีกหนึ่งวง ถึงบัตรจะไม่ SOLD OUT แต่ขอบอกว่าแน่นขนัดไม่เบา ทำเอาเหงื่อท่วมร่างตั้งแต่วงยังไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว
เปิดตัววงด้วยความเรียบง่าย แค่ 3 สมาชิก Alex Trimble, Kevin Baird และ Sam Halliday เดินเข้ามา สะพายกีต้าร์ ทักทาย 2-3 คำ แล้วเริ่มระเบิดความมันกันตั้งแต่เพลงแรก “Cigarettes In The Theatre” เหล่าโจ๋พร้อมใจกันตะโกนร้องเพลงตาม กระโดดโลดเต้นให้สมใจการรอคอยอันยาวนาน (บางคนมารอที่ริมรั้วตั้งแต่ก่อน 4 โมงเย็น แล้ววงขึ้นตอนสามทุ่มครึ่งคิดดู) ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อด้วยเพลงที่เรียกกำลังให้พวกเราร้องเพลงพร้อมกัน และโดดพร้อมกันตามจังหวะได้ง่ายๆ อย่าง “Undercover Martyn” หลังจากนั้นพักหายใจหายคอพอให้โยกเบาๆ กับ “Do You Want It All” “This Is The Life” และ “Changing of The Seasons” ที่มีเสียงอิเล็คทรอนิกเข้ามาสร้างสีสันเพิ่มเติม ทำให้เป็นแทร็คที่หลายๆ คนชอบจนร้องตามกันได้ง่ายๆ หลังจากนั้น Alex ก็เริ่มทักทายคนดูอย่างเป็นทางการอีกครั้ง “เฮโหล แบงคอก ขอโทษที่ทำให้รอนาน ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่” จากนั้นก็แนะนำเพลงใหม่ล่าสุดจากอัลบั้มที่มีชื่อเดียวกัน “Gameshow” แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ฟัง แต่ขอบอกเลยว่าดี และทำให้การรอคอยอั้ลบั้มใหม่ของพวกเขาเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น
เฝ้ารอมาตั้งแต่เพลงแรก ในที่สุดเพลงหนึ่งในเพลงโปรดของเราอย่าง “Come Back Home” ก็มาจนได้ งานนี้ทั้งร้องทั้งดิ้นแบบไม่เกรงใจคนข้างๆ กันเลยทีเดียว หลังจากใส่เสื้อเดนิมขลิบลายเสือมาอย่างเท่ พอเจออากาศซุปเปอร์ร้อนระอุในบ้านเราเข้าไป Alex ถึงขั้นต้องถอดแจ๊กเก็ตออก เผยให้เห็นเชิ้ตสีดำลายจุดสุดมุ้งมิ้ง ที่เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ไปไม่น้อย
ต่อด้วย “Wake Up” และ “Are We Ready?” (Wreck) ที่ Alex ถามอีกครั้งว่า “Are you ready?” แฟนๆ พร้อมใจกันตอบว่า “YEAH!” แล้วก็เริ่มโดดกันอีกครั้ง กำลังสนุกได้ที่ หนุ่มๆ ส่ง “Sun” มาให้สนุกกันต่อ เป็นเพลงที่หลายๆ คนชื่นชอบเช่นเดียวกัน สังเกตจากเสียงร้องจากทางด้านหลังที่ร้องตามได้ตั้งแต่ต้นจนจบ Sam และ Kevin ออกมาทักทายแฟนๆ ในช่วงสลับเปลี่ยนเพลงเรื่อยๆ ดูก็รู้ว่าแฮปปี้ เพราะรอยยิ้มสุดจริงใจนั้นไม่โกหกสายตาแฟนๆ แน่นอน
คั่นจังหวะกันด้วยเพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาให้พวกเราได้ฟังกัน “Bad Decisions” ที่เห็น Alex ร้องเสียงสูงปรี๊ด ตัดสลับเสียงต่ำได้อย่างน่าประทับใจ แนวเรโทร 80s’ แบบนี้ไม่ค่อยได้เห็น TDCC ทำสักเท่าไร ถือว่ากล้าออกจาก comfort zone จริงๆ จนกระทั่งถึงช่วงพีคของเรา นั่นคือรวมเพลงโปรด ที่เป็นเพลงจังหวะแดนซ์สนุกสุดๆ ติดกันเป็นพรืด ไล่ไปตั้งแต่ “I Can Talk” “Next Year” และ “Something Good Can Work” ที่นอกจากเพลงจะดีงามมากกว่าที่คิดแล้ว กราฟิกด้านหลังก็ทำได้สวยเท่ถูกใจจนอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้ตลอดเวลา
มาถึงตอนนี้แฟนเพลงคนหนึ่งด้านหลังๆ เปรยขึ้นมาเบาๆ “ไม่มีเพลงช้าเลยเหรอ?” นั่นสินะ ให้แฟนเพลงทั้งโดดทั้งเต้นกันตั้งแต่เพลงแรกยันตอนนี้ ปาเข้าไปจะจบโชว์แล้ว พยายามนึกถึงชื่อเพลงที่เป็นเพลงช้า มันก็ไม่มีเลยสักเพลงจริงๆ เพิ่งรู้ว่า #ทูดอร์เป็นวงแดนซ์ จากนั้นอินโทรเพลง “Eat That Up, It's Good For You” ก็ขึ้นมา ขาก็อยู่เฉยอีกไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ขยับไปตามจังหวะจนจบเพลงแบบไม่รู้ตัว
โบกมือลาพอเป็นพิธี แฟนเพลงอังกอร์กันไม่นาน สามหนุ่มก็กลับขึ้นมาอีกครั้งด้วย 3 เพลงสุดท้ายที่ทุกคนต่างก็รอคอย “Sleep Alone” “Someday” ที่ Alex ทั้งร้อง ทั้งลงไปนอนกับเวที ทั้งกระโดดขึ้นลงไปรอบๆ และ “What You Know” เพลงเก่งที่ร้อยทั้งร้อยร้องตามกันได้ทุกคน กระโดดจนขาลอยจนจบงานไปแบบสุดประทับใจ พร้อมคำขอบคุณจาก Alex ที่ยังคงประทับใจกับแฟนเพลงที่รอคอยการมาของวง และให้สัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอน
เป็นค่ำคืนที่ยาวนาน แต่เวลาผ่านไปเร็วมาก มากจนไม่อยากให้จบ ยังมีอีกหลายเพลงที่อยากฟัง ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงาน จะให้กระโดดไปอีก 2 ชั่วโมงก็ยังได้ อากาศร้อนอบอ้าวเท่าไรก็สู้ เพราะถึงแม้จะพูดน้อยต่อยหนัก ไม่มีลูกเล่นมากเหมือนศิลปินคนอื่น แต่ TWO DOOR CINEMA CLUB เล่นสดได้สนุก มัน และได้ใจสมกับที่เป็น “1 ใน 100 วงดนตรีที่ต้องดูคอนเสิร์ตก่อนตาย" จริงๆ จะ 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปียังไงก็จะรออีกนะ มาให้ได้ล่ะ
ขอขอบคุณ OD, Warner Music Thailand
Story : Jurairat N.
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ