การเปลี่ยนแปลงของ "เวย์ Thaitanium" จากทีนป๊อปสู่ฮิปฮอปอันดับต้นของไทย
สำหรับหลายๆคนแล้ว เวย์ ปริญญา ก็คือสมาชิกวง Thaitanium วงฮิปฮอปแถวหน้าของประเทศและคุณพ่อของลูกแฝดอย่างน้อง บรูคลิน และ บีน่า แต่จริงๆแล้วเขาคือศิลปินอีกคนที่อยู่ในวงการเพลงมา 20 ปี และได้ผ่านความลำบากมากมาย กว่าจะเป็นศิลปินแถวหน้าทุกวันนี้ และวันนี้เขาก็ได้มาเล่าเรื่องราวสิ่งที่เขาพบเจอ ให้กับทีมงาน Sanook! Music ด้วย
ความชื่นชอบในดนตรีฮิปฮอปของคุณเวย์ เกิดขึ้นเมื่อไหร่
ตั้งแต่เด็กเลยครับผม ในปี 1992 คือตอนนั้นเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกิดและโตที่อเมริกา คือดนตรีฮิปฮอปกำลังดังมากๆใน mainstream ตอนนั้นที่ฟังก็มี LL COOL J, Wu tang clan, Biggie Small, Jay-Z ในโรงเรียนทุกคนฟังกันหมด ในวิทยุ ไปไหนก็มีแต่เพลงฮิปฮอป มันเป็นชีวิตส่วนตัวไปเลย
การทำงานในฐานะสมาชิกวง Thaitanium และ Daboyway ต่างกันอย่างไร
จริงๆแล้วก็ฮิปฮอปครับ แต่ปกติผมจะเน้นภาษาอังกฤษ แต่ก็มีซิงเกิ้ลเดี่ยวอย่าง No way without U ที่เป็นภาษาไทย ทุกวันนี้ผมก็ยังทำเพลงในฐานะสมาชิกวง Thaitanium นะครับ แต่ก็อยากทำเพลงที่เพื่อนไม่ร่วมแจมอยู่ในห้องอัด เวลาทำเพลงของวงไทยเทเนี่ยมก็ต้องใช้ความเห็นของสามคน และหาจุดที่ลงตัวที่สุด แต่เวลาทำเพลงเดี่ยวคือทำตามใจตัวเอง ในช่วงสามปีที่ผ่านมาก็เข้าห้องอัดเองเยอะ แต่บางตารางเวลามักจะไม่ตรงกับเพื่อนๆ เลยตัดสินใจทำเองคนเดียวเลย และตอนนี้ก็ได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เวลาเข้าห้องอัดจะรู้สึกเลยว่าเราพัฒนาเรื่องความโฟลว์การร้องและการเขียน อีกอย่างทุกวันนี้ก็มีโปรดิวเซอร์ส่งบีทหรือทำนองใหม่ๆมาให้เยอะ ก็ไม่อยากให้มันนอนอยู่เฉยๆ
ในการเขียนเพลง คุณเวย์ถนัดทำเพลงไทยหรือเพลงภาษาอังกฤษมากกว่ากัน
ตอนแรกก็มีปัญหากับภาษาไทย แต่ว่าพอฝึกไปเรื่อยๆก็เขียนได้สองภาษาเลย ตอนแรกก็พยายามเน้นทั้งสองภาษา แต่พอมาสองสามปีหลังก็เน้นภาษาอังกฤษก็ต้องฝึก แต่ตอนนี้ก็ถนัดทั้งสองภาษา มันขึ้นอยู่กับว่าดนตรีจะพาเราไปทางไหนมากกว่าครับ
ซิงเกิ้ลล่าสุดเพลง Yeah Yeah Yeah มีเนื้อหาพูดถึงอะไร
สนุกสนานๆ ง่ายๆมาก คือแบบพูดถึงเพื่อนสมัยเด็กๆ ก็ไปเที่ยว กินเหล้า บาบิคิว ไม่มีอะไรลึกเลยครับ
คลิกฟังเพลง Yeah Yeah Yeah - Daboyway
เพลงนี้ต่างจาก ซิงเกิ้ล No way without U และ Understand Me ที่ทำมาตรงไหน
No way without U เป็นซิงเกิ้ลแรก ที่เป็นแนวกึ่งแร็พกึ่งร้อง ส่วนเพลง Understand me ที่ทำกับ Anarchy นี่เป็นฮิปฮอปเลย ทั้งสองเพลงก็จะมีเนื้อหาที่ต่างกันออกไปจากเพลง Yeah Yeah Yeah!
ทำไมถึงตัดสินใจ ถ่ายเอ็มวีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
คือสำหรับผมเอ็มวีเป็นเรื่องสำคัญมาก คือฟังดนตรีแล้วนึกถึงฮิปฮอป 90s และก็ซัมเมอร์ และคือมีบ้านอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว มีเพื่อนก็เลยอยากกลับไปทำเอ็มวีที่นั่น และนี่เป็นเพลงที่ 4 ที่ถ่ายเอ็มวีที่นั่น ตอนนี้เราเองก็มีความรู้เรื่องการถ่ายทำมากขึ้น เพลงนี้ก็ใช้เวลาทำ 3-4 เดือน ส่งไปส่งมากับตัวโปรดิวเซอร์ The Agency เพราะเขาเป็นคนมิกซ์และมาสเตอร์ ถ่ายทำเอ็มวี 4 วัน แต่จริงๆคือฝนตก และอากาศก็ไม่ค่อยดี จริงๆแล้วถ้าอากาศดีอาจใช้แค่สองวัน คือเพลงนี้คิดเอ็มวีเองเกือบหมดเลยและได้ Phil Tetu เพื่อนที่ทำเอ็มวีเพลง No way without U เป็นคนถ่ายด้วย และเอ็มวีเพลงนี้ ดีเจ บุดด้า ก็ได้มาร่วมแสดงด้วย
กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนแรกเพลงนี้ไม่ได้โปรโมทในไทยเลย คือก่อนหน้านี้ไปเปิดตัวที่ญี่ปุ่น ที่งาน Summer Jam ก็ได้พวกดีเจในนิวยอร์กก็ชวนเราไปโปรโมทที่อเมริกา ไปสัมภาษณ์หลายๆที่ ก็พึ่งได้กลับมา
วงการเพลงในประเทศไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา มีความต่างที่ชัดเจนตรงไหนบ้าง ในความคิดของคุณเวย์
ที่อเมริกาตังค์เยอะกว่าครับ (หัวเราะ) เวลาทำโปรดัคชั่นก็ลงทุนได้มากกว่า คือเขามีสื่อเฉพาะทางเยอะมาก มีคลื่นสำหรับศิลปินฮิปฮอปโดยเฉพาะ แต่ที่ไทยจะรวมๆกันหมด ที่นู่นจะ ป๊อปก็ส่วนป๊อป ฮิปฮอปก็ส่วนฮิปฮอป ที่ไทยนี่ยังไม่มีสื่อที่โฟกัสฮิปฮอป และในไทยนี่ดนตรีป๊อปและร็อกจะเป็นกระแสหลักแต่ที่อเมริกา ฮิปฮอปจะเป็นกระแสหลักครับ
ในฐานะที่คุณเวย์อยู่ในวงการเพลงมาตั้งแต่ยุค 90s มาจนปัจจุบัน ชอบการทำงานในยุคไหนมากกว่ากัน
ยุคนี้สิครับ (หัวเราะ) คือตอนแรกที่เริ่มเป็นศิลปิน ยังค้นหาตัวเองไม่เจอเลย ตอนเป็น Teen 8 Grade A คือทัศนคติไม่น่ารักเลย เพราะไม่ชอบสิ่งที่ทำ คือถ้าเรามองกลับไป ผมตอนนั้นคือความสามารถไม่มีความสามารถอะไรเลย อยู่ดีเหมือนได้มาออเทป แต่ตรงนั้นเป็นบันไดขั้นแรกๆ ถ้าไม่มีตอนนั้นก็อาจจะไม่เข้าใจว่าวงการเพลงไทยเป็นยังไง คือตอนเป็นไทยเทเนี่ยมใช้ประสบการณ์จากตอนนั้นเยอะมากทั้งการทำเพลงและทำค่าย
คือตอนสมัย Teen 8 Grade A ขายได้ห้าแสนตลับ แต่ตอนนี้ไม่ได้เน้นตรงนั้นเลย ย้ายมาเป็นยอดวิวยอดไลค์ อีกอย่างตอนเป็น Teen 8 ก็ดัง แต่ไม่ได้ตังค์คือแปดคนต้องหารสามบาท แต่พอมาเป็นอิสระ และทำค่ายของเราเองก็หาเงินได้มากขึ้น
ทางวง Thaitanium มีโปรเจ็ค Rap bootcamp ด้วย โปรเจ็คนี้เริ่มขึ้นมาได้อย่างไร
คือขันมีเว็บ Asiola ก็อยากทำโปรเจ็คแปลกใหม่แนว Crowd funding ก็เลยอยากสอนวิชาของพวกเราให้ทุกคน คือพวกเราเรียนรู้เอง เลยอยากสอนรุ่นน้อง และหาศิลปินหน้าใหม่ด้วย
เป้าหมายสูงสุุดในการเป็นศิลปิน ของคุณเวย์คืออะไร
ผมอยาก Represent ประเทศไทย และไปให้ไกลที่สุดครับ คือเชื่อว่ามีฝีมือและเราทำเพลงภาษาอังกฤษได้ คือผมไม่มีไอดอลที่เป็นคนไทยเลย โตขึ้นมาก็ชอบ Michael Jordan ชอบ Jay-Z หรือ เฉินหลง คือก็ต้องตั้งใจเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นใหม่ครับ ส่วนตัวผมคิดว่าการไปอินเตอร์มันไม่ได้เว่อร์ คือเราสามารถอยู่เมืองไทยแล้วเพลงสามารถข้ามไปได้ เพลงเราที่นี่ก็พีคมาแล้วก็ต้องข้ามไปอินเตอร์ครับ
ก่อนหน้านี้เพลงและเอ็มวีเพลง No way without U มีคนชื่นชอบเยอะมาก จะมีเพลงแบบนี้อีกหรือไม่
ก็มีอยู่แล้วครับ ผมก็ต้องกลับมาทำเพลงภาษาไทยอยู่แล้ว เพราะฐานะแฟนเพลงเป็นคนไทย คือที่ทำเพลงอินเตอร์อยากพิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้ก็ทำไว้แล้วเป็นเพลงไทยฟังง่ายๆ แต่ต้องรอจังหวะและโอกาส คือตอนนี้ก็มีซิงเกิ้ลอื่นที่จะปล่อยด้วย
หลายๆคนชื่นชอบความน่ารักของครอบครัวของคุณเวย์ ส่วนตัวแล้วอยากให้ลูกเข้าวงการเพลงหรือวงการบันเทิงไหม
แล้วแต่เขาเลยครับ ถ้าเขาอยากเป็นนักเทนนิสผมก็จะสนับสนุน ตอนเด็กผมเองไม่ได้มีโอกาสตรงนี้ คือถ้าผมรู้ว่าลูกชอบอะไร เราก็จะเต็มที่ตรงนั้น คือไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้องหรือดารา แต่จริงบรูคลินชอบฟังเพลง ชอบดนตรี บีน่าก็ชอบแสดง คือมันก็มีข้อดีข้อเสียกับการอยู่วงการ เราก็อาจจะเเชร์ประสบการณ์ แต่เขาต้องเลือกเองครับ
คลิกผลงานเพลงทั้งหมดของ เวย์ Thaitanium ได้ที่นี่
เรียกได้ว่านอกจากจะเป็นศิลปินที่ดังแล้ว คุณเวย์เองก็เป็นคนที่มีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับวงการเพลง และตัวเขาเองก็พร้อมที่จะเล่าและเเชร์ รวมถึงทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นไอดอลให้กับศิลปินรุ่นน้องด้วย ซึ่งแฟนก็สามารถติดตามเอ็มวีใหม่ของเขาได้ที่ Channel YouTube Daboyway และสามารถฟังเพลงของคุณเวย์และวงไทยเทเนี่ยมได้ที่ Sanook! Music และ Joox เช่นกันครับ
Story : LEGENDARYPEPPER
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ