วิวัฒนาการเป๊ะปังอลังเวอร์ ตามสไตล์ "นิว-จิ๋ว"
ถ้าพูดถึงคู่ดูโอ้หญิงเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก นิว - นภัสสร ภูธรใจ และ จิ๋ว - ปิยนุช เสือจงพรู ทั้งคู่แจ้งเกิดจากเวทีเดอะสตาร์ ด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง บวกกับเทคนิคการร้องที่มีเอกลักษณ์ชนิดหาตัวจับได้ยาก กว่า10 ปีที่โลดแล่นในวงการเพลง ได้ผลิตผลงานเพลงที่มีคุณภาพอย่าง เพลง คนเจ้าน้ำตา ไม่รัก....ไม่ต้อง และ ฉันก็รักของฉัน ที่ต่างติดหูกันทั่วบ้านทั่วเมือง นอกความสามารถที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆแล้ว สไตล์ของทั้งคู่ยังได้พัฒนาขึ้นมาอย่างชนิดที่ว่าจาก Girls Next Door มาเป็น Girls to Glam ได้อย่างน่าสนใจมาก เรามาดูกันว่า 2 สาวได้ทรานฟอร์มเสื้อผ้า หน้า ผม กันมาแล้วกี่ลุค ถึงได้ดูงามปะล้ำปะเหลือ งามแต๊ะงามว่า ซะขนาดนี้
นิว จิ๋ว ยุคประกวดเดอะสตาร์ เวทีนี้เป็นครั้งแรกที่ทำให้เราได้พบกับผู้เข้าแข่งขัน 2 สาวชาวเชียงใหม่ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงอันไพเราะ และยังได้สัมผัสกับมิตรภาพของนิวและจิ๋วในระหว่างการประกวด ถือเป็นยุคบุกเบิกของทั้งเครื่องหน้าและสไตล์ของทั้งคู่ บอกได้คำเดียวพี่ม้ายังต้องกุมขมับ เพราะทั้งสองสาวมาทั้งยูนิฟอร์มนักศึกษาอยู่เลย มาออดิชั่นนะ ใส่ชุดนักศึกษา อะไรกันคะ คืออะไรกัน ไหนตอบพี่ม้าหน่อย และจากที่สังเกต คาดว่าทั้งคู่น่าจะช่วยกันหนีบผมก่อนมาออดิชั่นแน่ๆ ผมมันจะต้องตรงขนาดนั้นเลยเหรอค่ะซิส
อัลบั้ม NJ together พ.ศ. 2548 (คลิกฟังได้ที่นี่)
เป็นอัลบั้มแรกที่ทั้ง 2 สาวได้ร่วมทำงานด้วยกันในนามศิลปินคู่ เน้นเพลงฟังสบาย ที่ไปในทางเดียวกับกับการแต่งตัวของทั้งคู่ที่ดูสบายๆ บางทีก็ดูจะสบายเกินไป จนอยากจะตะโกนบอกว่า “แต่งตัวเยอะๆหน่อยก็ได้” มองๆไปเสื้อขาว และกางเกงยีนส์ทรงกระบอกขาตรงแบบนี้ ก็แอบคล้ายกับ 7 สาววง SEVEN อยู่เหมือนกัน ในส่วนทรงผมและการแต่งหน้ายังไม่เปลี่ยนไปมากจากตอนประกวดเดอะสตาร์เท่าไหร่ แต่เอาน่าใจเย็นๆก่อน มันต้องมีช่วงตัวอ่อนก่อนจะเป็นผีเสื้อ
อัลบั้ม Next step พ.ศ. 2554 (คลิกฟังได้ที่นี่)
เป็นอีกก้าวสำคัญของสองสาว สำหรับ 6 ปีที่หายไปพวกเธอได้กลับมาทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการกระชากความสบายๆในอัลบั้มที่แล้วทิ้ง วู้! เปลี่ยนลุคให้ฉูดฉาดกว่าเดิม ว้าว! แขนกุดขาสั้นก็ใส่เป็นแล้วนะจ๊ะ โชว์เนื้อหนังมังสามากขึ้น โดยดูจะคุมโทนเป็นสีพื้นซะส่วนใหญ่ ดำ ขาว ครีม เทา จะไม่มีสีฉูดฉาดเท่าไหร่ ทิ้งเสื้อเชิ้ตขาวกางเกงยีนส์แบบวง SEVEN ไปหมดแล้ว พอกันทีกับเสื้อผ้าการ์เม็น จะทรานฟอร์มทั้งทีต้องใส่เสื้อผ้าจากบูติก ตามแบบ Young Diva ที่ดูมั่นใจและเซ็กซี่ขึ้น ถ้าให้เปรียบเทียบ ช่วงนี้ก็เหมือนดักแด้รอเวลาฟัก เตรียมกระพือปีกเต็มที่ ในอัลบั้มต่อๆมา 2 สาวได้ยึดสไตล์นี้ไว้และสถาปนาเป็น “นิวจิ๋วสไตล์” อย่างในปัจจุบัน
อัลบั้ม Signature พ.ศ. 2556 (คลิกฟังได้ที่นี่)
หลังจากได้สไตล์ที่ลงตัวแล้วทั้งคู่ ทั้งสองก็ยึดเป็นลายเซ็นของการแต่งตัวไปเลย อัลบั้มนี้จึงเปิดมาด้วยการทำให้ภาพลักษณ์มีความสมบูรณ์แบบมากกว่าอัลบั้มเก่า สีสันของเสื้อผ้า เครื่องประดับมีการจับคู่สีที่ใช้อย่างหลากหลาย ฉูดฉาด คัลเลอร์ฟูลมากขึ้น ดูสดใสและโฉบเฉี่ยว แต่ก็ไม่ได้เยอะจนดูล้นหรือบดบังความสามารถของทั้งคู่แต่อย่างใด เข้าที่เข้าทางไปหมด ทั้งสไตล์ เสื้อผ้าหน้าผม ลงตัวเป็นที่สุด ให้ความรู้สึกของ Diva เต็มตัว
อัลบั้ม Precious Time พ.ศ. 2557 (คลิกฟังได้ที่นี่)
ถ้าบอกว่าอัลบั้ม Signature คือการการเติมเต็มส่วนที่ขาดไปแล้ว Precious Time เป็นอัลบั้มที่เสริมจุดเด่นที่มีอยู่ให้ ด้วยการเปิดตัวมาในลุคของ Disco Diva ทรงพลัง สุดจะเอเลแกนซ์ แกลมเมอรัส และการเล่นกับสีผมที่เปลี่ยนบ่อยมาก ปกอัลบั้มสีหนึ่ง ตัวมิวสิควีดีโออีกสี แอบสงสารรากผมเหมือนกัน โดยรวม เป๊ะ ปัง และไม่โป๊ะ ส่วนเรื่องความสวยดีเทลหน้าตาผมเผ้าผ้าผ่อน มันจบแล้ว มันจบไปแล้ว จบตั้งแต่อัลบั้ม Signature แล้ว ทุกอย่างเข้าที่หมดแล้ว ปิดจ๊อบแล้วค่ะซิส ที่สุดของความสวยเลอค่า //ปรบมือ //แอบปาดน้ำตา มองด้วยความภูมิใจ
ก็ต้องติดตามกันต่อไป สำหรับการแต่งตัวของนิวจิ๋ว ในอัลบั้มหน้า ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงออกมาในรูปแบบไหน แต่ถ้าใจร้อนกันจริงๆ อยากติดตามทันที ก็แวะเข้าไปดูในไอจีของทั้ง2สาวได้ที่... @brandnew_nj และ @jewelry_nj บอกเลย เป๊ะ ปัง อลังเวอร์!
Story : กรพัฒน์ ปานอ่อน
อัลบั้มภาพ 16 ภาพ