"เนปาล พิษณุ" การจากไปของน้องชาย ทำให้เขาตัดสินใจแข่ง " The Voice 4"

ถึงแม้ว่ารายการเดอะวอยซ์ซีซั่น 4 จะจบลงไปนานแล้ว แต่เส้นทางของผู้เข้าแข่งขันหลายคนนั้นกำลังเริ่มต้น และหนึ่งในศิลปินเดอะวอยซ์ซีซั่นที่กำลังมีผลงานงานในตอนนี้ก็คือ เนปาล พิษณุ หนุ่มร็อกลูกทีมโค้ช ก้อง สหรัถ ที่กำลังโปรโมทซิงเกิ้ลใหม่อย่าง ว่ายทวนน้ำ ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากน้องชายของที่เสียชีวิตไป และวันนี้เขาก็ได้มาเล่าถึงเส้นทางการแข่งขันเดอะวอยซ์ และผลงานใหม่ของเขาให้กับทีมงาน Sanook! Music ด้วย 

อะไรคือแรงบันดาลใจให้คุณเนปาลเข้าแข่งรายการเดอะวอยซ์ ซีซั่นที่ 4

คือได้ยินชื่อมาสามซีซั่นแล้วครับ ก็มีคนบอกให้ลองไปดู แต่พอซีซั่น 4 ก็มีน้องชายที่เล่นดนตรีด้วยกัน และผมทราบทีหลังว่าน้องเขาอยากมาออดิชั่นรายการซีซั่น 4 เราเองก็ชอบประกวดอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจเข้าแข่ง

ทำไมถึงเลือกทีมโค้ชก้อง

ก็มีกดสามคน มีโค้ชสิงโต โค้ชก้องและโค้ชโจอี้ ที่เลือกพี่ก้องเพราะเป็นสไตล์ที่เขา คือเล่นกีต้าร์ชอบเพลงร็อก คิดว่าน่าจะคุยกันรู้เรื่อง 

ได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำงานกับโค้ชก้อง

ได้มองแทนสาวๆ ว่าแกหล่อจริง (หัวเราะ) ภายนอกพี่ก้องเป็นคนน่ารัก คือให้คำปรึกษาดี เหมือนพี่ชาย ไม่ได้ดูเป็นดาราเลย พี่ก้องจะบอกคนที่ตื่นเต้นให้คิดว่าเรามาเล่นในงานปาร์ตี้ให้เพื่อนๆ แล้วพี่เขาจะดูด้วยว่า เราต้องเสริมหรือลดอะไรบ้าง 

หลังจากรายการคุณเนปาลมีผลงานอะไรบ้าง

ปกติผมเล่นดนตรีกลางคืนอยู่แล้ว แต่ก็จะมีการได้เดินสายต่างจังหวัดที่ผมชอบมาก เพราะเหมือนได้เที่ยว และเดือนมิถุนายนก็ได้ทำซิงเกิ้ลเพลง ว่ายทวนน้ำ คือเพลงนี้แต่งขึ้นมาก่อนผมจะประกวดเสียอีก เพลงนี้พูดถึงคนที่มีความฝันแตกต่าง เหมือนผมกับน้องที่ชอบดนตรีและเสียงเพลง ซึ่งต่างจากคนในครอบครัว คือเป็นอะไรที่สวนกระแส เหมือนการว่ายทวนน้ำ จนน้องชายผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ตอนไปเฝ้าเขาก่อนเสียชีวิต มีเวลาว่างเลยมีไอเดียเป็นเพลงนี้ พอเปิดซิงเกิ้ลเดี่ยวเลยเอาเพลงนี้มาทำ

ได้ยินว่าคุณเนปาลมีวงด้วย วงของคุณเนปาลมีส่วนร่วมกับเพลงนี้หรือเปล่า

ปกติชีวิตกลางคืนก็จะเล่นในผับเป็นวง Feelgood band น้องผมจะเป็นตัวหลักในการเล่นกีต้าร์ ก็จะเป็นร็อก 70s จะมีสไตล์การแต่งตัวและเเนวเพลงชัดเจน พอประกวดจบก็ยังเล่นเดียวกัน ตอนทำซิงเกิ้ลเลยพาวงมาช่วยทำดนตรีด้วย ถึงสมาชิกจะเปลี่ยนไปบ้่าง ตอนแรกอัดเป็นเดโม่กับกีต้าร์ให้เพื่อนฟัง แล้วก็ไปเข้าห้องซ้อม

เนื้อหาเพลงนี้พูดถึงเรื่องอะไร 

คือมันพูดรวมถึงคนที่มีความฝันทั่วไป คืออยากให้คนเห็นภาพ เลยใช้เอ็มวีเป็นสิ่งที่ทำให้คนเห็นภาพ ในมิวสิควีดีโอจะพูดถึงชีวิตคนสามคนที่มีอาชีพต่างจากกระแสในสังคม มีสามอาชีพ อย่างสามีภรรยาที่เล่นเพลงบลูที่ตรอกข้าวสาร ซึ่งต่างจากวงทั่วไป และน้องนักศึกษาที่เป็นยาม แต่พอเรียนจบก็เป็นนิติกร และก็การทำความดีสวนกระแสสังคม คือคุณลุง Taxi ที่เจอกระเป๋าผู้โดยสาร เขาต้องต่อสู้กับกิเลส แต่ก็ตัดสินใจเอาไปคืน ถึงแม้ว่ามันจะไม่ตรงกัยกระแสหลัก แต่ถ้ามันเป็นสิ่งทีดีและเรา Keep fighting เราต้องถึงจุดหมายแน่นอน ก็อยากเป็นการให้กำลังใจให้ทุกคนครับ

กระแสตอบรับจากเพลงเป็นอย่างไรบ้าง

ผมวางตัวเองให้มีกลุ่มครับ แบบคนที่ชอบดนตรี 70s-80s คนที่เข้ามา Comment ที่ชมก็จะเป็นแฟนเพลงแนวนี้ หลายๆคนก็บอกว่ารอซิงเกิ้ลที่สองแล้ว ก็รู้สึกดีที่เราไม่ได้เเค่เข้าประกวดแล้วหายไปเฉยๆ  

ก่อนหน้าจะได้ออกซิงเกิ้ลนี้ มีค่ายเพลงทาบทามไหม 

เพลงนี้อยากให้มาจากตัวเองเต็มที่ คือคิดว่าถ้าอยู่กับสังกัด มันอาจจะไม่ได้เป็นเราเต็มร้อย

คลิกชมมิวสิควีดีโอเพลง ว่ายทวนน้ำ - เนปาล พิษณุ ได้ที่นี่

แพลนเรื่องซิงเกิ้ลที่สองไว้หรือยัง 

คุยกับที่วงไว้แล้ว ก็ยังคิดอยู่ว่าจะอยู่กับค่ายไหม หรือจำทำกันเองต่อ ก็คุยว่าจะทำเหมือนเพลง ว่ายทวนน้ำ ไหม หรือจะปรับให้แมสมากขึ้น แต่จะคงความเป็นตัวตนแน่นอน ตอนนี้ก็มีงานจ้าง งานเล่นดนตรีกลางคืน แต่ต้องแบ่งเวลาทำซิงเกิ้ลที่สอง

นอกจากเป็นนักดนตรีแล้ว เราได้ทำงานประจำด้วยหรือเปล่า

ตอนแรกอยู่ Magazine ครับ ก่อนที่จะออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคม ก็ทำเป็นกองโฆษณา Advertorial แต่ก็มีออกไปสัมภาษณ์คนบ้างครับ  

คุณเนปาลคิดว่าจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของอยู่ที่ตรงไหน 

คาเเร็คเตอร์ผมก็เป็นแนว 70s-80s ครับส่วนการเขียนเพลง ผมจะชอบเขียนและแต่งกลอน บางทีก็จะเอาคำอย่าง มัจฉา อย่างเนื้อที่ร้องว่า "เป็นวิถีของคนที่จากจร เขียนเพลงตัดรอนต่อโชคชะตา" ก็จะเป็นสไตล์ของผมในการเขียนเพลงครับ  

คนส่วนมากมองว่าการร้องเพลงเป็นอาชีพเสริม คิดว่าการเป็นนักร้องกลางคืนอย่างเดียวมันเสี่ยงไปไหม

ตอนแรกผมก็ทำงานกลางวันอย่างเดียว แต่เราหนีตัวเองไม่ได้เลยตัดสินใจมาลองเล่นดนตรี พอมาเล่นกลางคืนก็ชอบเลยทำสองอย่าง หลังจากประกวดเราก็เวลาน้อยลงเลยตัดสินใจลาออกมาจากงานประจำ คือผมเองก็กลัวนะ เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้ แบบเงินเดือนไม่มี งานจ้างเราอาจน้อย วันหนึ่งอาจตกกระป๋อง ผมเคยกลัวครับ แต่ตอนนี้คิดแล้วว่าเราต้องทุ่มและเสียงดู 

เป้าหมายในการเป็นศิลปินของคุณเนปาลคืออะไร

ถ้ามีโอกาส ก็อยากเขียนเพลงไปเรื่อยๆ อาจจะทำเพลงให้น้องๆ และทำเพลงให้ตัวเอง คืออยากลองทำเบื้องหลัง

ในอนาคต คุณเนปาลอยากจะมาประกวดรายการเดอะวอยซ์อีกหรือเปล่า 

คงไม่แล้วละครับ คือเขากำหนดว่าถ้าเข้ารอบปีนี้ ต้องเว้นหลายปีถึงไปแข่งใหม่ได้ แต่คงไม่แล้วครับ ก็คงอยากทำเพลงต่อเนื่องให้แฟนๆ ไม่ลืม  

เรียกได้ว่าถึงแม้จะพึ่งเริ่มต้นในวงการเพลงไทย แต่คุณเนปาลเองก็มีความสามารถและทัศนคติที่ดีมาก ซึ่งแฟนๆสามารถติดตามผลงานของคุณเนปาลได้ที่ Facebook Nepalthevoice และ Instagram Nepalpissanu และไปชมการร้องเพลงของคุณเนปาลได้ที่ร้าน โกดังบังกะโล ลาดพร้าว และ Spazso พระรามเก้า ครับ