"บ่าววี อาร์สยาม" กับบทเรียนราคาแพงที่ได้รับจากโลกโซเชียล

เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพลง "ขอนไม้กับเรือ" ของศิลปินลูกทุ่งเพื่อชีวิตอย่าง "บ่าววี อาร์สยาม" นั้นเป็นเพลงที่โด่งดังมาก จนทำให้คุณบ่าววีได้กลายเป็นศิลปินเต็มตัว ซึ่งในวงการของคุณบ่าววีนั้นนอกจากจะมีผลงานออกมามากมายแล้ว เขาก็ต้องเจอเรื่องราวของข่าวคราวมากมายอย่างเช่นการโพสต์รูปที่ไม่เหมาะสม จนทำให้เขากลายเป็นข่าวดังเมื่อกลางปีที่ผ่านมา

ซึ่งหลังจากวันนั้น คุณบ่าววีก็กลับมาพร้อมผลงานใหม่ที่ได้ร่วมงานกับวงร็อกรุ่นน้องอย่างวง เคลิ้ม ในเพลงที่มีชื่อว่า "ไม่คู่ควร" และก็ได้แวะมาเยี่ยม Sanook! Music พร้อมกับเล่าถึงผลงานใหม่ รวมถึงพูดถึงบทเรียนที่ได้รับจากการใช้โซเชี่ยลผิดวิธีด้วย 

วงเคลิ้ม และ คุณบ่าววี

รู้สึกอย่างไรที่วงเคลิ้มชักชวนให้มาร่วมงานกับซิงเกิ้ลเพลง "ไม่คู่ควร"

บ่าววี : ต้องขอบคุณเป้และน้องๆวงเคลิ้ม คือทางบริษัทโทรมา ตอนแรกตัดสินใจไม่ได้ของลองฟังก่อน แต่พอฟังไกด์ได้นิดนึง ประมาณสามชั่วโมง ก็โทรกลับไปและบอกว่าโอเค สาเหตุที่รวมงานด้วยเพราะมีบางส่วนของเพลง ขอนไม้กับเรือ ที่ร้องแบบป๊อปคือรู้สึกว่าดนตรีเพลงนี้มันทำมาดีมาก และเป็นโอกาสที่ครบรอบ 10 ปีของเพลงนี้ด้วย   

การทำงานกับวง เคลิ้ม ต้องปรับจูนยากไหม 

บ่าววี : ตรงนี้เป็นคำถามที่ดีมาก ตอนแรกก็พะวงนิดนึง เพราะเป้เป็นคนที่คุมงานในห้องอัด ตอนแรกผมเลยบอกว่าขอเป็นตัวเองได้ไหม แต่เป้ก็บอกว่า นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ 

 

คุณมีส่วนร่วมกับเพลงนี้อย่างไรบ้าง 

บ่าววี : พอได้รับไอเดียจากน้อง ก็ไปเข้าห้องอัด ตอนนั้นมีไอเดียของเรามากมายอย่างการเอื้อน แบบลูกทุ่ง ได้ช่วยน้องคิด ตอนทำเอ็มวีเราก็คอยให้คำปรึกษาและเเชร์ไอเดีย 

คลิกชมมิวสิควีดีโอ ไม่คู่ควร - เคลิ้ม Feat บ่าววี อาร์สยาม

เป้ นักร้องนำวง "เคลิ้ม" และ คุณบ่าววี

 

ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของบทเพลง "ขอนไม้กับเรือ" แล้วยังมาร่วมร้องเพลง "ไม่คู่ควร" ซึ่งเหมือนเป็นภาพต่อ คุณมีคำแนะนำอย่างไรกับคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง

บ่าววี : ผมว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดได้กับทุกคน อย่างเนื้อหาเพลงมันเป็นการเสียสละ คือถ้าเราเคยรักใครแล้วเขาไปได้ดี ถึงเราจะเจ็บ แต่ก็ควรยินดีกับเขา ไม่ควรเป็นศัตรูกัน ควรมองเขาในแง่ดี เวลาเจอข้างนอกก็ให้ทักทายกันแบบเพื่อนได้ครับ

 

คุณอยู่วงการเพลงมาแล้วสิบปี รู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงจากยุคซีดีสู่ยุคดิจิตอล

บ่าววี : อัลบั้มชุดแรกของผมที่มีเพลง ฝากฟ้า ตอนนั้นยังมีเทปอยู่เลย พอมาชุดที่สองก็ไม่มีเทปแล้ว ตอนนั้นคือถล่มทลายทำลายสถิติของค่ายอาร์สยามเลย ชุดที่มีเพลงขอนไม้กับเรือ มียอดขายล้านก๊อปปี้เเล้ว หลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคดาวน์โหลดดิจิตอล เดี๋ยวนี้กลายเป็น YouTube คือทำเองอะไรเองได้ เดี๋ยวนี้ไม่บริษัทก็ทำได้ ยุคนี้เลยมีเพลงเยอะมาก ต่างจากตอนขอนไม้กับเรือ คือคนละเรื่องเลย

การใช้ชีวิตเปลี่ยนไปมาก อย่างแฟนเพลงผมที่เคยฟังเทปฟังวิทยุที่เป็นรากหญ้า บางทีก็ดู YouTube เล่นเน็ตไม่ได้ บางทีก็ตามไม่ทัน พอไปสอนวิธีใช้อินเตอร์เน็ตบางคนก็ยังทำไม่เข้าใจ คือสู้เด็ก 18-19 สมัยนี้ไม่ได้  

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คุณเจอผลกระทบจากโลกโซเชียล 

บ่าววี : การโพสอะไรแบบนี้มันต้องระวัง ผมเป็นคนที่ค่อนข้างบ้านนอก บางทีทำอะไรก็ไม่คิด ลืมตัวตนที่ยิ่งใหญ่ไป ตอนนั้นอยู่บ้านเฉยๆ ถ่ายรูปกับพี่ๆน้องๆ ก็ได้ขอโทษไปแล้ว ทุกวันนี้ก็ระแวง คือทำอะไรก็ต้องดู จะถ่ายต้องสังเกตว่ามีอะไรบ้าง เดี๋ยวนี้ก็มีคนแซวเวลาเช็คอิน ว่ามีใบไอนั่นหรือเปล่า มันก็ทำให้เรารู้ว่าความผิดพลาดนั้นทำให้เราได้รู้ว่าแฟนเพลงและผู้ใหญ่หรือสื่อมวลชนคิดยังไง มันไม่ใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นความพลั้งเผลอ เราอาจจะเปลี่ยนความง่ายๆของเราไม่ได้ แต่เลือกที่จะระวังได้

ทุกวันนี้ยังเล่นโซเชี่ยลอยู่หรือเปล่า 

บ่าววี : ยังเล่นเหมือนเดิมทุกวัน แต่หลังจากวันนั้นได้ยอดฟอลโล่มาเยอะมาก หลายคนก็มาให้กำลังใจ คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวิถีชีวิตบ้านๆ ที่หลายคนไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ทำให้หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าดูเรื่องใบกระท่อมว่าอะไรเป็นอย่างไร คือก็อยากบอกผู้ใหญ่นะครับว่าที่ ใบประท่อมญี่ปุ่นเขาจดทะเบียนเป็นยา แต่ที่นี่มองว่าเป็นสารเสพติด คือมันน่าเสียดายครับที่เรามองภูมิปัญญาพื้นบ้านแบบนี้

มีอะไรที่พี่อยากฝากถึงเด็กรุ่นใหม่ เกี่ยวกับการเล่นโซเชียลบ้าง

บ่าววี : ล่าสุดก็มีน้องคนหนึ่งไปโดนตำรวจจับที่นครศรีธรรมราช แล้วโพสต์ว่ายังไงก็รอด และก็ดันเขียนตอนจบว่าขอบคุณนายหัวบ่าววี ซึ่งผมดันไม่รู้จักน้องคนนั้น แต่ก็มีคนมาถามว่าผมไปช่วยน้องเขาเหรอ ก็เลยต้องแค็พลงแล้วบอกว่าแบบนี้มันเสียหายนะ คือภาพมันไปไกลมาก คืออยากให้คิดว่าสิ่งที่เราทำมันเหมาะสมหรือเปล่า ก็ไม่ได้ให้โพสต์อะไรดีเกินไปนะ เพราะเดี๋ยวจะโดนว่าสร้างภาพ แต่อยากให้คิด 

เรียกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็สร้างความเสียหายและบทเรียนมากมายให้กับคุณบ่าววี แต่ด้วยความที่เขาเรียนรู้จากความผิด ทำให้หลายคนให้กำลังใจจนเขาได้กลับมาพร้อมผลงานใหม่กับวงเคลิ้ม ซึ่งสัปดาห์หน้า Sanook! Music จะนำบทสัมภาษณ์และเรื่องราวของ วงเคลิ้ม มาให้ทุกคนได้อ่าน ฝากติดตามกันด้วยนะครับ

 

Story : LEGENDARYPEPPER