แรงบันดาลใจในสายดนตรี ของ ซุง Mattnimare | Sanook Music

แรงบันดาลใจในสายดนตรี ของ ซุง Mattnimare

แรงบันดาลใจในสายดนตรี ของ ซุง Mattnimare
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เป็นที่ทราบดีกันว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ มากมาย รวมถึงด้านดนตรี โดยพระองค์ทรงสร้างสรรค์พระราชนิพนธ์ทางดนตรี ที่มีความไพเราะไว้มากและติดตรึงใจปวงชนชาวไทยตลอดมา  



สำหรับ กิดาการ ฉัตรแก้วมณี หรือ ซุง มือกีต้าร์ ของวง Mattnimare ที่ควบตำแหน่งเป็น Producer ให้กับวงดนตรีอื่นอีกหลายวง ก็เป็นนักดนตรีคนหนึ่งที่มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในทางเดินสายดนตรีนี้


                    

“ผมเริ่มเล่นกีต้าร์ตอนประมาณ ป.5 ครับ ตอนนั้นก็เล่นตามเพื่อนเพื่อโชว์สาวปกติ แต่พอเริ่มเข้า ม.1 ผมได้มีโอกาสเริ่มเล่นแซกโซโฟน ซึ่งภาพของเครื่องดนตรีชิ้นนี้เท่าที่จำความได้ เราได้เห็นครั้งแรกจากที่ในหลวงทรงเล่น หลังจากนั้น ม.4 ผมก็เริ่มเล่นกีต้าร์คลาสสิก และเพลงแรกที่ผมเล่นในกีต้าร์คลาสสิกก็คือเพลง “ชะตาชีวิต” หรือเพลง H.M.Blues ซึ่งผมบังเอิญเจอโน้ตเพลงนี้ในนิตยสารดนตรีเล่มหนึ่งในตอนนั้น ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่อ่านโน้ตเพลงนี้ ผมงงเป็นไก่ตาแตกเลยว่า โน้ตพวกนี้มันมายังไง คือผมไม่เคยเจอในเพลงทั่วไปที่ผมฝึกเล่นมาก่อนหน้านี้ จนต่อมาจึงได้รู้ว่ามันเป็นโน้ตของดนตรี Blues หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้ฝึกเล่นเพลงพระราชนิพนธ์อีก 2-3 ลำดับทั้งในกีต้าร์และเครื่องเป่า

สำหรับผมแล้ว ในหลวงไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจ แต่ยังทรงเป็นครูที่ช่วยให้ผมมีทัศนคติต่อดนตรีที่ดีขึ้นอีกด้วย สิ่งที่ผมเรียนรู้จากท่านคือ แม้ว่าท่านถนัดดนตรี Jazz แต่ท่านก็ยังมองดนตรีทุกประเภทเป็นดนตรี และทุกประเภทดนตรีมีความเหมาะสมของมัน

มีช่วงแรกๆที่ผมเริ่มทำดนตรี ยอมรับว่าช่วงนั้นผมมีอัตตาคติต่อแนวเพลงที่เราชอบ และก็มีอคติต่อแนวเพลงที่เราไม่ชอบอยู่บ้าง ผมพบว่า การคติต่ออะไรบางอย่าง เป็นเหมือนกับการวางกับดักให้ตัวเองในอนาคต คือ วันหนึ่ง พอเราต้องทำดนตรีที่มีแนวทางอื่นๆ เราจะทำไม่ได้ เพราะใจเรามันปิดไปแล้ว (ที่ไปอคติมันตอนแรก) ซึ่งสอดคล้องกับพระราชดำรัสของในหลวงอย่างมาก

หลังจากนั้นผมก็เริ่มมองดนตรีอย่างสบายๆ ผมคิดว่าการที่เรามีบุญได้เกิดอยู่ในประเทศที่มีพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงดนตรี และเป็นคีตกวี มันเหมือนเป็นการปลูกฝังจิตใต้สำนึกอยู่ลึกๆแล้วว่า ดนตรีเป็นศิลปะขั้นสูงที่มีคุณค่า ทำให้เราไม่ได้มองดนตรีเป็นแค่สิ่งบันเทิง แต่มันคือวิชาที่ใช้ขับกล่อม และเหมือนกับศิลปะทุกแขนง ที่ต้องการการรักษาและต่อยอดอยู่เสมอ และผมรู้สึกภูมิใจอยู่เสมอที่ได้รู้ตัวว่า เราได้รักศิลปะชนิดนี้อย่างที่พระองค์รัก และก็เป็นแรงขับให้ผมยังรับใช้ดนตรีต่อไป



การสิ้นพระชนม์ของในหลวงก็ทำให้ผมได้กลับมาทบทวนตัวเองหลายๆอย่างเหมือนกันว่าที่ผ่านมา เราทำดีพอหรือยังในทุกๆเรื่อง ทั้งดนตรี และการทำสิ่งดีๆเพื่อผู้อื่น สิ่งที่ดีที่สุดที่ผมทำได้ก็คงเป็นการทำเพลงและเขียนเพลงที่เป็นผลดีกับคนฟังต่อไปไม่มากก็น้อย”

Story : อิงกาญจน์ ผลโพธิ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook