“โค้ชก้อง” เผยชีวิตขาดดนตรีไม่ได้! ประกาศ!งดรับงานแสดงเมื่ออายุ 50 | Sanook Music

“โค้ชก้อง” เผยชีวิตขาดดนตรีไม่ได้! ประกาศ!งดรับงานแสดงเมื่ออายุ 50

“โค้ชก้อง” เผยชีวิตขาดดนตรีไม่ได้! ประกาศ!งดรับงานแสดงเมื่ออายุ 50
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ล่าสุด พี่ก้อง สหรัถ มารับบทบาทการแสดงภาพยนตร์อีกครั้งใน “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” ซึ่งรับบทที่ใกล้เคียงกับตัวเองและได้เอ่ยบอกชม...และยอมรับความสามารถ “ใหม่ ดาวิกา” เทียบชั้นนักร้องชั้นนำ 

“ใหม่ ดาวิกา” ร้องเพลงเป็นไงบ้าง
........ก็โอเคนะ เขาเป็นนักร้องคนหนึ่งได้เลย ได้มาตรฐาน สามารถที่จะทำอัลบั้มได้ แต่ถ้าว่าทำดีไหม ระดับแบบพี่ไก่ เดอะว้อยซ์ไหม ก็คงไม่ได้ แต่ถามว่าร้องเพลงดีมั๊ย โอเค.ร้องได้ ร้องดี แต่ก็ไม่ใช่ระดับพี่ไก่ หรือเจนนิเฟอร์ คิ้ม แต่ถ้าถามว่าให้เขาร้องเพลง ออกอัลบั้มได้มั๊ย สบาย

พร้อมเอ่ยว่า....กับบทบาทการแสดงหนังมันก็สะท้อนถึงวงการเพลง เดี๋ยวนี้นักร้องก็ชอบมีแต่งตัววับ ๆ แวม ๆ นู้นนี่ มาเต้นพึ่บพั่บ ๆ กัน แต่อาจจะไม่ได้ร้องเพลงเป็นนักร้องมากมาย อาจจะขายหน้าตา ขายการเต้นไป หนังเรื่องนี้ก็พูดถึงเรื่องนั้นอยู่พอสมควร

มาเล่นหนังแล้วย้อนดูตัวเอง คิดย้อนอยากกลับไปเริ่มต้นอะไรใหม่ไหม

...ไม่มีอ่ะ ทำไปหมดแล้ว ได้ดั่งใจ ผมก็เกิดมาจำความได้ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมก็อยากเป็นนักดนตรี นักวาดรูป ผมก็คิดอยู่แค่นั้น แล้วเราก็ได้เป็นนักดนตรีสมใจสบายใจ (หัวเราะ) ก็เป็นความฝันตั้งแต่เด็ก แล้วก็ฝันว่าอยากจะเป็นมือกีต้าร์ร็อกอย่างเดียว ไม่อยากร้องเพลง ก็เคยได้ทำแล้ว ผมเคยตั้งวงที่ชื่อเบญจแบนด์ เอาวงที่เอาน้องชายมาร้องนำ ผมเล่นกีต้าร์อย่างเดียวเลย อันนั้นก็คือฝันหนึ่ง จริง ๆ แล้วผมไม่ชอบร้องเพลง แต่พอมาอยู่แกรมมี่ มาเป็นนูโว พี่เต๋อสั่งมาเลยว่าต้องร้อง 3 คน จอห์น โจ ก้อง ก็เลยต้องมาเป็นนักร้องไปโดยปริยาย (หัวเราะ) ถามว่าชอบมั๊ย ไม่ชอบ ไม่ชอบร้องเพลง ชอบเล่นกีต้าร์อย่างเดียว ก็เลยตั้งวงร็อกขึ้นมาของตัวเอง เล่นเพลงร็อกในแบบที่ตัวเองชอบ คลาสสิกร็อกอย่างเดียว ทั้งคอนเสิร์ตไม่มีเพลงไทยเลย เล่นเพลงร็อกสากลอย่างเดียว สำเร็จไปแล้วก็โอเค

"น้องเจเจ" ก็เป็นวัยรุ่นมาทางสายดนตรีด้วย ทำงานด้วยแล้วรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง

....เขาก็เป็นเด็กที่มีพลังงานนะ รู้สึกว่าเด็กคนนี้เอนเนอร์จี้เยอะ พลังสูง ตั้งใจ ซึ่งในเรื่องจริงเจเจเล่นดนตรีอยู่แล้ว พอมีพื้นฐานของกีต้าร์อยู่แล้ว ร้องเพลงก็ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ร้องเพลงประกอบด้วย เนื้อเพลงก็เป็นอารมณ์ตามหาความฝัน ทำความฝันให้สำเร็จ ชื่อเพลง "เด็กกระโดดกำแพง" เหมือนทุกคนมีฝันอยู่แล้วและก็ต้องข้ามไปให้ถึงความฝัน ผมว่าเพลงมันน่าจะโดนกับใครหลายๆ คน


พี่ก้องอยากจะมีค่ายเป็นของตัวเอง ปั้นศิลปินแบบในหนังบ้างมั๊ย
...ไม่แล้ว ผมไม่ทำอะไรแล้ว จากนี้ผมจะทำอะไรให้น้อยลง มีแต่ละปลดให้น้อยลงแล้วไม่เพิ่มอะไรให้มากกว่านี้

ในวงการบันเทิง วางแผนไว้ยังไงบ้าง
...ก็หลังจาก 50 ปีไป อาจจะไม่รับงานแสดงเลย คงจะเล่นดนตรีอย่างเดียว ต้องปลดให้มันน้อยลง ตอนนี้ผมทำงานเดือนละ 28 วัน ผมมีวันหยุดแค่วันสองวันซึ่งมันโหดไปสำหรับตัวเองและคนรอบข้าง ผมไม่ค่อยมีเวลาไปกินข้าวกับที่บ้าน กับคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อเสียไปแล้วเหลือแต่คุณแม่ นี่ผมก็ต้องดูว่าจะบ้าไปถึงไหน จะเอาอะไรไปถึงไหน ก็ต้องมานั่งถามตัวเองแล้ว เบา ๆ บ้างมั๊ย มีชีวิตให้กับตัวเองบ้างมั๊ย ให้คนรอบข้างมั๊ย ให้เพื่อนฝูง ให้พ่อแม่บ้างมั๊ย ก็คงจะลดระดับการทำงานลง แต่ดนตรีเป็นสิ่งที่ผมรักและผมติด คงเลิกไม่ได้ก็เล่นดนตรีไปเท่าที่จะเล่นได้แหล่ะ แต่อื่น ๆ ที่อาจจะไม่ใช่ตัวตนเราแท้จริง งานพิธีกร งานแสดง ที่มันไม่ใช่ตัวเราจริง ๆ ก็พักก่อนมั๊ย ก็คงค่อย ๆ ลดลง แต่ใจจริงก็อยากเลิกไปเลยนะ (หัวเราะ) แต่ก็เกรงใจหลาย ๆ ฝ่ายก็คงจะต้องลดให้มันพอดี พอรับไว้นะ มันเหมือนคนคลุ่มคลั่งในการทำงานมาก ก็หนักไป

พออายุ 50 จะลดจะเลิกเพราะไม่อยากเป็นพ่อพระเอกแล้วหรือเปล่า
.....ไม่นะ จริง ๆ ผมก็รับได้หมดนะ เพียงแต่ว่าถ้าจะลดละเลิกให้ชีวิตมันเบาขึ้น ให้มีเวลาวันหยุดของชีวิตบ้าง ตอนนี้ไม่มีเวลาที่จะทำอะไรอย่างอื่นเลย สมมุติว่าผมชอบเล่นดนตรีแต่ถามว่าทุกวันนี้จะมีเวลาแกะดนตรีเพื่อเล่นมั๊ย หรือมีเวลาเพื่อไปคิดงาน คิดคอนเสิร์ตมั๊ย ไม่มีเลย คือนักดนตรีถ้าจะสร้างงานใหม่ มันต้องมีวันว่าง ๆ ที่นั่งอยู่กับบ้าน นั่งอยู่เพื่อนแล้วก็สร้างดนตรีแล้วก็ออกไปเล่น แต่ผมไม่ได้มีเวลาที่จะออกไปคิดอะไร เช้าออกจากบ้าน ๆ กลับ ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ตีหนึ่ง หมดสภาพ ตั้งนาฬิกาปลุกออกจากบ้าน เด้งตื่น ออกไป กลับมาหมดสภาพ เหมือนคนบ้า

บางคนถามว่ามึงติดหนี้อะไรหนักหนา (หัวเราะ) ทำงานขนาดนี้มึงติดหนี้อะไรเขาป่าวนี่ ทำงานใช้หนี้เหรอ เปล่า ก็ถ้าจะมีเวลาทำงานดนตรี มาทำอัลบั้ม หรือจะทำคอนเสิร์ตมันต้องมีช่วงที่เราจะต้องคลุกอยู่กับดนตรีหรือเปล่า แต่นี่มันไม่มีเลย มันมีเยอะแยะไปหมดเลย ไหนจะ อู๊ยยย เปิดคิวหาเวลากินข้าวกับแม่ได้วันไหนบ้าง ยังไม่มีเลย อีก 20 วันถึงจะได้เจอแม่ ความรู้สึกมันเกินไปแล้ว เราก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วก็ต้องเริ่มคิดที่จะลดละอะไรบ้าง อาจจะเหลือแค่เล่นดนตรี

เหมือนเคยมีคนแซวกันมาพี่ก้องต้องเล่นดนตรีเพราะเพื่อน หางานให้เพื่อน แต่จริง ๆ ตัวเองที่ขาดดนตรีไม่ได้
.....แน่นอน เรื่องเพื่อนก็ด้วย แต่ผมก็ชอบที่จะเล่นดนตรี แต่เราก็รักเพื่อน เราก็อยากให้เพื่อนเล่นดนตรีไปด้วยกันกับเราไปเรื่อย ๆ คือดนตรีมันไม่มีอายุนะ ผมก็จะเล่นกีต้าร์ไปจนตราบใดที่ผมยังกำมันไหวนะ จับคอร์ดแล้วมันไม่บอดผมก็จะเล่น แต่ถ้าวันไหน จับคอร์ดแล้วมันไม่ไป มือสั่น (หัวเราะ) ก็อาจจะต้องเลิกเล่น แต่ดนตรีมันไม่มีอายุไง อย่าง อีริค แคลปตัน โรลลิ่งสโตน ก็ 60-70 เขาก็ยังเวิล์ดทัวร์กันอยู่ มือกลองอายุ 72 แล้ว ผมก็รู้สึกว่าดนตรีมันไม่มีอายุ ก็เล่นไปเรื่อย ๆ แล้วมันก็เป็นสิ่งที่เรารัก เป็นสิ่งที่เรามีความสุขไม่เล่นนี่ไม่ไหว ตาย ไม่เล่นนี่เดี๋ยวลงแดง (หัวเราะ)


โครงการอัลบั้มใหม่ตอนนี้ยังมีอยู่ไหม
.....นี่แหล่ะ ที่จะบอกคือมันไม่มีเวลาทำตรงนี้ ทำอัลบั้มใหม่มันต้องอยู่บ้านเฉย ๆ เล่นกีต้าร์ไปเรื่อย ๆ แล้วก็มีเพื่อนมานั่งเล่นเปียโนไป ก็ค่อย ๆ เกิดเพลง เดือนนี้บางทีแต่งไม่เสร็จ แต่บางเพลงแต่งวันเดียวเสร็จ อย่างหลายเพลงในอัลบั้มนูโว ผมแต่งวันเดียวจบ อยู่ ๆ มา อาบน้ำอยู่ วิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ๆ เดียววิ่งลงมานั่งอัดเสียง กลัวลืม นั่นก็ได้เป็นเพลงแป๊ปเดียวจบเลย เพราะฉะนั้นการทำเพลงมันต้องมีเวลาว่าง แบบว่างสบายอยู่บ้าน จิบกาแฟ เพลงมา อัดไว้ ๆ นั่นแร่ะ แต่ตอนนี้ตื่นมา ออกจากบ้าน กลับมานอนหมดสภาพ จะเอาเวลาที่ไหนไปคิดเพลง สร้างเพลง มันไม่มี มันต้องว่างไปเลย

อย่างพี่บอย โกสิยพงษ์ เวลาเขาแต่งเพลงเขาไปอเมริกา 2 เดือน แล้วเขาก็วนอยู่อย่างนี้ ไม่คิดเรื่องอื่น ก็เสพบรรยากาศ ที่มันเหมาะกับอารมณ์เขา ๆ และพอเขากลับมาก็มีเพลงมา 20 เพลง อันนี้คือที่คุยกับทีมในเดอะวอยซ์ ทีมมิวสิคไดเรกเตอร์เขาสนิทกับพี่บอย เขาก็คุยวิธีการทำงานของพี่บอย เขาอยากแต่งเพลงเขาก็บินไปเมืองนอก เดือน 2 เดือน 3 เดือน กลับมามีเพลงกลับมา 20-30 เพลง คือมันต้องมีเวลาให้กับชีวิต ให้กับเสียงเพลง อยู่กับเพื่อนรู้ใจ มือเปียโน มือกีต้าร์ แล้วก็เล่นกัน อาจจะเล่นกันไปเรื่อยเปื่อย เดี๋ยวมันก็เกิดเพลงเอง เหมือนคนวาดรูป ตื่นมาก็นั่งสบาย ๆ ก่อน อยากวาดก็ไปวาด เมื่อยก็หยุดเดี๋ยวบ่าย ๆ ไปวาดต่อ มันต้องเป็นอารมณ์นี้

ซึ่งทำตอนนี้ยังไม่ได้
......มันก็ต้องมีเวลาหยุดก่อน เดือนหนึ่งหยุดสัก 15 วัน อีก 15 วันออกไปข้างนอก มันก็จะมีเวลาให้ตัวเอง อยู่กับดนตรีมันถึงจะเกิดงาน แต่ทุกวันนี้ไม่มี

ซีเรียสไหม ว่าต้องมีอัลบั้มใหม่ให้ได้
.....ไม่ครับ เราลองทำมาเยอะแล้ว คนก็ยังอยากฟังอัลบั้มเก่า ๆ ของ นูโว อยู่ดี ลองทำมาไปอยู่กับโซนี่ ไปอยู่กับบัตเตอร์ฟลายด์ ก็ไปทำนู้นทำนี่ก็ไม่ซัคเซสเท่ากับนูโวชุดแรก ๆ คนก็ยังอยากฟังนั่นแหล่ะ ลืมไปไม่รักกัน ถึงเราไปเล่นเพลงใหม่ คนก็ขอแต่เพลงเก่า คนก็ยังสนุกอยู่นะ เพลงมัน ๆ ขึ้นปุ๊บก็เต้นทันที คางคกร่าเริงเลย แบบนั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook