วง MILD เผยความท้าทาย! ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของวงการเพลงไทย | Sanook Music

วง MILD เผยความท้าทาย! ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของวงการเพลงไทย

วง MILD เผยความท้าทาย! ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของวงการเพลงไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงแม้ว่าจะฟอร์มมาวงมาเป็นเวลาสิบปีแล้ว แต่กระแสความดังของวงดนตรี 6 หนุ่มอย่างวง MILD นั้นแทบไม่ลดลงไปเลย ซึ่งในปีที่ผ่านมานั้นพวกเขาก็ได้ทำสถิติยอดวิวร้อยล้านจากผลงานเพลง ซาโยนาระ และซิงเกิ้ลเพลง I'm OK ของพวกเขาก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก และในวันนี้สมาชิกวงมายด์ก็ได้แวะมาพูดคุยกับทีมงาน Sanook! music ถึงซิงเกิ้ลใหม่ ที่จริงเราไม่ได้รักกัน และอัพเดทเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่และคอนเสิร์ตใหญ่ที่พวกเขาจะจัดในปี 2560 ด้วย 

ปีที่ผ่านมาเพลง ซาโยนาระ และ I'm OK ประสบความสำเร็จมาก รู้สึกกดดันกับผลงานใหม่บ้างไหม 

วงมายด์ : มันเลยจุดนั้นมานานแล้วครับ ทุกวันนี้ที่ทำงานคือทำเพราะความสุข ที่เห็นคนชอบเพลงของเรา ไม่ได้ทำมาเพื่อความสำเร็จ คือเราทำเพื่อความสุขเพื่อประชาชน (หัวเราะ) ก็เลยไม่กดดันแล้วครับ

เพลงใหม่ล่าสุด ที่จริงเราไม่ได้รักกัน มีแรงบันดาลใจมาจากไหน เป็นเรื่องราวของสมาชิกคนไหนหรือเปล่า

วงมายด์ : จริงๆมันเป็นเรื่องที่เกิดกับใครก็ได้ คือเราอาจจะคิดไปเองว่าเขารักเรา หรือคบใครไปนานๆ เราอาจจะไม่แน่ใจว่าเรารัก เพราะมันอาจจะแค่ผูกพัน ที่ผ่านอาจไม่ใช่รัก คือมันเกิดได้กับทุกคน 

 

เป้ นักร้องนำ

ซิงเกิ้ลเพลงนี้ ต่างจากผลงานที่เคยทำมาอย่างไรบ้าง 

วงมายด์ : เพลงนี้เราอยากให้เหมือนอัลบั้มแรกแบบ Unloveable, อีกนานไหม อยากได้ฟีลแบบนั้น แต่ก็อยากให้มีฟีลแบบอัลบั้มใหม่อย่างการแร็พ และการเรียบเรียงแซ็กโซโฟนเซ็กซี่ๆ 

สมาชิกวงมายด์ แบ่งหน้าที่กันอย่างไรในการทำเพลงนี้ 

วงมายด์ : ผม(เป้) จะเขียนเพลงขึ้นมาและสมาชิกก็จะมารวมกันในห้องซ้อม แล้วก็จะ Arrange ในห้องซ้อม คือทำกันเองทุกขั้นตอน

เต่า (กีต้าร์)

เรื่องราวของมิวสิควีดีโอเพลงนี้พูดถึงอะไร

วงมายด์ : คือมันไม่มีเรื่องราวเลย มันออกแนวแฟชั่นฟิล์ม คือเน้นเเสงสี ความเป็นศิลปะ คือเราเอาการแสดงมาเทียบกับจิตใจ เราจะเห็นว่าพระเอกนางเอกเดินผ่านไปผ่านมา เหมือนอารมณ์คนเจอกัน แต่ไม่ได้รักกัน ภาพมันก็จะมีจัดจ้านเปลี่ยนไปมา เพื่อแสดงให้เห็นความจริงและความหลอกลวง จะเป็นอะไรที่ปลายเปิดครับ

ตอนนี้กระแสตอบรับของเพลงเป็นอย่างไรบ้าง

วงมายด์ : ตอนที่ปล่อยออกมา แป๊ปเดียวก็ได้แสนวิวแล้ว ก็ขอบคุณทุกคนครับ ปีหน้าก็จะมีอัลบั้มใหม่ออกมา พร้อมคอนเสิร์ตใหญ่ก็อยากให้ติดตามกันครับ 

ทอมท่อม (คีย์บอร์ด)

นอกจากงานของวงแล้ว สมาชิกวงมายด์ก็ได้ร่วมงานกับรุ่นน้องในค่ายด้วย การทำงานกับวงอื่นนั้นต่างจากทำงานในวงมายด์บ้างไหม

วงมายด์ : คล้ายๆกันนะครับ คือทำงานวงอื่น เป้ก็จะทำเพลงแล้วโยนให้น้องๆไปเรียบเรียง คือมันคล้ายกันเพราะพวกเราอยู่ในค่ายเดียวกัน บางทีน้องๆก็จะแวะมาดูเราทำงานเพื่อเรียนรู้การทำงานของพวกเรา จริงๆนอกจาก เป้ นักร้องนำแล้ว คุณเป้ แซ็ก ก็ร่วมงานบันทึกเสียงแซ็กโซโฟนกับวงอื่นๆด้วย อย่าง The Parkinsons, Polycat 

ในยุคนี้การทำงานเพลง มันเปลี่ยนเป็นดิจิตอล เป็นการดาวน์โหลด และชมผ่านยูทูปมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบกับวงหรือไม่ 

ตอนแรกก็เจอหนักครับ แต่เดี๋ยวนี้ดีมาก เพราะดิจิตอลทำเงินให้พวกเรามาก สมัยก่อนศิลปินแทบไม่ได้เงินเลยจากพวกยูทูปหรือโหลดผิดกฎหมาย แต่วงการเพลงเดี๋ยวนี้ดีขึ้นมาก ศิลปินสามารถหาเงินได้มากขึ้นจากเพลง แฟนๆก็สามารถจ่ายเงินได้ง่ายขึ้นเวลาซื้อบริการสตริมมิ่งหรือดาวน์โหลดเพลง 

ขุน (เบส)

สมาชิกวงมายด์รู้สึกอย่างไรกับการที่ศิลปินสามารถพูดคุยกับแฟนเพลงผ่านโซเชี่ยลมีเดียได้ง่ายขึ้น 

วงมายด์ : มันเป็นดาบสองคมครับ คืออะไรได้มาง่ายมันก็มีโทษ อย่างเวลาจะโพสต์ก็ต้องดูดีๆว่าเหมาะไหม ว่าคอนเท้นต์ที่เราลงไปมันเหมาะสมหรือเปล่า เราต้องรับผิดชอบกับสังคมเพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนรวม ไม่ใช่ที่ส่วนตัว สิ่งที่เราลงไปมันจะกระทบคนมาก แต่มองในแง่ดีคือเราเข้าหาแฟนๆได้ง่ายขึ้น อีกอย่างเราก็เรียนรู้จากเกรียนคีย์บอร์ดได้ แบบอะไรไม่จริงก็ทิ้งไป บางอันถ้ามันสำคัญก็เก็บมาคิด เพราะเราเองก็อยากคงคุณภาพเอาไว้เหมือนกันครับ 

เป้าหมายสูงสุดในการเป็นศิลปินของพวกเราคืออะไร 

วงมายด์ : รวย! (หัวเราะ) คือเราอยากเล่นอิมแพ็ค ที่ปีหน้้าอาจจะมี อยากมีเวิร์ลทัวร์ และจัดคอนเสิร์ตที่แปลกๆ ครับ

เป้ แซ็กโซโฟน

ที่ผ่านมา 9 ปีในวงการเพลง ให้อะไรกับพวกเราบ้าง 

วงมายด์ : วงการเพลงให้ทุกอย่าง ทำให้ครอบครัวเราสบาย ให้สถานะทางสังคมและอนาคต ถ้าไม่มีดนตรีพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ไหน คือถ้าไม่ได้ทำดนตรีก็ไม่มีอะไรเลย ตอนแรกพวกเราเล่นดนตรีเพราะความสุข แต่ทุกอย่างมันพาเรามาตรงนี้ เราก็จะพามันไปไกลที่สุด ก็อยากทุ่มทุกอย่างให้ถึงฝัน 

สมัยนี้นักดนตรีจะได้เงินมาจากงานจ้างส่วนใหญ่ ไม่เหมือนสมัยก่อน สำหรับพวกเราคิดว่าการเป็นนักดนตรีมันเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก

วงมายด์ : คือเรามาในยุคที่เพลงขายไม่ได้แล้ว แต่พวกเรายังยึดการทำเพลงเป็นอาชีพหลัก ดังนั้นก็ต้องทำให้ดีที่สุดทั้งเพลงและโชว์ เวลาทำเพลงก็ต้องคำนึงว่ามันจะเป็นส่วนไหนของโชว์ จะทำเพลงช้าอย่างเดียวไม่ได้ ก็ต้องวางแผนการทำงานว่าเพลงนี้จะอยู่ช่วงไหนของโชว์

ไมค์ (กลอง)

ในฐานะที่เราอยู่ในวงการมาสักพักใหญ่แล้ว  ทางวงมายด์มีคำแนะนำอะไรให้ศิลปินรุ่นน้อง

วงมายด์ : ก็อยากให้น้องๆมีวินัยในการฝึกซ้่อมและฟังเพลง แต่อย่าให้ไปกระทบเรื่องเรียน และให้สร้างผลงานขึ้นมาเยอะๆ คือในยุคนี้เราเข้าวงการมาง่าย มีที่ให้เราแสดงความสามารถอยู่แล้ว แต่การรักษาความดังมันก็ยากขึ้นด้วย อีกอย่างเด็กสมัยนี้เรียนดนตรีผ่านยูทูปได้ด้วย สมัยก่อนเวลาจะเรียนดนตรีหรือเล่นกีต้าร์ต้องซื้อหนังสืออะไรมาฝึก

คลิกฟังเพลง ที่จริงเราไม่ได้รักกัน - MILD

เรียกได้ว่าถึงจะเจอความลำบากมากมายในตอนเริ่มต้น แต่ในปัจจุบันวงมายด์ก็ได้กลายเป็นวงดนตรีป๊อปที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะพวกเขาได้พัฒนาตัวเองอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งใครที่อยากฟังผลงานใหม่ของพวกเขา ก็สามารถรอฟังอัลบั้มเต็มและชมคอนเสิร์ตใหญ่ของวงในปี 2560 ได้เลยครับ 

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ

อัลบั้มภาพ 16 ภาพ ของ วง MILD เผยความท้าทาย! ในการปรับตัวเข้าสู่ยุคใหม่ของวงการเพลงไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook